ชัยภูมิ – กระทรวงดิจิทัล พร้อมด้วย ทีโอที นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมการดำเนินงานโครงการเน็ตชายขอบของ กสทช.ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ นำร่องแห่งแรกที่โรงเรียนประจำชุมชนในต.หนองสังข์ อ.แก้งคร้อ และในส่วนของจ.ชัยภูมิที่จากนี้ไปจะมีดำเนินการในพื้นที่ให้ทั้งหมดรวมอีกกว่า 58 แห่ง/จุด ซึ่งจะถือเป็นการส่งเสริมให้ทุกชุมชนที่ไม่มีสัญญาณโครงข่ายโทรศัพท์เข้าไปถึงได้มีโอกาสเข้าถึงอย่างเท่าเทียบร่วมกันในทั่วประเทศได้มากขึ้นและยังเป็นการลดความซ้ำซ้อนกับโครงการเน็ตประชารัฐที่จะเป็นการเสริมช่วยในการลดค่าใช้จ่ายเงินงบประมาณของประเทศอย่างคุ้มค่าได้มากขึ้นได้ลดลงอีกกว่า 280 ล้านบาท
โดยในช่วงตั้งแต่วันที่ 29 -30 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมคณะประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทีโอที โดยมีนายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที พร้อมนำคณะสื่อมวลชนมาเยี่ยมชมการดำเนินโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ที่ดำเนินการก่อสร้างเสร็จเป็นแห่งแรกของจ.ชัยภูมิ ให้ประจำจุดไว้ภายในโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน ต.หนองสังข์ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ที่มีมูลค่าการก่อสร้างในแต่ละแห่ง/จุดมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
ซึ่งในส่วนของจ.ชัยภูมิ ในการดำเนินการครั้งนี้จะมีการดำเนินการก่อสร้างให้ทั้งหมดรวมอีกกว่า 58 แห่ง/จุดทั่วทั้งหมดจ.ชัยภูมิ โดยโครงการนี้จะมุ่งเน้นลงไปดำเนินการ หมู่บ้านในพื้นที่ชายขอบ Zone C + กองสำนักงาน กสทช. วงเงินงบประมาณในครั้งนี้รวมกว่า 6,486,399 ,926 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข่าวน่าสนใจ:
ด้วยสัญญาณกลุ่มที่ 1 ภาคเหนือ 1 การจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ( Mobile Service ) สัญญาณกลุ่มที่ 2 ภาคเหนือ การจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ( Broadband lnternet Service ) สัญญาณกลุ่มที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือการจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง( Broadband lnternet Service )
ขณะที่นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพร้อมด้วยประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทีโอที กล่าวว่าโครงการเน็ตชายขอบมีระยะเวลาสัญญา 6 ปีตั้งแต่ 28 กันยายน 2560 ถึง 28 กันยายน 2566 โดยบริษัททีโอทีจะเป็นผู้ดำเนินการตามสัญญาครั้งนี้
สำหรับการดำเนินโครงการ TOT ได้ดำเนินงานตาม ทีโออาร์ที่มีการลงทุนเครือข่ายเน็ตชายขอบ เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนกับ โครงการเน็ตประชารัฐ และรวมถึงโอเปอร์เตอร์ ที่ชนะการประกวดราคาจะต้องทำการสำรวจพื้นที่และจุดติดตั้งก่อนดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์พร้อมเสนอให้กสทช. พิจารณาตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนก่อนดำเนินการตามหลักสถาปัตยกรรมและภูมิประเทศ ที่ยืนยันว่าไม่มีการเกิดปัญหาทับซ้อนแต่จะเป็นการเสริมช่วยให้เกิดการใช้งบประมาณที่คุ้มค่ามากขึ้นในครั้งนี้ด้วย
ด้าน นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บมจ. TOT กล่าวว่า จากการออกแบบโครงข่ายใหม่ดังกล่าวจะทำให้การลงทุนเครือข่ายเน็ตชายขอบไม่มีความซับซ้อนกับโครงข่ายเน็ตประชารัฐตามที่กสทช. ได้กำหนดให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลโดยสามารถลดจำนวน olt ของโครงการลงจำนวน 150 ชุดจากจำนวน 445 จุด คงเหลือการติดตั้งจำนวน 295 จุดคิดเป็นลดลงร้อยละ 33.7 โดยยังคงให้บริการครอบคลุมทั้งหมด 2,745 หมู่บ้านตามที่ระบุไว้ในสัญญาและมีคุณภาพการให้บริการตามมาตรฐานที่กำหนดรวมถึงทำให้สามารถลดจำนวนอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอาทิเช่น สายเคเบิลใยแก้วนำแสงค่าติดตั้ง และค่าบำรุงรักษาในระยะยาวนอกจากนี้ยังส่งผลให้กสทช. สามารถประหยัดงบประมาณโดยลดวงเงินลงทุนในภาพรวมของโครงการดังกล่าวลงได้อีกกว่า 280 ล้านบาทซึ่งเป็นการลดเงินค่าลงทุนของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพได้มากขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ในการดำเนินงานตามโครงการเน็ตชายขอบทีโอทีได้ก่อสร้างศูนย์ uso ที่ตำบลหนองสังข์ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจะเป็นอาคารต้นแบบในการที่จะดำเนินการอีกจำนวน 390 แห่ง โดยบริษัททีโอทีจะสามารถส่งมอบโครงการเน็ตขอบชายหรือชายขอบได้ตามที่กำหนด ทั้งสัญญา 3 ครั้งนี้ จาก 28 กันยายน 60 ถึง 28 กันยายน 61 ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ตามโครงการ 1 ตุลาคม 61 ถึง 30 กันยายน 66 ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ตามโครงการ WiFi และบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมการบำรุงรักษาอุปกรณ์แก้ไขเหตุเสียให้คืนดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และวันที่ 1 ตุลาคมถึง 29 พฤศจิกายน 66 อีกต่อไปด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: