ชัยภูมิ – ชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางแก้ไขที่ปลอดภัยกว่าที่เป็นอยู่ให้มากกว่านี้ หลังตลอดช่วงต้นปีที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุในจุดนี้รายวันนับครั้งไม่ถ้วนมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 2 ศพ เจ็บอีกนับหลายสิบราย ล่าสุด 2 หนุ่มควบจยย.ผ่านจุดเสี่ยงยูเทิร์นบนถนนสาย 201 ดังกล่าวพุ่งชนรถยนต์อย่างจัง เจ็บสาหัส2ราย ชาวบ้านวอนควรเร่งปรับปรุงช่วงถนนที่มืดเกินไปให้มีไฟแสงสว่างที่เพียงพอ และเพิ่มจุดให้มีสัญญาไฟที่ชัดเจนเพื่อช่วยแจ้งเตือนรถที่ขับมาทางตรงได้ช่วยกันชะลอความเร็วให้มากกว่านี้ด้วย!
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 18 ก.ค.61 พ.ต.ท.บุญยงค์ สอนสุข รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากทางศูนย์วิทยุ 191 สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ ว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์พุ่งชนประสานงากับรถยนต์อย่างจังจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีรถล้มขวางถนนเกิดการจราจรติดขัดจำนวนมาก บริเวณจุดทางเลี้ยวกลับรถยูเทิร์น ก่อนถึงหน้าปั๊มก่อนเข้าถึงตัวเมืองชัยภูมิ บนถนนหมายเลข 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว
จึงเร่งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสจำนวน 2 ราย นอนไม่รู้สติอยู่กลางถนน จึงได้ประสานอาสาสมัครมูลนิธิสว่างคุณธรรมชัยภูมิ และหน่วยกู้ชีพ รพ.ชัยภูมิ ร่วมเร่งให้การช่วยเหลือ
ซึ่งในที่เกิดเหตุเป็นบริเวณจุดกลับรถยูเทิร์น บริเวณหน้าปั๊มบางจาก เยี่ยงทางเข้าหมู่บ้านเอื้ออาทร 2 ต.หนองนาแซง พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย อาการสาหัสนอนคว่ำหน้าหมดสติ 1 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลจังหวัดชัยภูมิ
ภายในบริเวณที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ ป้ายทะเบียน 1 กฉ 9268 ชัยภูมิสภาพ ด้านหน้าพังยับ ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บที่ขี่จยย.มาด้วยกันทั้ง 2 คน ต่อมาคือนายเจริญ เกษโพนทอง อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 55 ม.4 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และนายวิชญะ อาจสกุล อายุ 22 ปี บ้านเลขที่56 ม.4 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งล่าสุดทั้ง 2 ราย อาการยังสาหัสน่าห่วงต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ตลอด 24 ชม.อยู่ที่รพ.ชัยภูมิ
ใกล้กันยังพบรถยนต์ อีซูซุ สีบรอนด์เงิน ป้ายทะเบียน กข 865 ชัยภูมิ สภาพประตูด้านซ้ายพังยุบยับเยิน ใกล้กันพบนายอุระ ผริตะโกมล อายุ 58 ปี อาศัยบ้านเลขที่142หมู่ที่1ตำบลโนนแดง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าวยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ ว่าในขณะที่ตนเองได้ไปทำธุระจากห้างดังใกล้เคียงมาเสร็จแล้ว ตนเองก็จะเดินทางกลับบ้านแต่จะต้องมากลับรถที่ผ่านบริเวณจุดนี้เป็นประจำ
ซึ่งช่วงเกิดเหตุขณะที่ตนเองกำลังรอกลับรถอยู่นั้นได้มองดูระยะรถจยย.ดังกล่าว ในทางตรงที่กำลังวิ่งมาว่าห่างไกลกันมากแล้ว และยังมีมีรถรอต่อคิวคันหลังรอเลี้ยวกลับรถตามมาอีกหลายคันจึงได้ตัดสินใจกลับรถจนตั้งลำได้แล้ว ในขณะนั้นก็ได้ยินเสียงดังโครม เข้าที่ข้างประตูรถด้านซ้ายเข้าอย่างจัง จึงได้ลงไปดูก็พบว่าเป็นรถ จยย.พุ่งเข้ามาชนเสียแล้ว
ตนเองจึงได้เร่งแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเป็นการด่วน และยอมรับว่ามองดูอยู่ว่ารถ จยย.ยังอยู่อีกไกลมากแล้ว และน่าจะขับมาด้วยความเร็วจึงได้ชนรถตนเองเข้าอย่างจัง ซึ่งจุดกลับรถสาย 201 ในจุดนี้ถือว่าเป็นจุดเสี่ยงอันตรายเวลามากลับรถบ่อยครั้งมากทั้งเรื่องไฟฟ้าแสงสว่างที่มีไม่เพียงพอ รวมทั้งจุดรถที่มาทางตรง ก็ยังขาดจุดสัญญาณไฟเตือนให้ช่วยชะลอความเร็วก่อนที่จะผ่านถึงจุดกลับรถดังกล่าวด้วย
ขณะที่ชาวบ้านในละแวกนี้กล่าวว่า จุดกลับรถยูเทิร์นในเส้นทางนี้ ถือเป็นจุดเสี่ยงอันตรายมากเป็นจุดวัดดวงกันเอาเอง ว่าใครจะไปก่อนไปหลัง และเกิดเหตุชนซ้ำซากมาตลอด ชนบ่อยครั้งรายวันทั้งกลางวันและกลางคืนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แค่ช่วงต้นปี61ที่ผ่านมาก็มีอุบัติเหตุลักษณะเดียวกันจนมีคนเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ศพ บาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วนอีกนับหลายสิบราย
เนื่องจากรถทางตรงจะขับมาเร็วมาก ส่วนรถจะเลี้ยวกลับก็มีจังหวะออกตัวได้ช้ามาก รถที่สวนทางมาก็ทำให้รถในขณะกลับรถมองไม่เห็นได้ชัดทั้งจากไฟฟ้าแสงสว่างในจุดนี้ที่ยังมีไม่เพียงพอ รวมทั้งจุดแจ้งสัญญาณไฟแจ้งเตือนรถทางตรงให้ชะลอความเร็วก็ยังมีไม่เพียงพอ ที่ผ่านมาจึงทำให้เกิดเหตุบ่อยครั้ง และอยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งลงมาแก้ปัญหารถชนกันในจุดนี้ที่เกิดเหตุชนซ้ำซากรายวัน จนสร้างความเสียหายเดือดร้อนมีคนได้รับบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากทุกปีในจุดนี้อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในชีวิตและทรัพย์ของประชาชนให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นี้ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: