ชัยภูมิ – ในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดหลวงพ่อวัดดังผุดไอเดีย!
( 2 มีนาคม 2563 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดศรีแก้งคร้อ หมู่10 ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ สร้างความฮือฮาไปทั่วให้กับคนที่มาพบเห็น ว่ามีตู้จดหมายหลากสีหลายขนาดแขวนอยู่ตามริมกำแพงวัดดังกล่าวนับ 100 ตู้ ยาวตลอดแนวกำแพงวัดแห่งนี้ และพบว่าตู้จดหมายแต่ละตู้นั้นมีการเขียนชื่อและมีรูปถ่ายชายหญิงติดอยู่และใส่กุญแจล็อคไว้อย่างแน่นหนา ซึ่งเมื่อสอบถามทางวัดก็แจ้งว่าใช้นำมาแทนโกศสำหรับใส่เถ้ากระดูกตามกำแพงอยู่ภายในวัด
จากการสอบถามพระครูศิริธรรมมาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดศรีแก้งคร้อ กล่าวว่าที่มา สำหรับตู้จดหมายที่แขวนเรียงรายอยู่ตามแนวกำแพงวัดจำนวนมากนับหลาย 100 ตู้นั้น ก็คือตู้เก็บอัฐิของผู้เสียชีวิตที่เหล่าบรรดาญาตินำมาติดตั้งไว้ตามกำแพงที่วัดแห่งนี้ ซึ่งย้อนไปเมื่อกว่า 6 ปีที่ผ่านมา หรือประมาณช่วงปี 2558 พื้นที่ภายในวัดเริ่มคับแคบไม่มีที่ว่างสำหรับวางเจดีย์เก็บอัฐิของคนในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง ที่มีขนาดใหญ่และบางครั้งยังมีการเจาะกำแพงวัดเพื่อนำอัฐิไปไว้ตามช่องกำแพงวัด
ซึ่งสร้างความเสียหายต่อกำแพงวัดและดูไม่เป็นระเบียบสวยงาม จึงเริ่มมีญาติผู้เสียชีวิตมาปรึกษาว่าบางรายไม่มีเงินซื้อเจดีย์ใส่อัฐิซึ่งมีราคาแพงราคาหลักหมื่น และถ้าจะนำไปใส่ไว้ตามช่องกำแพงก็ต้องจ้างช่างปูนมาทำให้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี
หลวงพ่อจึงบอกให้ญาติโยม ทำตามกำลังตัวเองที่มี และลองไปซื้อตู้จดหมายมาใส่โกสเถ้ากระดูกของญาติโยมในหมู่บ้านมาใช้แทนก็ได้ ที่ส่วนหนึ่งใช้สื่อความหมายสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ได้บ้าง และเป็นแนวทางในการสื่อสารกับวิญญาณกับเครือข่ายของตนเองได้ที่ทำแล้วเพื่อให้เกิดความสบายใจ ไม่เกิดความทุกข์ ก็เป็นเรื่องดีตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา และตั้งแต่วันนั้นเป็นมากว่า 6 ปี ก็มีชาวบ้านเริ่มมา ขอติดตั้งตู้จดหมายใส่อัฐิเพื่อสื่อส่งถึงวิญญาณของญาติตัวเองกันมากขึ้น มาต่อเนื่องจนปัจจุบันมากกว่า 100 ตู้
ซึ่งในช่วงแรกๆ ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาก็อดแปลกใจไม่ได้ต้องถามหลวงพ่อตลอด จนปัจจุบันก็กลายเป็นเรื่องเคยชินไปในที่สุดเมื่อทราบถึงวัตถุประสงค์ในการนำตู้จดหมายมาแขวนไว้ตามกำแพง
ด้านชาวบ้านหลายราย ต่างก็บอกว่า ช่วงแรกๆ ก็ไม่ค่อยมีญาติผู้เสียชีวิตนำตู้จดหมายมาใส่อิฐเท่าใดนัก เนื่องจากส่วนใหญ่นิยมนำไปเก็บไว้เจดีย์หรือฝังไว้ในช่องกำแพงวัด แต่ก็ยอมรับว่าเมื่อช่วงเศรษฐกิจไม่ดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่การนำอัฐิบรรจุตามกำแพงวัดแต่ละครั้ง ต้องมีค่าใช้จ่ายสูงราคาเจดีย์ก็สูงนับหมื่นบาท ส่วนการนำอัฐิไปเก็บไว้ตามช่องกำแพงก็มีค่าใช้จ่ายรวมค่าแรงค่าช่างมาทำแต่ละครั้งก็หลักหลายพันบาท จนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในช่วงหลังเศรษฐกิจไม่ดีจึงมีคนนิยมหันมาใช้ตู้จดหมายใช้เก็บอัฐิเถ้ากระดูก ที่มีความหมายช่วยส่งข้อความสื่อวิญญาณผ่านไปถึงญาติตัวเอง ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตได้มากขึ้น
รวมทั้งตู้จดหมายเก็บอัฐิยังดูดีเป็นระเบียบสวยงามและง่ายต่อการดูแลรักษา ซึ่งทางด้านพระครูศิริธรรมมาภรณ์ เจ้าอาวาสยังกล่าวอีกว่า สำหรับไอเดียการนำตู้จดหมายมาใช้เก็บเถ้ากระดูกหรืออัฐินั้นประการแรกคือเพราะมีราคาถูกญาติสามารถทำเองได้ และไม่สร้างภาระให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ สำหรับคนยากจนและถือเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งคือทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตเกิดความสบายใจ เพราะตู้จดหมายสื่อถึงการส่งต่อ ซึ่งถือได้ว่าได้ส่งดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตใส่ผ่านตู้จดหมายนี้ขึ้นไปสู่สรวงสรรค์ไปสู่ภพภูมิที่ดี เกิดขวัญกำลังใจที่ดีให้กับคนในชุมชนที่มีภาระไม่ต้องเป็นทุกข์ได้อีกทางด้วย
