ชัยภูมิ – ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ภายในบ้านกว่า 5 ชีวิต พากันวิ่งหนีตายออกจากบ้านมาได้รอดหวุดหวิด ล่าสุดพบได้รับความเสียหายหนักในรอยต่อ 2 อำเภอ บ้านพังไม่น้อยกว่า 150 หลังคาเรือน!
( 25 เม.ย. 63 ) ที่ จ.ชัยภูมิ มีรายงานเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพร้อมลูกเห็บขนาดใหญ่พัดถล่มหนักในรอยต่อ 2 อำเภอ ที่อ.จัตุรัส พังเสียหายมากว่า 50 หลังคาเรือน และหนักสุดที่อ.บ้านเขว้า มีบ้านเรือนเรือนประชาชนพังเสียหายหนักสุดในครั้งนี้มากกว่า 100 หลังคาเรือนในเขต ต.ตลาดแล้ง หลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มหนักในพื้นที่มาต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงกลางดึกยันรุ่งเช้าวันที่ 25 เม.ย.63ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมขังพื้นผิวถนนภายในหลายหมู่บ้าน มีต้นไม้หักโค้นล้มขวางถนน และเสาไฟฟ้าล้มเกิดไฟฟ้าดับมาตลอดทั้งคืน
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกเทศบาลตำบลนาคำ แจงเหตุต้องระงับเพลิงล่าช้า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน
- กุศลยิ่งใหญ่ ผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 50 ปี บริจาคไต 2 ข้าง ดวงตา 2 ข้างช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์
- ป้ายรับซื้อบ้านผีสิง คิดว่าคอนเทนต์ เจ้าของป้ายเผยรับซื้อจริง บ้านเก่า บ้านมีประวัติลี้ลับมารีโนเวทขาย
- ม.นครพนม จัดประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ 19 ภายใต้หัวข้อ “บูรณาการ AI and Soft Power ในการบริหารภาครัฐ”
ซึ่งล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ทางด้านนายวิเชียร เจนชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลตลาดแร้ง พร้อมคณะรองนายกเทศบาลฯ และ ทีม ปภ.เทศบาลตำบลตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ได้พากันนำกำลังเจ้าหน้าที่เร่งออกสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนถล่มหนักในครั้งนี้
พบในเขตพื้นที่ตำบลตลาดแร้ง มีบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายมาก 100 หลังคาเรือน ในกว่า 4 หมู่บ้าน ได้แก่ ม.4 บ้านท่าจั่น ม. 10 บ้านกุดหูลิง ม.12 บ้านหัวสะพาน และ ม.15 บ้านคลองอุดม โดยเฉพาะชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายหนักสุดที่บ้านคลองอุดม หมู่ที่ 15 ตำบลตลาดแร้ง ที่บ้านเลขที่ 121 ม.15 ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านของนางดวงจันทร์ เจนชัย อายุ 53ปี ซึ่งเดิมทีเป็นบ้านยกสูง 2 ชั้น ได้ถูกพายุพัดพังถล่มลงมากองอยู่กับพื้นเสียหายทั้งหลัง ที่ยังล้มลงมาทับมีรถยนต์เก๋งของลูกสาว และรถ จยย.เสียหายอีกรวม 2 คัน ที่ครั้งนี้คนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านทั้งหมด รวม 5 ชีวิต พากันหนีออกจากบ้านมาได้ทันรอดตายหวุดหวิด ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิตตามาได้ในครั้งนี้ ที่ระหว่างที่พายุพัดถล่มทำให้ตัวและเสาบ้านหักค่อยๆเอียงล้มลงมากองกับพื้นที่
ซึ่งทางเทศบาลตำบลฯ จะได้ดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวบ้านพังทั้งหลังรายนี้ให้เป็นเงินสูงสุดตามระเบียบการช่วยเหลือทางราชการเป็นจำนวนเงินได้ไม่เกิน 33,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรายงานการสำรวจยังมีบ้านเรือนพังเสียหายอีกทั้งหลังหนักสุดรวมอีกว่า 5 หลังคาเรือน ที่จะได้เร่งออกสำรวจให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนและช่วยซ่อมแซมบ้าน ให้กลับมาอยู่อาศัยได้โดยเร็วต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: