ชัยภูมิ – ระทึกใกล้รุ่งช่วงตีสี่ก่อนพระใกล้ออกบิณฑบาตร ชาวบ้านแตกตื่นอลหม่านกันทั้งวัด หลวงพ่อตีกลองเรียกขอความช่วยเหลือ หลังเกิดไฟไหม้ศาลาการเปรียญเก่าแก่อายุนับกว่า 100 ปี วอดทั้งหลังเศร้าทั้งหมู่บ้าน!
เมื่อเวลา 03.45 น.วันที่ 24 ธันวาคม 2562 พ.ต.ท.ชยพล ดีหลี รอง ผกก.สภ.บ้านค่าย รับแจ้งจากศูนย์วิทยุตำรวจบ้านค่าย ว่ามีเหตุไฟไหม้ศาลาการเปรียญ วัดกลางหมื่นแผ้ว หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมประสานขอรถน้ำจากเทศบาลบ้านค่าย และรถน้ำจาก อบต.หนองนาแซง และ รถน้ำเทศบาลเมืองชัยภูมิ เข้าช่วยกันสกัดเพลิงกันอลหม่านตลอดใกล้รุ่งจนถึงช่วงเช้าที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- "เลยดั้น" แค่มุมภาพเดียว กลายเป็นไวรัล ดึงดูด นทท.แห่เช็คอินถ่ายภาพ อ.น้ำหนาวเตรียมดันเป็นซอฟพาวเวอร์
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
ในที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกลามบริเวณศาลาการเปรียญหลังเก่า ที่มีอายุเก่าแก่มานานนับกว่า 100 ปี ของวัดกลางหมื่นแผ้ว เพลิงได้โหมจากชั้นบนของตัวศาลา เจ้าหน้าที่จึงใช้น้ำเร่งฉีดสกัดเพลิง ด้วยเพลิงมีการลุกลามอย่างรวดเร็ว จนทำให้ทางจนท.ใช้เวลาอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงใว้ได้ แต่เพลิงได้เผาผลาญจนศาลาการเปรียญเก่าแก่อายุนับ 100 ปี เสียหายไปจนหมดแล้ว ท่ามกลางชาวบ้านพากันออกช่วยกันดับไฟช่วยกันอลหม่าน และเห็นท่าว่าจะไม่สามารถช่วยดับไฟได้ทันแล้วได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ไว้จำนวนมาก และต่างพากันรู้สึกเศร้าต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันทั้งหมู่บ้าน ที่ศาลาการเปรียญหลังนี้ชาวบ้านหลายรายตั้งแต่เกิดมาจนอายุจะกว่า 70-80 ปี แล้วก็เห็นศาลาฯหลังนี้อยู่ที่วัดดังกล่าวแล้ว
สอบถามไปยังพระนเรฐ ปริปุณโณ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงชาวบ้านร้องโวกเหวกโวยวาย จึงรีบตื่นมาดูพบไฟไหม้ศาลาการเปรียญเก่าแก่ไปจำนวนมากแล้ว ก่อนที่จะรีบวิ่งไปตีกลองเพลร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในระแวกดังกล่าว พากันวิ่งออกมาช่วยเหลือจำนวนมาก พร้อมทั้งโทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งครั้งนี้ที่โชคยังดี ศาลาดังกล่าวไม่มีพระอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นเพียงศาลาที่เอาไว้เก็บพระพุทธรูปและข้าวของของวัดเก็บไว้ ซึ่งต้นเพลิงไหม้ลงมาจากด้านบนของตัวศาลา แต่การเข้ามาช่วยเหลือของทุกฝ่ายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้าน ก็ไม่ทันแล้วเพลิงได้เผาผลาญศาลาฯไปวอดหมดทั้งหลังหมดแล้วอย่างรวดเร็ว
ต่อมาทางด้าน พ.ต.ท.ชยพล ดีหลี รอง ผกก.สภ.บ้านค่าย หลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมยังไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการเกิดเหตุเพลิงไม่ในครั้งนี้ได้ และยังประเมินค่าความเสียหายไม่ได้เพราะมีพระพุทธรูปเก่าแก่อยู่ภายในได้รับความเสียหายอีกจำนวนมากประเมินค่าไม่ได้ และต้องรอให้กองพิสูจน์หลักฐาน สภ.เมืองชัยภูมิ เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: