ชัยภูมิ – เฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบมานานนับปี และเกิดพบความผิดสำเร็จแล้วพบมีเงินจำนวนมากหลายแสนบาทหายจริง และวอนผู้ว่าฯช่วยให้ความเป็นธรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงใหม่เพิ่มเติมเพื่อความเป็นธรรมทั้ง2ฝ่ายอีกครั้ง จนเมื่อ21 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางนายอำเภอได้รับคำสั่งจากผู้ว่าให้มีการนัดกลุ่มผู้ร้องมาสอบข้อเท็จจริงใหม่เพิ่มเติมภายในห้องนายอำเภอโดยห้ามบุคคลพร้อมทั้งสื่อมวลชนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในห้องระหว่างสอบสวนไว้ก่อนนานกว่า 6 ชม.ตั้งแต่ช่วงบ่ายโมงยันเกือบ 1 ทุ่ม และออกมาเปิดเผยว่า พบมีเงินบางส่วนที่ทางผู้นำชุมชนชี้แจงว่าเงินหายไปไม่ได้จริง ซึ่งอาจะปเนเรื่องที่เข้าใจผิดกันได้ในขั้นตอนดำเนินงานได้ และเรื่องนี้มีการยุติเรื่องไปแล้ว และต่อไปเป็นเรื่องที่ทางชาวบ้านจะไปพูดคุยประชาคมทำความเข้าใจกันต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นซ้ำอีก!!!
จนล่าสุดผู้ว่าฯชัยภูมิ เองทราบเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำอีก ต่อกรณีที่เกิดขึ้นหากทางอำเภอ ยังไม่มีการดำเนินการที่ชัดเจนในเรื่องที่เกิดขึ้นอีกทางจังหวัดโยตนเองได้สั่งให้ปลัดจังหวัดเป็นหัวหน้าคณะสอบสวนเรื่องนี้ทั้งหมดเพิ่มเติมด้วยอีกทาง ซึ่งหากพบมีการทุจริตจริงก็ต้องมีการดำเนินการกับทุกฝ่ายละเว้น157 ในการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้เด็ดขาดด้วย!!!
( 23 ส.ค.61 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ ความคืบหน้าหลังเกิดเรื่องสร้างความกังขาให้กับชาวบ้านไปทั่วหมู่บ้าน ของอ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ซึ่งได้มีตัวแทนชาวบ้านวอนขอความเป็นธรรมไปถึงนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อกรณีที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านในครั้งนี้ด้วย
หลังกลุ่มชาวบ้านพร้อมตัวแทนนายสะอาด คุ้มไข่น้ำ ในต.ภูแลนคา อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ได้ยื่นเรื่องขอให้ทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านเขว้า ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในการใช้งบประมาณของหมู่บ้านดังกล่าวรวมกว่า 12 เรื่อง ที่มีเงินงบประมาณหมู่บ้านหายไปจำนวนมาก และผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว ก็ไม่เคยออกมาชี้แจงต่อชาวบ้านเลย ซึ่งมีการยื่นเรื่องต่อทางอำเภอบ้านเขว้า พร้อมกับหน่วยงาน ปปท.ให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงมาตั้งแต่ วันที่ 16 ต.ค.2560 ผ่านมาเกือบ 1 ปี
และล่าสุดทางอำเภอ และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านเขว้า เองได้มีหนังลงวันที่ 21 มิ.ย.2561 ลงนามโดยนายธีรศักดิ์ โฉมศิริ นายอำเภอบ้านเขว้า มาถึงกลุ่มผู้ร้องว่าผลการสอบสวนทั้งหมดได้เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งผู้นำหมู่บ้านรายนี้ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ส่อไปในทางทุจริต และขอให้มีการยุติเรื่อง ซึ่งอ้างว่ารวมทั้งทางจังหวัดชัยภูมิเองก็รับทราบเห็นควรให้ยุติเรื่องดังกล่าวทั้งหมดด้วยแล้วเช่นกัน
ซึ่งหลังมีหนังสือจากทางอำเภอสั่งให้ยุติเรื่องการสอบสวนทั้งหมดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นครั้งนี้แล้ว จึงทำให้เกิดความกังขาต่อชาวบ้านในพื้นที่เป็นจำนวนมากไปทั่วว่า แล้วต่อไปการตรวจสอบเงินงบประมาณบริหารของหมู่บ้านที่หายไปแล้ว จะทำอย่างไรใครจะรับผิดชอบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่พบมีความผิดว่ามีเงินจำนวนมากหายไปแล้ว เกิดความผิดสำเร็จแล้ว กลับสั่งยุติเรื่องไม่มีการดำเนินการใดๆ หรือถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปเงินงบประมาณจำนวนมากของประเทศหากมีการตรวจพบว่ามีเงินหายไปชี้แจงไม่ได้ ก็มาปล่อยยุติเรื่องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม จะให้รอหาเงินมาคืนก็จบเรื่อง แล้วเงินที่หายไปจะได้คืนมาตอนไหนได้ก็ยังไม่มีคำตอบได้ แล้วบ้านเมืองจะปล่อยให้มีคนแบบนี้ในบ้านเมืองต่อไปได้อย่างเช่นนี้ต่อไปได้อีก โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เป็นการปล่อยคนแบบนี้ยังลอยนวล ต่อไปใครทำอะไรแบบนี้ก็ไม่มีความผิดแล้วการบริหารบ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป
ซึ่งตัวแทนชาวบ้านกว่า 10 คน กล่าวระบุย้ำอีกว่า แล้วต่อไปบ้านเมือง ประเทศเราจะอยู่กันต่อไปอย่างไร เมื่อคำสั่งทางปกครองออกมาโดยไม่คำนึงถึงการช่วยรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน ที่จะตามมาทั้งเรื่องกรณีที่ชาวบ้านยังไม่มีคำตอบเรื่องเงินงบประมาณอีกจำนวนมากหายไป ทั้งเรื่องเงินเก็บค่าน้ำประปาหมู่บ้านอีกนับแสนบาทที่ยังไม่นำฝาก ทั้งเรื่องเงินฌาปนกิจ(กองทุนหมู่บ้าน) ที่มีการเก็บจากชาวบ้านไปแล้วแต่อ้างว่าไม่ได้เก็บ เงินหายไปไหนแล้วชาวบ้านที่เสียชีวิตจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้ได้ โครงการเงินโคเหลือเท่าไร เงินกองทุนหมู่บ้าน โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน(SML) กรณีซื้อปุ๋ยแร่ภูเขาไฟจำนวนมาก 5 แสนบาท จัดซื้อมาจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในราคาทุน ปัจจุบันกลับเหลือเงินเพียง 1.8 แสนบาท และที่เหลือหายไปไหน การใช้จ่ายเงินโครงการประชารัฐงบประมาณ 2 แสนบาท และอื่นๆที่ยังไม่มีคำตอบให้ชาวบ้านได้ ณ วันนี้ จะให้ยุติเรื่องได้อย่างไร
ในครั้งนี้ตัวแทนชาวบ้านอยากจะฝากขอความเป็นธรรมกับทางนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ ให้ความเป็นธรรรมในเรื่องนี้ด้วย หลังทางชาวบ้านทราบคำสั่งจากทางอำเภอให้ยุติเรื่องไม่มีมูลครั้งนี้แล้ว ก็รู้สึกสร้างความไม่สบายใจการการสอบสวนการกำกับดูแลบริหารบ้านเมืองในจ.ชัยภูมิ ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากด้วย จึงได้มีหนังสืออุทธรณ์ขอโตแย้งไปถึงทางอำเภอบ้านเขว้า อีกครั้งเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา ก็ยังเงียบ
จนต้องวิงวอนผ่านไปถึงนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ รับทราบเรื่องจึงล่าสุดเองเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางนายอำเภอ ได้ขอนัดกลุ่มตัวแทนชาวบ้านผู้ร้องมาสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดด้วยตัวเองที่เกิดขึ้นภายในห้องนายอำเภอบ้านเขว้าโดยขอห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งสื่อมวลชนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในห้องระหว่างสอบสวนไว้ก่อนนานกว่า 6 ชม.ตั้งแต่ช่วงบ่ายโมงยันเกือบ 1 ทุ่ม
และล่าสุดเอง ทางนายธีรศักดิ์ โฉมศิริ นายอำเภอบ้านเขว้า ออกมาเปิดเผยว่า พบมีเงินบางส่วนที่ทางผู้นำชุมชนชี้แจงว่าเงินหายไปไม่ได้จริง ซึ่งอาจะเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันได้ในขั้นตอนดำเนินงานของ ผญบ.ที่เอกสารมีจำนวนมากหายไปได้ และเรื่องนี้ทางอำเภอเองมีการสั่งยุติเรื่องไปแล้ว และต่อไปเป็นเรื่องที่ทางชาวบ้านจะไปพูดคุยประชาคมทำความเข้าใจกันต่อไป ส่วนทาง ปปท.เองหนังสือยุติเรื่องตัวเดียวกันทางอำเภอเราก็ได้แจ้งไปให้รับทราบหมดแล้ว
จนสร้างความกังขาให้กับตัวแทนชาวบ้านที่เดินทางมาให้ข้อมูลในการสอบสวนที่ห้องนายอำเภอครั้งนี้นานกว่า 6 ชั่วเพิ่มเติมทั้งหมดไปแล้ว และสร้างความไม่พอใจต่อการบริหารงานของทางอำเภอในครั้งนี้เป็นอย่างมากด้วย ที่ทางนายอำเภอเองก็รับทราบว่ามีเงินงบประมาณของหมู่บ้านที่เหลือกว่า 7 เรื่อง พบมีเงินหายไปจำนวนมากหลายแสนบาทที่ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงไม่ได้ แต่ทางอำเภอกลับไม่มีการดำเนินการใดๆที่จะดำเนินการเรื่องนี้แต่อย่างใดซ้ำอีก
ซึ่งล่าสุดเอง ทางนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ แจ้งว่า ต่อกรณีที่เกิดขึ้นหากทางอำเภอ ยังไม่มีการดำเนินการที่ชัดเจนในเรื่องที่เกิดขึ้นอีกทางจังหวัดชัยภูมิ โดยตนเองได้มีคำสั่งให้ปลัดจังหวัดชัยภูมิ เป็นหัวหน้าคณะสอบสวนเรื่องนี้ทั้งหมดเพิ่มเติมด้วยอีกทาง ซึ่งหากพบมีการทุจริตจริงก็ต้องมีการดำเนินการกับทุกฝ่ายละเว้น157 ไม่ได้ในการปฏิบัติหน้าที่ เรื่องนี้ทางจังหวัดก็ยอมไม่ได้เด็ดขาดด้วยเช่นกัน
