ชัยภูมิ – หนูน้อยวัย 8 ขวบ หวิดเป็นศพที่สี่ วิ่งหนีออกจากบ้านมาได้หวุดหวิด หลังก่อเหตุหลบหนีกลัวชาวบ้านญาติผู้ตายตามหาตัวเจอรีบไปขอมอบตัวต่อกำนัน-ผญบ.พามอบตัว ตร. ชาวบ้านแห่สาปแช่งหวิดถูกรุมประชาทัณฑ์ ต้องงดทำแผนชาย 46 ปี มือฆ่าโหดรายนี้อ้างเมาแค้นเคยดูถูกตำหนิจากผู้ตาย จึงฝังใจคว้ามีดบุกบ้านเพื่อนบ้าน ไล่ฆ่าคนไปทั่วหมู่บ้านรวม 3 ศพ!
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 15 พ.ค.63 ความคืบหน้าหลังมีชายวัย 46 ปี คลุ้มคลั่งนำมีดออกไล่แทงฟันชาวบ้านใกล้เคียงจนมีผุ้เสียชีวิตรวม 3 ศพในครั้งนี้ เมื่อช่วงค่ำเวลาประมาณ 20.00 – 21.00 น.ของวานนี้ที่ผ่านมา
ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างยังอยู่ในอาการตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและทางญาติๆผุ้เสียชีวิตอยู่ระหว่างช่วยกันเตรียมจัดงานศพทั้ง 3 ราย ซึ่งมีบ้านตั้งอยู่ในละเเวกเดียวกันรวมถึงบ้านคนก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย ซึ่งทุกคนต่างพูดถึงพฤติกรรมที่เหี้ยมโหด ของมือมีดรายนี้ว่าเกิดขึ้นและทำรุนแรงขนาดนี้กันได้อย่างไร
หลังเกิดเหตุมาตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ ทางด้านพ.ต.ท.พัชรพล สอนเวียง รอง ผกก.สอบสวน สภ.คอนสาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีชายคลุ้มคลั่งใช้มีดออกมาไล่แทงฟันทำร้ายชาวบ้านไปทั่ว ในหมู่บ้านโสกมะตูม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ จึงนำกำลังเร่งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยจีแชเกาะ อาสาสมัครร่วมกตัญญู จุดอำเภอห้วยาง และแพทย์เวร รพ.คอนสาร
ซึ่งในที่เกิดเหตุ จุดที่ 1 เป็นบริเวณภายในบ้านเจ้าของบ้านชื่อนางเสบียง เกิดสมบูรณ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.3 บ้านโสกมะตูม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ถูกแทง 3 แผลที่บริเวณช่องท้อง อวัยวะภายในไหลออกมาไม่หยุด นอนจมกองเลือด เจ้าหน้าที่รีบนำส่ง รพ.คอนสาร แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จุดที่ 2 ศพคนที่สองอยู่ด้านหลังบ้านห่างจากจุดแรก 40 เมตร พบร่างนายหลอด สวัสดิรักษ์ อายุ 60 ปี ถูกแทงมีแผลฉกรรณ์ 6 แผล จนไส้ทะลักนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่หน้าบ้านของตนเอง และคนที่สาม จุดที่ 3 อยู่ห่างจากจุดที่สองออกไปอีก 90 เมตร บริเวณทุ่งนา พบร่างนายฉลอง เดชครอบ อายุ 63 ปี มีแผลถูกจ้วงแทงจนไส้ทะลักเช่นกัน เสียชีวิตคาที่อีกเป็นรายที่สาม
ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนบ้านละแวกเดียวกันทราบชื่อคือ นายหลอด จวบสุข อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.3 บ้านโสกมะตูม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีอาการคลุ้มคลั่งถือมีดขนาดใหญ่เดินออกมาหาอาวะวาดไล่แทงฟันแบบบ้าเลือดกับคนที่เขาพบเห็นไปทั่วหมู่บ้าน และหลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปที่ทุ่งนา เมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่ ผู้ก่อเหตุน่าจะกลัวถูกญาติผุ้ตายตามหามาทำร้ายคืน จึงรีบไปขอเข้ามอบตัวกับบ้านกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวไปที่ สภ.คอนสาร หลังชาวบ้านทราบข่าวและโกรธแค้น พากันแห่เข้ารุมสกรัมหวิดถูกรุมประชาทัณฑ์ออกมาได้หวุดหวิด
ด้านชาวบ้านให้ข้อมูลอีกว่า ครั้งนี้ที่โชคยังดีที่มี ด.ญ.น้องแพรวา วัย 8 ปี ที่อาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 62 ม.3 บ้านโสกมะตูม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ หลานสาวนางเสบียง ที่ถูกแทงเสียชีวิตคนแรก ที่น้องสามารถรอดชีวิตมาได้หวุดหวิดครั้งนี้เกือบเป็นศพที่สี่อีกราย น้องวัย 8 ขวบ รายนี้เล่าช่วงเกิดเหตุการณ์ให้ฟังว่า หนูกับยายกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวหลังบ้าน ทันใดนั้น นายหลอดวัย 46 ปี ชายคลั่งผู้ก่อเหตุ ได้ถือมีดวิ่งข้ามรั้วเข้ามาก่อนจ้วงแทงยายไป 3 ครั้งพร้อมกับพูดว่า ยายไปตำหนิเขา หลังจากนั้นหนูก็วิ่งไปบอกเพื่อนบ้านให้มาช่วย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุวิ่งหนีไปหาบ้านหลังต่อไป
ขณะที่นางคำภู่ เกิดสมบูรณ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 ม.3 บ้านโสกมะตูม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุ คือนายหลอดวัย 46 ปี เป็นเพื่อนบ้านติดกันมานานทราบว่า ขณะก่อเหตุได้ตามหาตนเพื่อจะฆ่าเป็นคนแรก เนื่องจากโกรธแค้นที่ชอบต่อว่าเขา เวลาเขาดื่มเหล้า แต่เครั้งนี้คราะห์ดีที่ตามหาตนเองไม่เจอ จึงรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะได้ใช้มีดแทงนางเสบียง คนแรกและกระโดดข้ามรั้วไปแทงนายหลอดชื่อเหมือนกันเพื่อนบ้านคนที่สอง ก่อนวิ่งไปแทงนายฉลองที่ทุ่งนาและหลบหนีไป
และด้านนายบุญนาค งามประเสริฐ นายก อบต.โนนคูณ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่กับพ่อ 2 คน มีนิสัยส่วนตัวเวลาดื่มเหล้าจะเป็นคนเมาสุราอาละวาด ชอบมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกับคนอื่นไปทั่วเป็นประจำ จนมาก่อเหตุรุนแรงถึงขั้นแทงตาย 3 ศพในครั้งนี้เป็นที่สะเทือนใจของคนในชุมชนจำนวนมาก ไม่เคยพบเจอคนกระทำการไล่ฆ่าคนผิดมนุษย์มนาขนาดนี้มาก่อนเลยเช่นกัน
ด้านพ.ต.ท.พัชรพล สอนเวียง รอง ผกก.สอบสวน สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า ทั้งสามคนนี้ชอบพูดจาเหน็บแนมอยู่เป็นประจำ จึงเก็บความแค้นสะสมไว้ เมื่อดื่มเหล้าเมาได้ที่จึงก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน สำหรับผลตรวจหาสารเสพติดในร่างกายไม่พบแต่อย่างใด และต้องของดพาตัวไปทำแผนประกอบคำสารภาพ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และอาจเกิดความรุนแรงแก้แค้นกันวุ่นวายบานปลายตามาอีกเป็นจำนวนมากได้
