ชัยภูมิ – และบัญชีลูกหนี้เงินกู้อีกเป็นจำนวนมากหลายพันคนมีบัญชีปล่อยกู้รายใหญ่ของจังหวัดไปให้แทบในทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ในรอยต่อ 2 อำเภอ !!!
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 27 ก.ค.61 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ และพ.อ.เกียรติศักดิ์ วิเวก รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจ.ชัยภูมิ เปิดแถลงผลข่าวการติดตามจับกุมนายทุนปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดรายใหญ่ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ณ ห้องประชุม สภ.บำเหน็จณรงค์
หลังมีชาวบ้านในพื้นที่รวมมากกว่า 69 ราย ร้องทุกข์ต่อสำนักนายกรัฐมนตรีและตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ ให้ช่วยตรวจสอบกลุ่มนายทุนเงินกู้รายนี้อยู่ในพื้นที่อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สรวิศ มาอินทร์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ นำสนธิกำลังตำรวจชุดเฉพาะกิจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ นปพ. ตร.ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชัยภูมิ ตำรวจภูธรบำเหน็จณรงค์ และกองกำลังทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดชัยภูมิ
นำหมายค้นจากศาลจังหวัดชัยภูมิที่ 51/2561 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายไพศาล ตั้งไพโรจน์วงศ์ อาย 57 ปี พร้อมภรรยา นางวรรณธนา อายุ 58 ปี ที่อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 228 หมู่ 16 ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ
จนเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดเอกสารเกี่ยวกับการกระทำความผิดปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดครั้งนี้ไว้ได้เป็นหลักฐานเป็นจำนวนมากทั้งเอกสารสัญญาเงินกู้ สัญญาเช่า ที่มีการเซ็นต์โอนลอยแนดที่ดินไว้ให้กลุ่มนายทุนครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ที่โฉนดที่ดิน และเอกสารสมุดบันทึกลูกหนี้ ที่ต้องตกใจว่ามีสมึดบัญชีรายชื่อผู้กู้เงินนอกระบบในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก นับหลายพันราย ในรอยต่อของ 2 อำเภอ ที่อยู่ในเขตอำเภอบำเหน็จณรงค์ และใกล้เคียงที่อำเภอเทพสถิต ที่มีรายชื่อผู้กู้ในเกือบทุกหมู่บ้าน ในเกือบทุกตำบลของรอยต่อ 2 อำเภอดังกล่าว
รวมมูลค่าวงเงินทั้งหมดสูงนับพันล้านบาท ซึ่งการตรวจสอบเอกสารก่อนมีการแถลงข่าวครั้งนี้ทางตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ ต้องมีการใช้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนเข้ามาช่วยตรวจสอบเอกสารจำนวนมากกว่า 15 นาย ใช้เวลาอยู่นานเกือบ 3 ชั่วโมง
ก่อนที่จะมีการตรวจสอบคัดแยกเอกสารเพื่อดำเนินคดีในส่วนที่มีผู้เสียหายที่ร้องทุกข์ว่ามีการเรียกเก็บดอกเบี้ยโหดเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดในเบื้องต้นรวม 69 ราย ครั้งนี้ และส่วนที่เหลืออีกจำนวนมากยังไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งร้องทุกข์เพิ่มเติม ที่อยู่ระหว่างเจ้าทุกข์ที่เหลืออีกจำนวนมากเดินทางเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมต่อไป
โดยพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ระบุว่าในส่วนที่จะต้องมีการดำเนินคดีตามกฏหมายในครั้งนี้ในเบื้องต้นได้ก่อนมีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งได้ยื่นเอกสารทรัพย์สินที่ยึดไว้เป็นของกลางครั้งนี้
ทั้งหมดประกอบด้วยหนังสือสัญญาจำนองที่ดินพร้อมโฉนดที่ดินเอกสารประกอบการกู้ยืมเงินของผู้เสียหายที่ร้องทุกไว้ทั้ง 69 ราย รวมเป็นโฉนดที่ดินที่อยู่กับนายทุนเงินกู้รายนี้ รวม 85 แปลง เนื้อที่ที่ดิน รวมกว่า 490 ไร่ , สำเนาโฉนดที่ดินของผู้กู้จำนวน 2 ซอง สมุดบัญชีลูกหนี้ที่มีรายการจดการชำระหนี้ จำนวน 45 เล่ม หนังสือมอบอำนาจของนางมาลัย เซาว์วาล จำนวน 1 ซอง หนังสือสัญญาเช่า (ไม่ได้กรอกรายละเอียด) จำนวน 50 เล่ม หนังสือเงินกู้แบบฟอร์มเปล่า 34 เล่ม หนังสือสัญญาจะซื้อขายหรือสัญญาวางมัดจำ จำนวน 26 เล่ม และเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องในคดีเพื่อขอตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานอีกจำนวนมากหลายลัง(เบียร์)
ก่อนที่จะมีการส่งมอบตัวผู้ต้องหาที่เป็นนายทุนเงินกู้ 2 ผัวเมียเสี่ยร้อยล้านในพื้นที่อ.บำเหน็จณรงค์ ครั้งนี้ที่มีการสืบทราบว่ามีพฤติกรรมการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดในพื้นที่มานานมากว่า 30 ปีแล้ว มาตั้งแต่ปี 2526 ไดเนำส่งมอบตัวให้พนักงานสอบสวนสภ.บำเหน็จณรงค์ ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาเบื้องต้นในครั้งนี้ ได้ก่อนในข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับเป็นทางการค้าปกติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฏหมายกำหนดเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: