ชัยภูมิ – เครือข่ายย่านสถานบันเทิงร้านคาราโอเกะลอบค้ากามดังเมืองชัยภูมิ รวบอีกหญิงสาวอายุ ต่ำกว่า 14 – 18 ปี ได้อีกต่อเนื่อง ชุดตำรวจกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดชัยภูมิ สนธิกำลังเข้มต่อเนื่อง ระดมออกกวาดล้างเครือข่ายขบวนการลักลอบค้ามนุษย์โดยการนำหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี แอบค้าประเวณีในพื้นที่ได้อีกหลายรายเตรียมขยายผลล้างขบวนการค้ากามในพื้นที่ต่อเนื่อง!!!
( 22 ส.ค.61 ) ล่าสุดหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาต่อเนื่องยันรู่งเช้าวันนี้ ที่มีชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองชัยภูมิ ร่วมกับองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ Lift International และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษจากกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ
ต่างเร่งกระจายกำลังออกติดตามขบวนการลักลอบค้ามนุษย์โดยนำหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี มาลักลอบค้าประเวณีในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ที่เป็นเครือข่ายตึกทำเนียบขาว ย่านแหล่งรวมร้านคาราโอเกะหลายแห่งในพื้นที่องเมืองชัยภูมิ ที่เปิดเป็นร้านคาราโอเกะบังหน้า ย่านตั้งอยู่ที่ริมถนนสาย 201 สายชัยภูมิ -แก้งคร้อ รอยต่อต.บ้านเล่าและต.โพนทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ หลังการจับกุมมีหญิงบริการ 6 คน เป็นเด็กอายุ 16 ปี จำนวน 2 คน เป็นผู้ค้าประเวณี ที่ชุดจับกุมได้ตั้งข้อหาเข้าข่ายค้ามนุษย์ เป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณี และอยู่ระหว่างการสอบถามขยายผลต่อเนื่อง
ซึ่งล่าสุดด้าน พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ พร้อมด้วยพ.ต.อ.สรวิศ มาอินทร์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ได้สั่งระดมกำลังจนท.ตร.ชุดปฏิบัติการพิเศษ เข้าวางแผนล่อซื้อและจับกุมหญิงสาวที่มีพฤติกรรมค้าประเวณีเครือข่ายย่านตึกทำเนียบขาว ได้เพิ่มเติมอีกหลายรายเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
โดยมีการติดต่อล่อซื้อจากกลุ่มขบวนการลักลอบค้าประเวณีครั้งนี้ได้อีกที่บริเวณห้องเลข 315 โรงแรมชื่อดังอีกแห่งในเขต ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ได้หญิงสาวค้าประเวณี 2 ราย อายุ 18 ปี และอีกรายอายุได้เพียง14 ปี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลกลุ่มหญิงสาวกลุ่มนี้ที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในครั้งนี้เพื่อติดตามกลุ่มเครือขายทั้งหมดต่อไป
ก่อนที่จะรวบรวมของกลางเป็นธนบัตรไทยใบละ 1000 บาท จำนวน 1 ใบ และธนบัตรไทยใบละ 500 บาท จำนวน 1 ใบ ที่ใช้ในการล่อซื้อไว้เป็นหลักฐานส่งดำเนินคดีกับบุคคลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องต่อไป ในข้อหา ร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยเป็นธุระจัดหาบุคคลอายุไม่เกิน15-18ปีไปเพื่อค้าประเวณี ก่อนนำตัว 2 สาว ส่งพนังงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ เพื่อขยายผลและส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่อีกด้านมีรายงานว่า หลังที่หลายฝ่ายที่มีการพบว่า มีกลุ่มขบวนการค้าประเวณีที่ถูกจับได้อ้างพาดพิงไปถึงว่ามีตำรวจในพื้นที่สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าของท้องที่รับผิดชอบสถานที่เกิดเหตุเข้ามาเกี่ยวข้อง หรืออาจจะเป็นการปล่อยปะละเลยให้มีการค้าประเวณีในพื้นที่ครั้งนี้ด้วยหรือไม่นั้น
“ที่อาจจะมีการเสนอสั่งย้าย พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ แจ้งหมื่นไวย์ ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ออกจากพื้นที่ในครั้งนี้ด้วยหรือไม่นั้น ทางฝ่ายปกครองจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เองพร้อมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ ได้รับรายงานเบื้องต้นว่าในส่วนตำรวจพื้นที่เองก็ไม่มีเจตนาที่จะปล่อยปะละเลยเพื่อปล่อยให้มีการลักลอบค้าประเวณีในพื้นที่แต่อย่างใด พร้อมทั้งกลับยังมีผลงานที่ออกติดตามจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิดในเรื่องนี้อย่างเข้มงวดมาด้วยดีตลอด และในส่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทางจังหวัดชัยภูมิ เองครั้งนี้ก็อยากให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในครั้งนี้ด้วย การที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้ทางจังหวัดชัยภูมิ ขอไม่มีความเห็นใดๆได้ นอกจากทางผบ.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดจะเป็นผู้พิจารณาให้คำตอบเองต่อไป
