ชัยภูมิ – ด้านภรรยาชาวไทยแจงประชาชนใกล้เคียงในพื้นที่หยุดแตกตื่น เผยเหตุสามีชาวต่างชาติที่มีอาการคลุ้มคลั่งครั้งนี้ เกิดจากมีโรคประจำตัวขาดยาที่นำมาด้วยหมดเท่านั้น แจ้ง จนท.ช่วยนำตัวเข้า รพ.ให้ยาที่ขาดจนมีอาการดีขึ้น และผลตรวจยังไม่พบว่ามีเชื้อโควิด 19 แต่อย่างใด!
( 17 มี.ค.63 ) ที่จ.ชัยภูมิ ผู้สื่ข่าวรายงานว่าเกิดเหตุมีชาวบ้านบ้านพากันแตกตื่นไปทั่วหมู่บ้าน หลังเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (16 มี.ค.63) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ จุดต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ได้รับแจ้งจาก นางเมตตา ปารค์ ว่าสามีชาวเกาหลีของตนเองเกิดอาการคลุ้มคลั่งร้องโวยวายเสียงดังและเข้าไปขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำ ภายในบ้านเลขที่ 29 หมู่ที่ 9 บ้านโคกอนุ ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ
ก่อนที่ทาง ร.ต.ท.สำอาง มาประจวบ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจตำบลนายางกลัก ได้เร่งนำกำลังพร้อมด.ต.ไพโรจน์ วงษ์นรา และอาสาตำรวจบ้าน นับ 10 คน เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าชายชาวต่างชาติที่กำลังคลุ้มคลั่งร้องโวยวายขังตัวอยู่ในบ้านดังกล่าว ชื่อนายเมียงชิ ปารค์ เป็นชายชาวเกาหลี อายุ 62 ปี อาศัยอยู่ เมืองทังจิน ประเทศเกาหลีใต้
ซึ่งก่อนเกิดอาการคุ้มคลั่งภายในบ้านพักภรรยาชาวไทยที่จ.ชัยภูมิ ครั้งนี้ขึ้น นายเมียงชิ เกิดมีอาการเครียดมาหลายวันต่อเนื่อง หลังได้เดินทางมาจากประเทศเกาหลี กลับมาบ้านของภรรยาชาวไทยที่จ.ชัยภูมิ มาตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.2563 ที่ผ่านมาโดยผ่านจุดคัดกรองผู้ป่วย วัดอุณหภูมิในร่างกาย จากสนามบินสุวรรณภูมิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวหลังจากผลตรวจไม่พบว่ามีการติดเชื้อโควิด 19 แล้ว
จึงให้เดินพากันมาพักและทำตามขั้นตอนการกักตัว 14 วัน ของชายชาวเกาหลีรายนี้พร้อมกับภรรยาชาวไทย ที่จ.ชัยภูมิ ก่อนที่จะมาเกิดความเครียด หลังที่ได้พยายามพากันกักตัวอยู่ในบ้าน ไม่ออกไปพบปะใกล้ชิดและไปสัมผัสใครในหมู่บ้านเลย มาต่อเนื่องแล้วเป็นวันที่ 11 จนใกล้จะครบ 14 วันอีกไม่กี่วันนี้ และก็มาเกิดมีอาการคลุ้มคลั่งดังกล่าวขึ้น
จนทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านพากันแตกตื่นไปทั่วในครั้งนี้ โดยด้านนางเมตตา ภรรยาของชายชาวเกาหลีที่คลุ้มคลั่งครั้งนี้ ขอกล่าวเพื่อให้ชาวบ้านใกล้เคียงได้เกิดสบายใจในครั้งนี้ด้วยว่า สามีชาวเกาหลีรายนี้ หลังกลับมาอยู่ที่บ้านตนเองที่ จ.ชัยภูมิ ก็กักขังตัวเองอยู่แต่ในบ้านเพื่อให้ครบกำหนด 14 วัน แต่ก็เห็นว่าช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขาก็เริ่มมีอาการเครียด ซึ่งก็มีโรคประจำตัวที่จะมีอาการทางโรคสมอง ที่จะต้องรับประทานยาต่อเนื่อง ซึ่งก่อนเกิดเหตุยาดังกล่าวเมื่อตรวจสอบเกิดหมด จึงทำให้เขาเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลเทพสถิต เพื่อหายาประเภทนี้มาให้รับประทานต่อได้แล้ว อาการก็ดีขึ้นปกติทั่วไปแล้ว
ซึ่งไม่อยากให้ประชาชนชาวบ้านในพื้นที่แตกตื่นเรื่องว่าจะมีการนำเชื้อโควิด 19 มาแพร่ระบาดในพื้นที่ได้นั้น นางเมตตา ฯเองก็ขอยืนยันว่าสามีชาวต่างชาติรายนี้ ไม่ได้ติดเชื้อโควิด 19 แต่อย่างใด ซึ่งผ่านการคัดกรองตรวจไม่พบเชื้อมาแล้ว ก่อนที่จะช่วยกันป้องกันเมื่อมาถึงบ้านตนเองครั้งนี้ ก็เพื่อความมั่นใจกับทุกฝ่าย จึงกักตัวอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหน หรือไปใกล้สัมผัสพบปะใครเป็นเวลา 14 วัน นี่ก็ได้กว่า 11 วันแล้ว และระหว่างกักขังตัวมาตลอดก็จะมีเจ้าหน้าที่จาก สถานีอนามัยของตำบลนายางกลัก มาเช็คร่างกายพร้อมกับตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกายทุกวัน ซึ่งสามีชาวต่างชาติของตนเองระหว่างกักตัวก็ไม่มีอาการเป็นไข้แต่อย่างใด และผลตรวจล่าสุดก็ยังไม่พบมีเชื้อโควิด 19 ในร่างกาย ขอให้ทุกฝ่ายชาวบ้านใกล้เคียงอย่าแตกตื่นไปมากกว่านี้
