ชัยภูมิ – และเพื่อความไม่ประมาทเพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อประชาชนในพื้นที่ ทางคณะแพทย์ยังต้องขอความร่วมมือให้ผู้ป่วยสาววัย 30 ปี รายนี้กลับไปกักตัวเองอยู่บ้านต่ออีก 14 วัน จนกว่าจะเกิดความมั่นใจทุกฝ่ายอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศ จนท.เร่งออกทำความเข้าใจต่อข้อบังคับเคอร์ฟิว ด้านเสียงชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ต่างออกมาขานนรับคำสั่งเคอร์ฟิวของรัฐบาลในทั่วประเทศที่จะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ( 3 เม.ย.63) เป็นวันแรก ให้ห้ามออกบ้านหลังสี่ทุ่ม-ตีสี่ ซึ่งบางส่วนก็เห็นว่าอาจจะออกมาตรการบังคับใช้เคอร์ฟิวออกมาช้าไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้สถานการณ์การแพร่ระบาดยังมียอดผู้ป่วยและเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องยังไม่หยุดเพิ่มมากขึ้นในทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ เพราะชาวบ้านในพื้นที่บางรายแค่มาตรการขอความร่วมมือยังให้ความร่วมมือน้อย หากไม่ใช้มาตรการบังคับ รวมทั้งการใส่ใจเรื่องช่วยกันสวมหน้ากากในหลายพื้นที่ในปัจจุบันก็ยังมีน้อย วอนให้ชาวชัยภูมิ ทุกคนช่วยกันเข้มงวดฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปร่วมกันให้ได้โดยเร็ว!
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ขณะนี้ยังอยู่ที่ยอดรวมทั้งสิ้น 2 ราย ซึ่งเป็นหญิงสาวเดินทางกลับมาจากไปฝีกงานและทำงานอยู่ในสถานบันทิงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯได้เดินทางกลับมาอยู่ที่บ้านที่จ.ชัยภูมิ รายแรกพบติดเชื้อเมื่อวันที่ 25 มี.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหญิงนักศึกษาฝึกงานวัย 20 ปี ชาวอ.ภูเขียว และมาพบติดเชื้อโควิด -19 ต่อเนื่องอีกรายในวันที่ 26 มี.ค.63 ซึ่งเป็นหญิงวัย 30 ปี ชาวอ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ
ข่าวน่าสนใจ:
- ชัยภูมิชาวโนนทองสืบสานประเพณีนอนลานตีข้าวเปิดลานศูนย์รวมสุดยอดสินค้าอาหารพื้นบ้านไทยส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่68คึกคักกว่าทุกปี!
- มุกดาหาร -เลขาธิการ ป.ป.ส. ควงแม่ทัพภาค 2 ลงเรือตรวจสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-ลาว จ.มุกดาหาร
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า ในส่วนของหญิงวัย 30 ปี ชาวอ.เนินสง่า ที่พบติดเชื้อรายนี้และได้นตัวเข้าสู่ขบวนการช่วยรักษามาต่อเนื่องจนถึงวันนี้ ( 3 เม.ย.63 ) ทางแพทย์โรงพยาบาลเนินสง่า สามารถช่วยรักษาให้มีอาการหายจากเชื้อโควิด -19 หรือมีผลตรวจเป็นลบได้แล้ว ซึ่งได้ให้ผู้ป่วยโควิด-19 หญิงวัย 30 ปี รายนี้เดินทางกลับไปพักรักษาตัวต่อที่บ้านแล้ว โดยได้มีการขอความร่วมมือ ให้หญิงวัย 30 ปี รายนี้ช่วยสร้างความมั่นใจกับคนในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียง ด้วยการช่วยกักตัวเองต่ออยู่ที่บ้านเพื่อดูอาการยืนยันอีกครั้งในระยะเวลาอีก 14 วัน และจะมีการจัดส่งชุดแพทย์ติดตามไปช่วยดูประเมินอาการอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะเกิดความมั่นใจว่าปลอดเชื้อและหายจากโควิด -19 ในครั้งนี้เป็นรายแรกของ จ.ชัยภูมิ ต่อไปอีกครั้ง
ซึ่งล่าสุด จ.ชัยภูมิ เองถือว่าสถานการณ์การติดเชื้อและแพร่ระบาดโควิด -19 ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ก็เริ่มกลับมามีสถานการณ์ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จากมีผู้ติดเชื้อ 2 ราย และ 1 ใน 2 ราย ถือว่ามีการรักษาอาการให้หายดีจากเชื้อโควิด -19 นี้ได้ในเบื้องต้น 1 ราย แต่ก็ยังต้องอยู่ในขั้นตอนติดตามเฝ้าระวังเพื่อรอผลตรวจยืนยันว่าไม่มีเชื้อโควิด -19 อย่างเป็นทางการออกมาจากห้องแลปยืนยันอีกครั้งในระหว่างให้กักตัวดูอาการอยู่ที่บ้านในขณะนี้ต่อไปอีก 14 วัน รวมทั้งในภาพรวมทั้งจ.ชัยภูมิในขณะนี้ มีการพบผู้ป่วยยืนยันยังมีเชื้อโควิด -19 รวม 2 ราย ซึ่งมีอาการดีขึ้นมีแนวโน้มที่จะช่วยรักษาให้หายได้ต่อไป และในส่วนที่เคยมีผู้ที่เข้าข่ายเฝ้าระวังโรคในทั่วทั้งจังหวัดหลายร้อยคน และล่าสุดรวมมีผุู้เข้าข่ายเฝ้าระวังล่าสุดรวม 83 รายในปัจจุบัน
รวมทั้งทำให้บรรยากาศการที่ทางรัฐบาล ได้ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนอกจากบ้านตั้งแต่เวลา 22.00 – 04.00 น.ออกมาบังคับใช้ในวันนี้เป็นวันแรกในทั่วประเทศนั้น ด้านเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดชัยภูมิ ได้จัดชุดออกใช่รถ และให้ผู้นำทุกชุมชนหมู่บ้าน ประกาศให้ความเข้าใจต่อข้อปฏิบัติตัวตามมาตรการเคอร์ฟิว ในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งทางผู้สื่อข่าวได้ไปสอบความท่าทีความคิดเห็น ของประชาชนส่วนใหญ่ใน จ.ชัยภูมิ ต่างออกมาขานรับเห็นด้วยกับคำสั่งเคอร์ฟิวของรัฐบาลครั้งนี้จำนวนมากด้วยเช่นกัน ซึ่งบางส่วนเห็นว่าอาจจะออกมาตรการบังคับใช้เคอร์ฟิวออกมาช้าไปหน่อยบ้างในครั้งนี้ เพราะปล่อยให้มีการแพร่เชื้อระบาดจนกระจายวงกว้างไปทั่วประเทศจำนวนมากแล้ว แต่ก็ยังดีกว่าจะยังปล่อยให้สถานการณ์การแพร่ระบาดแย่ลงไปมากกว่านี้ เพราะยังมียอดผู้ป่วยและเสียชีวิตในประเทศไทยยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องยังไม่หยุดอยู่ในขณะนี้ด้วย
ซึ่งการประกาศใช้เคอร์ฟิว ชาวบ้านส่วนใหญ่พร้อมขานรับเห็นด้วย เพราะชาวบ้านในพื้นที่ยังพบว่าปัญหา การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ ยังมีคนบางกลุ่มแค่มาตรการขอความร่วมมือห้ามออกบ้าน ก็ยากที่จะบังคับเขาได้ รวมทั้งที่ผ่านมาการช่วยกันใส่ใจของคนในพื้นที่ เรื่องช่วยกันสวมหน้ากากในหลายพื้นที่ในปัจจุบันก็ยังมีน้อยอยู่อีกด้วย
และหลังมีการประกาศมาตรการเคอร์ฟิวออกมาแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เห็นว่าจะช่วยให้มีผลต่อการหยุดการแพร่เชื้อโควิด -19 ได้มากขึ้นในทั่วประเทศโดยเร็วได้ และอยากวอนให้ชาวชัยภูมิ ทุกคนช่วยกันเข้มงวดฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันให้ได้โดยเร็วด้วย เพราะเศรษฐกิจในภาวะเกิดโรคโควิด -19 ระบาด ก็ไม่ต้องคิดแล้วว่าในขณะนี้จะค้าขายทำอะไรได้ก็ลำบากมากแล้ว ต้องใช้เวลาหยุดเชื้อนี้ให้ได้ร่วมกันโดยเร็วที่สุดในขณะนี้ก่อน รวมทั้งอยากให้ทางรัฐบาลหลังดำเนินมาตรการเคอร์ฟิวแล้ว ก็ควรจะมีแนวทางมาช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ช่วยฟื้นฟูประเทศให้มีแนวทางที่ชัดเจนมารองรับให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องควบคู่กันจากนี้ต่อไปด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: