ชัยภูมิ – สุดท้ายไปไม่รอด ถูก ตร.ชัยภูมิ ระดมไล่ล่าข้ามคืนตามรวบได้ยกก๊วนทั้งหมด 4 ราย ยึดยาบ้านับหมื่นเม็ด ทั้งอาวุธปืนเครื่องกระสุนเพียบ พร้อมยึดทรัพย์สินเป็นทั้งเงินสด ทองคำ บัญชีในธนาคารค่าอีกนับหลายล้านบาท!
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 28 เม.ย.63 พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ( ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ) พร้อมด้วยพ.ต.อ.ไพโรจน์ ขุนหมื่น รอง ผบก. ภ.จว.ชัยภูมิ ,พ.ต.อ.สรวิศ มาอินทร์ ผกก.สส.ภ.จว.ชัยภูมิ ,พ.ต.อ.บุญเลิศ ทองกำเนิด ผกก.สภ.ภักดีชุมพล พ.ต.ท.นิธิศ จารุกมลกุล รอง ผกก.สส.ฯ,พ.ต.ท.ธวัชชัย จิตตรีธาตุ สว.กก.สส.ฯ ได้เปิดแถลงผลการติดตามจับกุมขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่ที่ขับรถกระบะหลบหนีแหกด่านตรวจในพื้นที่อ.ภักดีชุมพล มาตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 26 เม.ย.63 ที่ผ่านมา หลังล่าสุดได้มีการสั่งระดมสนธิกำลังออกเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องขนยาบ้าขับรถกระบะหลบหนีด่านตรวจบริเวณป้อมตำรวจ สภ.ภักดีชุมพล ภ.จว.ชัยภูมิ (ด่านสกัดกั้นยาเสพติดวังใหญ่) และคัดกรองโควิด-19
มาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งรถกระบะดังกล่าวได้ขับเลี้ยวรถหลบหนีเข้าไปบริเวณร้านอาหารบ้านไร่ ชัยภูมิ ต.วังทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีพฤติการณ์เจตนาหลีกเลี่ยงการเข้าด่านตรวจค้น ของเจ้าหน้าที่ ที่กำลังเดินเข้าไปขอเรียกตรวจแต่ได้มีการขับรถกระบะพุ่งชนเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าตรวจค้นเพื่อแหลกด่านเปิดทางหลบหนี และขับหลบหนีมุ่งหน้าเข้าจุดสกัดจับ บริเวณป้อมตำรวจ สภ.ภักดีชุมพล ภ.จว.ชัยภูมิ (ด่านสกัดกั้นยาเสพติดวังใหญ่) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถหยุดรถกระบะ คันดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้ยานพาหนะออกติดตามตลอดช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งมาถึงบริเวณสวนกล้วยภายในหมู่บ้านวังใหญ่ ต.วังทอง อ.ภักดีชุมพล จว.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถกระบะคันดังกล่าวจอดเสียหลักพุ่งชนเข้ากับต้นกล้วยจอดทิ้งไว้
ข่าวน่าสนใจ:
และตรวจสอบภายในรถกระบะคันดังกล่าวได้ล็อคประตูไว้ทั้งหมด ค้นพบอาวุธปืนของกลางและเครื่องกระสุนจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายในคอนโซลหน้ารถฝั่งคนขับ โดยพบผู้ต้องหาชื่อนายหนุ่มฯ ให้การรับว่าเป็นอาวุธปืนของตนเองให้การรับว่า ได้ร่วมกันกับพวกมาด้วยกันรวม 4 คน เดินทางไปกับนายหมูฯ และน.ส.แอร์ฯ ไปซื้อยาเสพติดมาจากพื้นที่จังหวัดสระบุรี เพื่อนำมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ แต่มาถูกเจอด่านตรวจสกัดจับเสียก่อน และนายหมูฯ เป็นคนขับรถ ที่ขณะนี้หลบหนีไปได้ พร้อมได้นำยาเสพติดขึ้นรถกระบะอีกคันไปด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังปิดล้อมพื้นที่บริเวณใกล้เคียงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อออกติดตาม จนกระทั่งพบรถกระบะต้องสงสัยอีกคันขับเข้ามาในพื้นที่บริเวณหมู่บ้านปรางค์มะค่า มีชายลักษณะคล้ายนายหมูฯ เดินขึ้นรถกระบะไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไล่ติดตามรถกระบะคันดังกล่าวไป พร้อมกับตั้งด่านสกัดกั้นพื้นที่โดยรอบไว้ จนไปพบรถกระบะคันดังกล่าวจอดทิ้งอยู่บริเวณไร่อ้อยทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านวังตะกู ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ จอดอยู่ในสภาพดับเครื่องล็อคประตูไว้
ในขณะเดียวกันมีชาวบ้านแจ้งเข้ามาว่าพบบุคคลต้องสงสัย 2 คนเข้าไปหลบอยู่ บริเวณหลังโรงเรียนเจียงทองพิทยาคม ต.บ้านเจียง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อทำการตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึงหน้าโรงเรียนเจียงทองพิทยาคม พบผู้ต้องสงสัย 2 คน กำลังเดินข้ามถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเข้าควบคุมตัวทั้ง 2 คนไว้เพื่อขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ภายในกางเกงของนายหมู ตรวจสอบผู้ต้องหาอีกคน ทราบชื่อคือนายสยัมภู หรือนนท์
จากการสอบสวนให้การรับว่า นายหมูได้เดินทางร่วมกับ นายหนุ่ม และน.ส.แอร์ ไปซื้อยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดสระบุรี มาเพื่อนำมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับที่ด่านสกัดกั้นยาเสพติดเสียก่อน ซึ่งนายหมูขับรถหลบหนีมาได้พร้อมกับยาเสพติด แต่รถกระบะที่ขับหลบหนีมาเกิดยางแตก จึงได้จอดรถทิ้งไว้พร้อมกับนำยาเสพติดหนีเข้าไปซ่อนอยู่ในป่ารอจนกระทั่งรุ่งเช้า จึงได้โทรศัพท์ติดต่อให้นายนนท์มารับตน เมื่อนายนนท์มารับ เพื่อที่จะหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าตำรวจสกัดจับอีกครั้ง จึงได้ขับรถหนีเข้าไปจอดไว้ในไร้อ้อยของชาวบ้าน พร้อมนำยาเสพติดไปซ่อนไว้บริเวณเนินเขา แล้วหลบหนีไปซ่อนในบริเวณโรงเรียนเจียงทองพิทยาคม ต.บ้านเจียง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ก่อนจะถูกจับหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุดครั้งนี้
จากนั้นได้นำตัวนายหมู และนายนนท์ ไปยังจุดที่ซุกซ่อนยาเสพติด เมื่อเดินทางไปถึงพบยาบ้า จำนวน 9,100 เม็ด ซุกซ่อนไว้ในซอกหินบริเวณเนินเขาฝั่งทิศตะวันตก ของหมู่บ้านวังตะกู ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 4 คน ประกอบด้วยนายวิชิต หรือหนุ่ม นารอด อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ 8 ต.โคกเพลาะ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ( ผู้ถูกจับที่ 1 ) พร้อมน.ส.ปวีณา หรือแอร์ ปราบพาล อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ 1 ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ( ผู้ถูกจับที่ 2 ) นายหมู หรือหมู โสไกร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 5 ต.หนองนกแก้ว อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ( ผู้ถูกจับที่ 3 ) นายสยัมภู หรือนนท์ อิ่มแผ้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 1 ต.อิปุ่ม อ.ด่านซ้าย จ.เลย ( ผู้ถูกจับที่ 4 )
พร้อมยึดของกลางและทรัพย์สินตามมาตรการจำนวนมากอีกหลายล้านบาทในครั้งนี้ ที่มีทั้งยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดกลมแบนสีส้มแดง รวมจำนวน 9,100 เม็ด อาวุธปืน ยี่ห้อ Beretta รุ่น 92FS ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก กระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 5 นัด อาวุธปืนยี่ห้อ LLAMA ขนาด 765 มม. จำนวน 1 กระบอก กระสุนขนาด 765 มม. จำนวน 7 นัด รวมมูลค่าของกลางและความเสียหาย มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ทั้งรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ CHEVROLET สีเทา หมายเลขทะเบียนบพ 2956 สุโขทัย รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA สีเทา หมายเลขทะเบียน บต 6654 หนองบัวลำภู ทองคำ น้ำหนัก 15.21 กรัม 1 เส้น ทองคำ น้ำหนัก 60.89 กรัม 1 เส้น ทองคำ น้ำหนัก 7.64 กรัม 1 เส้น เงินสด จำนวน 5,000 บาท บัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายหมู โสไกร หมายเลขบัญชี 017-1-63772-4 ยอดเงินในบัญชี 172,595.93 บาท บัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายวิชิต นารอด หมายเลขบัญชี 065-1-30190-4 ยอดเงินในบัญชี 150,624.52 บาท รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดมูลค่าประมาณสองล้านบาท
โดยกล่าวหาว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และ “ร่วมมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอบโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่งพนักงานสอบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: