ชัยภูมิ – เกษตรกรยังพากันแห่ตรวจสอบสิทธิ์ขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท กันไม่ขาดสาย ล่าสุดวันนี้เกษตรกรกว่า 3.6 หมื่นคนแห่ลุ้น ธกส.เตรียมโอนเงินช่วยกว่า 180 ล้านบาท จนล้นทะลักทุกธนาคารที่เกี่ยวข้องในหลายพื้นที่ ด้านยายวัย 81 ปี ถึงกับลมจับหวิดล้มทั้งยืน ชาวบ้านใกล้เคียงรีบเข้าช่วยเหลือ คนนับหมื่นยังแน่นไม่ขาดสายต่อเนื่องตลอดทั้งวันในช่วงนี้ถึงพรุ่งนี้อีกวัน แนะวิธี!
( 18 พ.ค.63 ) ที่ จ.ชัยภูมิ บรรยากาศของชาวบ้านเกษตรกรในพื้นที่ทั่วทั้งจังหวัดใน 16 อำเภอ ในวันนี้( 18 พ.ค.63 ) ซึ่งเป็นรอบที่สอง ของการที่ธนาคาร ธกส.ชัยภูมิ เตรียมโอนเงินเยียวยาเดือนละ 5,00 บาท ให้กับเกษตรกร ครั้งนี้ที่จ.ชัยภูมิ มีทั้งหมดวันนี้ รวม 36,110 ราย รวมเป็นเงินกว่า 180,550,000 บาท
โดยวันนี้นายประยงค์ มุ่งยุทธกลาง ผอ.สนง.ธกส.จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ซึ่งล่าสุดทาง ธกส.ชัยภูมิ เตรียมจัดโอนเงินเยียวยาให้กับเกษตรกรในพื้นที่ทั้งหมด รวม 82,437 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 412,185,000 บาท โดยแบ่งเป็น 3 รอบ จากที่ครั้งแรกรอบแรกในวันที่ 15 พ.ค.63 จำนวน 31,334 ราย เป็นเงิน 156,670,000 บาท และในรอบ 2 วันนี้ที่ 18 พ.ค.63 จำนวน 36,110 ราย เป็นเงิน 180,550,000 บาท และในรอบที่สาม วันที่ 19 พ.ค.63 อีก 14,993 ราย รวมเป็นเงินอีก 74,965,000 บาท
ซึ่งในช่วงนี้ต่างมีประชาชนเกษตรกรในทุกพื้นที่ของจังหวัดชัยภูมิ นับหลายหมื่นคน ก็ยังพากันเดินทางมาที่ธนาคารมีทั้งขออุทธรณ์ทบทวนสิทธิ์ ตรวจสอบเช็คยอดเงินในบัญชีธนาคาร รวมทั้งมาขอเปิดบัญชีใหม่ ทั้งที่ ธกส. ,ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย กันเป็นจำนวนมากหนาแน่นในทุกพื้นที่
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่ต้องคอจัดคิวและเว้นระยะห่างเพื่อช่วยกันป้องกันโควิด -19 กันต่อเนื่องไม่ขาดสายในช่วงนี้กันเป็นจำนวนมากด้วย ซึ่งก็อยากขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันคำนึงถึงการเว้นระยะห่างกันให้มากขึ้นด้วย ที่บางรายอาจจะเร่งรีบกันโดยเฉพาะการมาขอตรวจปรับบัญชีตรวจสอบเงิน ทั้งที่ยังไม่ถึงคิวของวันตัวเองกันให้มากขึ้นในครั้งนี้ด้วย
ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกษตรกรบางคนบอกว่าขอเปิดบัญชีธนาคารใหม่ เพราะเล่มเก่าเงินไม่หมุนเวียนมากกว่า 1 ปี ทำให้ใช้ไม่ได้ ต้องเปิดบัญชีใหม่พร้อมทำบัตร ATM ด้วย เพื่อรอรับเงินเยียวยาเราไม่ทิ้งกัน กันเป็นจำนวนมาก
โดย ธกส.ได้จัดแบ่งกลุ่มเข้ารับบริการออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มอุทธรณ์ขอทบทวนการลงทะเบียนขอรับสิทธิตามมาตรการการเยียวยาชดเชยรายได้ เดือนละ 5,000 บาท/คน เป็นเวลา 3 เดือน และอีกกลุ่มเกษตรกรตรวจสอบเช็คยอดหรือปรับยอดเงินบัญชี
ซึ่งวันนี้ส่วนใหญ่ประชาชนเกษตรกรที่พากันเดินทางมารอคิวแน่นที่ธนาคารที่เกี่ยวข้องแทบทุกแห่งในพื้นที่จ.ชัยภูมิ เพราะทางผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนได้ประกาศทางหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน ว่าเงินช่วยเหลือเดือนละ 5,000 บาท 3 เดือน เข้าแล้ว กลุ่มนี้มีเกษตรมาที่ ธกส.มากที่สุด โดยได้เดินทางนำสมุดบัญชีมาเช็คยอดเงินในบัญชี หากเงินเข้าแล้วต่างกดเงินออกมาใช้ทันที และมีการต่อคิวต่อแถวกันเป็นทางยาวไม่ขาดสายในตลอดทั้งวัน
โดยเกษตรกรส่วนใหญ่บอกอีกว่า ต้องการนำเงินไปใช้จ่ายภายในครอบครัว และเกษตรกรบางคนบอกว่าต้องการเงินไปจ้างไถนาปรับพื้นที่เตรียมหว่านข้าวที่ขณะนี้เริ่มมีฝนตกแล้ว เพื่อให้ทันฤดูฝนปีนี้ ซึ่งมีส่วนน้อยที่เงินได้ 5,000 บาทเข้าแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็บอกว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ทำให้มีการมารอเข้าคิวตรวจสอบสิทธิ์เยียวยาของกลุ่มเกษตรกรจำนวนมากกันแน่นทุกพื้นที่
ทั้งจนท.ธกส.ชัยภูมิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องมาคอยชี้แจงและขอความร่วมมือให้ทุกคนได้จัดระยะห่างทางสังคมป้องกันติดหรือแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 ด้วย และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ได้แจ้งให้ชาวบ้านลูกค้า ธกส.ได้ผูกบัญชีธนาคาร หมายเลขโทรศัพท์มือถือของตนเองกับ SMS ด้วย เพื่อความสะดวกในการลดจำนวนคนที่เดินทางมาแน่นจนล้นธนาคารหลายพื้นที่ ซึ่งเกษตรกรที่ลงบัญชีชื่อในมือถือแล้ว เมื่อมีการเคลื่อนไหวเงินเข้าออกเจ้าของบัญชีจะได้ทราบทันทีทางโทรศัพท์มือถือของแต่ละคนเอง และไม่ต้องมาเสียเวลามารอคิวมีคนหนาแน่นเพื่อมารอตรวจสอบสถานะเงินเข้าออกอีก
ขณะที่บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาช่องสามหมอ มีชาวบ้านในอำเภอแก้งคร้อ ซึ่งเป็นเกษตรกรส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ ที่เป็นเจ้าบ้าน ที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกร มายืนเข้าแถวรอเข้าคิวเบิกเงินกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศบางคนต้องออกจากบ้านมาตั้งแต่ตี5 นั่งรถโดยสารประจำทางมารอจนล้นออกมานอกถนนหน้าธนาคารสาย 201 ชัยภูมิ-ชุมแพ เจ้าหน้าที่ของทางธนาคารจำต้องขอกำลังจนท.ตร. จาก สภ.แก้งคร้อ เข้ามาช่วยอำนวยสะดวกด้านการจราจร พร้อมตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ก่อนเข้าใช้บริการภายในธนาคารกันหนาแน่นตลอดทั้งวันเช่นกัน
และในขณะเดียวกันที่ในช่วงนี้มีอากาศร้อนและมีผู้คนจำนวนมากยืนแออัดเบียดเสียดกันตรวจสอบเงินเยียวยาวันนี้กันจำนวนมากอยู่นั้น จนเป็นเหตุให้มีคุณยายเยี่ยม เขื่องสถุง อายุ 81 ปี ถึงกับมีอาการหน้ามืดปวดศรีษะจนชาวบ้านต้องช่วยประคองยายมานั่งลงหน้าธนาคาร หวิดเป็นลมล้มทั้งยืน ชาวบ้านต้องช่วยหายาดมมาให้คุณยายดมช่วยดูแลอาการนานกว่า 30 นาที จนมาอาการดีขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ผู้สูงอายุจำนวนมากที่มาเข้าแถวรอรับเงินเยียวยาจนมีอาการหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมกันจำนวนมาก เพราะมีความเป็นห่วงว่าจะได้รู้ว่าเงินตัวเองเข้ายังเท่านั้น ถ้าไม่ได้จะได้รีบไปอุทธรณ์สิทธ์ และพากันตั้งใจเดินทางมารอหน้าธนาคารกันจำนวนมากตั้งแต่รุ่งเช้า เพื่อรอขอคิวแรกๆในช่วงให้ทันก่อนเปิดธนาคาร
