ชัยภูมิ – มาราธอนมาต่อเนื่องนานกว่า 5 ปี ตามรวบตัวทั้งตาวัย 83 ปี และน้าชาย วัย 26 ปี ได้ทั้งหมดแล้ว แต่ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จนท.จึงควบคุมตัวส่งตัวฝากขังไว้ที่เรือนจำชัยภูมิ ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐานส่งดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ด้านหัวหน้าบ้านพักเด็กเหยื่อทั้ง 2 ราย เผยสภาพจิตใจเด็กสาวคนพี่ยังบอบช้ำหนักต้องจัดจนท.ช่วยเยียวยาสภาพจิตใจอย่างใกล้ชิดไปก่อนในขณะนี้!!!
( 25 ก.ย.61 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ ความคืบหน้าคดีหลังมีเพจดังและสำนักข่าวหลายแห่งเร่งติดตามคดี ให้ช่วยกันตามล่าหาตัวของตา วัย 83 ปี และน้าชาย วัย 26 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชัยภูมิ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา หญิงสาว วัย 15 และ 16 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆของตนเอง
ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันมานานกว่า 5 ปี ซึ่งในบ้านหลังนี้อยู่ในตำบลนาฝาย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ภายในบ้านนี้มีหญิงสาวอยู่ 3 คน อายุ 16 ,15 และ 12ปี โดยมียายของผู้เสียหาย ที่อาจจะจะเข้าว่ามีการรู้เห็นเป็นใจให้ความสนับสนุนผู้เป็นตา และน้าชาย ช่วยปิดบังในการกระทำความผิด ครั้งนี้ด้วย จนปล่อยให้เวลาให้หลานสาวทั้ง 2 คน ถูกกระทำมานานกว่า 5 ปี ตั้งแต่หลานสาวมีอายุเพียง 11 ปี เป็นต้นมา
และหลายฝ่ายเกรงว่าส่วนเด็กหญิงหลานสาววัย 12 ปี อีกคนหากโตมากกว่านี้ ก็อาจจะต้องตกเป็นเหยื่อกามครั้งนี้ตามาอีกได้
จนกระทั่งหลานสาวทั้ง 2 คนที่ปัจจุบันอายุเข้า 15 และ 16 ปี ได้ออกมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เพื่อนทราบและทางคณะครูจึงได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ มาตั้แต่ช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมา และได้ประสานให้บ้านพักเด็กจังหวัดชัยภูมิเข้ามารับเด็กสาวผู้เสียหายทั้ง 2 คน และเด็กหญิงวัย 12 ปี ไปดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นมาอีก
และล่าสุดเมื่อช่วงวันที่ 19 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา ทางจนท.ตร.ชุดสืบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ สามารถติดตามไปควบคุมตัวผู้ต้องหาที่เป็นทั้งตาย วัย 83 ปี และน้าชาย วัย 26 ปี ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อจนท. เพื่อควบคุมตัวมาดำเนินคดี ที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนที่ทางจนท.จะควบคุมตัวไปฝากขังที่เรือนจำจ.ชัยภูมิ ระหว่างรอรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องดำเนินคดีต่อไป
โดยล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.ธนวัฒน์ ภคธนิศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนลงมาช่วยควบคุมดำเนินคดีครั้งนี้ด้วยตนเอง เปิดเผยว่า ที่ขณะนี้ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาที่เป็นตา และน้า แม้ๆของเด็กสาววัย 15 ปี และ 16 ปี ทั้ง 2 คน ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา รวมทั้งพยานแวดล้อมส่วนใหญ่ที่ต่างเป็นญาติพี่น้องในบ้านกันเองทั้งหมด ที่ไม่อยากให้มีการเอาเรื่องกัน ซึ่งเป็นการมีผลได้ผลเสียโดยตรงกับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ที่เป็นเสาหลักเป็นคนเลี้ยงดูค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับคนครอบครัวญาติในบ้านทั้งหมด
แต่ผลทางการสอบสวนหลักฐานต่างๆทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ทั้งผลตรวจร่างกายจากแพทย์ให้กับเด็กทั้ง 2 คน มีร่องรอยถูกข่มขืนจริง ก็เป็นเรื่องที่จะต้องต้องว่ากันตามพยานหลักฐายทุกด้านมาประกอบเพื่อดำเนินคดีครั้งนี้ได้ต่อไป ส่วนผู้ต้องหาเองก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธได้ แต่ก็ต้องมาว่ากันตามพยานหลักฐานความเป็นจริงทั้งหมด
ซึ่งเบื้องต้นทาง จนท.ตร.ได้สั่งดำเนินคดีในข้อหา กระทำชำเราเด็กหญิงซึ่งเป็นผู้สืบสันดานอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมีการกระทำการข่มขืนครั้งแรกตั้งแต่เด็กมีออายุเพียง 11 ปี และมีการกระทำผิดมาต่อเนื่องหลายกรรมหลายวาระมาต่อเนื่อง จนเด็กขึ้นชั้น ม.2-3 จึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติมทั้งกระทำชำเราเด็กหญิงที่มีอายุเกิน 15 ปี รวมทั้งแจ้งข้อหาตามพ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว เพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนด้านนายอนันธนวิชญ์ อนุศาสนัน หัวหน้าบ้านพักเด็กจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ชุดครอบครองเด็กได้นำเด็กมาอยู่ในความดูแลที่ปลอดภัยในบ้านพักเด็กทั้งหมดแล้ว เพื่อช่วยดูแลเยียวยาสภาพจิตใจมาต่อเนื่องจนปัจจุบันเด็กคนน้องวัย 15 ปี มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นบ้างแล้ว และส่วนคนพี่สาววัย 16 ปี ขณะนี้เด็กค่อนข้างมีผลกระทบทางด้านจิตใจที่สูงมากอยู่ ที่จะต้องช่วยกันดูแลสภาพจิตใจอย่างใกล้ชิดจากชุดนักจิตวิทยานักสงคมสงเคราะห์จากแพทย์ที่เชี่ยวชาญต่อไป รวมทั้งจัดให้เด็กได้มีการเรียนการศึกษาต่อที่ต่อเนื่องควบคู่ไปด้วย ส่วนด้านคดีก็จะได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
