ชัยภูมิ – ผู้การชัยภูมิ สั่งระดมสนธิกำลังทุกหน่วยลุยปูพรมทุกพื้นที่กวาดล้างให้สิ้นเครือข่ายนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด พบอีกรายใหญ่ปล่อยเงินกู้โดยไม่ได้รับอนุญาตทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดยึดโฉนดที่ดินชาวบ้านอีกเพียบ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นสูงอีกกว่า 84 ล้านบาท!!!
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 5 ก.ย.2561 พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยพ.ต.อ.สรวิศ มาอินทร์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ชัยภูมิ สั่งระดมชุด กองกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ภูเขียว ชุดสืบสวนตร.ภาค 3 และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจ.ชัยภูมิ นำหมายค้นจากศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ จ.53/2561 เข้าขอตรวจค้นบ้านเป้าหมายกลุ่มนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหดในพื้นที่ต่อเนื่อง
ล่าสุดในเขตพื้นที่อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านของนายสงวน กิตติวัจนสกุล อายุ 69 ปี เลขที่ 60 หมู่ 1 ถ.ราษฎ์บำรุง ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ หลังได้มีผู้เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจำนวนมากต่อศูนย์ธรรมจังหวัดชัยภูมิและตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ ว่า บ้านหลังดังกล่าวได้เปิดเป็นแหล่งปล่อยเงินกู้นอกระบบและทำสัญญากู้ยืมที่ไม่เป็นธรรมและเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด จนชาวบ้านถูกยึดโฉนดที่ดินไปเป็นจำนวนมาก
ซึ่งพบเจ้าตัวนายทุนเจ้าของบ้านรายนี้และได้ให้นำพาขอตรวจค้นภายในบ้านพักดังกล่าวด้วยตนเองเพื่อความเป็นธรรมให้กับผู้ต้องหาในครั้งนี้ด้วย และมีการตรวจค้นพบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งเป็นโฉนดที่ดินรวมกว่า 35 แปลง /ชุด สมุดบัญชีเงินฝากกว่า 8 เล่ม สมุดบัญชีเงินกู้ลูกค้ารวมกว่า 24 เล่ม รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 84,285,000 บาท
จึงได้เชิญตัวผุ้ต้องหารายนี้มาสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานส่งดำเนินคดีในข้อหาเบื้องต้น ฐานกระทำความผิดประกอบสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับเป็นทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และให้บุคคลอื่นกู้ยืมโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ยอมรับสารภาพว่าปล่อยเงินกู้จริง
ส่วนรายละเอียดจะขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวนต่อไป เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อส่งดำเนินคดีตามกฏหมาย และจะได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้านการไกล่เกลี่ยระหว่างผู้ให้กู้และผู้กู้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการไถ่ถอนโฉนดที่ดินที่ถูกยึดไป จากสัญญาเงินกู้ที่ไม่เป็นธรรมและเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฏหมายกำหนดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: