ชัยภูมิ – ความคืบหน้าสุดโอละพ่อซ้ำอีก ล่าสุด ตร.พบพิรุธคดีหนุ่ม 21 ปี อ้างเคยไปสอบตำรวจ และมีการจัดส่งเอกสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาให้ตนเองนำเดินทางมารายงานตัวบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจที่สภ.เมืองชัยภูมิ แต่ถูกเจ้าหน้าตรวจพบเป็นเอกสารปลอมจนถูกจับแต่งกายเลียนแบบตำรวจคาโรงพักมาตั้งแต่วานนี้นั้น ล่าสุด ตร.ยันพบพิรุธว่าหนุ่มรายนี้กับเพื่อนสนิทอีกคนเป็นคนทำเอกสารปลอมกุเรื่องครั้งนี้ขึ้นมาตบตาญาติทางบ้านว่าสอบติด ตร.เอง สุดโอละพ่อซ้ำหนักกันไปใหญ่อีก!
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 19 ก.พ.63 หลังวานนี้พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ได้รับรายงานด่วนจากพนักงานสอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ ได้ทำการจับกุม นายโชคชัย อายุ 21 ปี ชาวตำบลโนนหัน อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น หลังจากที่เจ้าตัวได้สวมเครื่องแบบตำรวจเต็มยศ พร้อมมีสัญลักษณ์ เป็นตรานายสิบ ยศสิบตรี มารายงานตัวเพื่อบรรจุทำงานที่ สภ.เมืองชัยภูมิ
ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองชัยภูมิ จับกุมตัวดำเนินคดีในเบื้องต้น ข้อหาแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ์ อันเป็นความผิดตาม มาตรา108 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี และทางพ่อเลี้ยงและญาติผู้ต้องหารายนี้ได้นำหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 100,000 บาท มายื่นขอประกันตัวออกไปแล้วตั้งแต่วานนี้ เพื่อรอให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จ ก่อนที่จะเรียกตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ซึ่งล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ว่า ในคดีนี้ที่เบื้องต้นหลายฝ่ายมีการมุ่งปมไปว่าน่าจะมีขบวนการตกเบ็ดหรือแก๊งต้มตุ๋นสอบนายสิบตำรวจอยู่งเบื้องหลัง เพื่อหลอกเรียกเงินทองให้ช่วยดำเนินการบรรจุเป็นตำรวจได้นั้น ล่าสุดเองในคดีนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว และหนุ่มวัย 21 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายนี้ยังให้การสับสน ยังไม่ตรงต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นครั้งนี้อีกหลายเรื่อง ซึ่งยังอ้างว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเคยไปสอบรับสมัครเป็นตำรวจที่จ.นคราชสีมา แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นสถานที่ใด และผ่านการฝึกอบรมก็ไม่ยอมระบุว่าเป็นสถานที่ใดได้เลย และมีการอ้างไปขอเงินพ่อเลี้ยงมาจำนวน 20,000 บาท เพื่อที่จะพยายามบอกครอบครัวว่าตนเองสอบติดและได้เป็นตำรวจในครั้งนี้ได้ ซึ่งหลังมีการตรวจสอบพบมีหลักฐานการโอนเงินมาดังกล่าวเพื่อมาให้หนุ่มรายนี้นำมาดำเนินการที่เตรียมจะทำให้ตนเองเป็นตำรวจในครั้งนี้ได้ และก็มีการจัดส่งเอกสารพร้อมส่งชุดนายสิบตำรวจตรีจัดส่งมาให้พร้อมกันครั้งนี้ เพื่อให้ตนเองเดินทางมารายการตัวเป็นตำรวจ ที่สภ.เมืองชัยภูมิ ในครั้งนี้นั้น
ซึ่งล่าสุดการตรวจสอบว่ามีการโอนเงินจากพ่อเลี้ยงมาให้หนุ่มรายนี้ตามจำนวน 20,000 บาท จริงแต่ไม่ได้มีการนำเงินไปโอนให้ใคร ซึ่งหนุ่ม 21 ปี รายนี้ได้เบิกมาใช้ดำเนินการเอง ซึ่งทราบว่ามีเพื่อนชายสนิทของหนุ่มรายนี้อีกคนอยู่ที่ขอนแก่น ที่ไม่อยากให้เพื่อนหนุ่ม 21 ปี รายนี้ผิดหวังและอยากช่วยให้เป็นตำรวจ จึงมีการเข้ามาช่วยทำเอกสารปลอมดังกล่าว ที่ทำขึ้นเป็นของปลอมเองทั้งหมด รวมทั้งชุด ที่มีการจ่าหน้าซองจดหมายดังกล่าวก็ไม่มีต้นทางจากผู้ส่งที่มีตัวตน แต่เป็นการทำติดแสตมป์ขึ้นทำส่งเอง อ้างส่งถึงให้กับตัวเองในครั้งนี้เท่านั้น
ซึ่งมีการตรวจสอบข้อมูลไปยังทางหน่วยตำรวจแห่งชาติ กลับพบว่าชายคนดังกล่าวไม่ได้สอบเข้าเป็นตำรวจ หรือ มีการฝึกการปฏิบัติหน้าที่มาเป็นตำรวจเลย อีกทั้งยังมีเอกสารปลอมที่ทำขึ้นมาอ้างในครั้งนี้ทั้งหมดอีกจำนวน 11 ชุด ประกอบด้วย 1.)บันทึกข้อความ บช.กพ. ที่ 0034223/2360 ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่อง ส่งตัวสิบตำรวจตรีเข้าประจำการ จำนวน 1 แผ่น 2.)ภาพถ่ายนายโชคชัย กรอบกระโทก แต่งเครื่องแบบตำรวจ จำนวน 1 แผ่น 3.)ภาพถ่ายการตรวจสอบชื่อข้าราชการตำรวจ จำนวน 1 แผ่น 4.)ภาพถ่ายการสนทนาระหว่าง นายโชคชัยฯ กับนายเทิดศักดิ์ อบมาสุ่ย จำนวน 15 แผ่น 5.)ซองจดหมาย ทะเบียนกำลังพลฯ จำนวน 3 ซอง 6.)หนังสือตอบยืนยันเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 1 แผ่น 7.)หนังสือขอมีบัตรประจำตัว หรือขอมีบัตรประจำตัวใหม่ จำนวน 1 ชุด 8.)แบบคำขอรับเงินผ่านธนาคาร จำนวน 1 แผ่น 9.)แบบรายงานเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ จำนวน 1 ชุด 10.)หนังสือกองกำลังพลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ ตช 0807.3 /ว04 จำนวน 1 แผ่น 11.)สำเนาหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 1 ชุด
ซึ่งหลังวานนี้ได้มีสอบสวนหนุ่ม 21 ปี ผู้ต้องหารายนี้เบื้องต้นแล้ว และได้ตั้งข้อหาในเบื้องต้น เกี่ยวกับการแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ์ อันเป็นความผิดตาม มาตรา108 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ก่อนที่ญาติผู้ต้องหาได้ใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 100,000 บาท ขอประกันตัวออกไป เพื่อรอให้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จ ก่อนที่จะได้เรียกตัวมาส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไปแล้วนั้น จากนี้ต่อไปหลังรวบรวมพยานหลักฐานที่พบมีหลักฐานเพิ่มเติมเสร็จสิ้น ก็จะได้เรียกตัวมาดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการเพิ่มเติมต่อไปด้วยอีกคดี
