ชัยภูมิ – ในไม่เกินรู้ผลชัดเจนพรุ่งนี้ 22 พ.ค.63 พร้อมระดม จนท.ปูพรมเข้มคนเข้าออกทั้งหมู่บ้านจุดเสี่ยงทั้งตำบล และจุดที่มีประวัติชาย 42 ปี ชาวเยอรมันรายนี้เคยเดินทางผ่านมาเยี่ยมญาติก่อนเดินทางกลับไปทำงานแต่ไปตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เป็น 1 ใน 3 ผู้ป่วยรายใหม่ล่าสุดของไทยครั้งนี้ จนท.ทุกฝ่ายเร่งแกะรอยคนเกี่ยวข้องหวั่นมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ทั้งเคยพาครอบครัวญาติไปเดินซื้อของในห้างดัง 2 แห่ง และร้านตัดผม 1 แห่ง ในช่วงวันที่ 8 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ขอ ปชช.ที่เคยไปในจุดดังกล่าวให้รีบแจ้งมาพบ จนท.สสจ. ช่วยตรวจหาเชื้อเป็นการด่วนด้วย ด้านล่าสุดในพื้นที่จ.ชัยภูมิ หลังมีคนและเพจสื่อโซเชียลดังแห่งหนึ่งนำข้อความไประบุว่ามีห้างบิ๊กซีชัยภูมิเป็นจุดเสี่ยงที่เคยมีชาวเยอรมันรายนี้เคยเข้าไปใช้บริการ และเป็นพื้นที่เสี่ยงไปในครั้งนี้ด้วย ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจนทำให้ห้างเสียหายคนผวาไม่กล้าเข้าห้างทำลูกค้าหายเงียบเกลี้ยง ส่งตัวแทนห้างขอความเป็นธรรมและเข้าแจ้งความ ตร.สภ.เมืองชัยภูมิ ให้เอาผิดกับเพจดังกล่าวในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน!
ล่าสุดความคืบหน้าเมื่อช่วงเวลา 19.00 น.วันที่ 21 พ.ค.63 นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ สสจ.ชัยภูมิและโฆษกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ ออกมาเปิดแถลงข่าวด่วนต่อสื่อมวลชนจังหวัดชัยภูมิ ณ ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ว่าหลังเกิดกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็น 1 ใน 3 รายล่าสุดของประเทศไทยในวันที่ 21 พ.ค.63 ซึ่งเป็นชายสัญชาติเยอรมัน อายุ 42 ปี ซึ่งไม่มีโรคประจำตัว มีประวัติว่าได้พาครอบครัวภรรยาชาวชัยภูมิ พร้อมลูก 2 คน วัย 20 ปี และ 2 ขวบ 6 เดือน รวม 4 คน เดินทางมาเยี่ยมญาติที่บ้านแม่ยาย อยู่ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านโป่งขุนเพชร ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ และพักอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงวันที่ 30 เม.ย.63 – 16 พ.ค.63
และในช่วงวันที่ 8 พ.ค.63 ได้พาลูกและภรรยามาหาซื้อของไปเตรียมทำหมูกระทะ เพื่อฉลองวันเกิดให้กับคนในครอบครัวในวันที่ 9 พ.ค.63 โดยมีประวัติเสี่ยงในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นได้ในวันที่ 8 พ.ค.63 ได้เดินทางเข้าไปในห้างสรรพสินค้า 2 แห่ง ในตัวอ.เมืองจ.ชัยภูมิ รวมทั้งในร้านตัดผมชายอีก 1 แห่ง ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้า สสจ.ที่เกี่ยวข้อง อยากให้ประชาชนในพื้นที่ที่คาดว่าตัวเองได้เดินทางไปห้างใน 2 แห่ง และร้านตัดผมอีกแห่งในวันที่ 8 พ.ค.63 ช่วยมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าสู่ระบบป้องกันในการช่วยตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่อาจจะเป็นกลุ่มเสี่ยงมีเชื้อนำกระจายไปสู่พื้นที่ต่างๆ และบุคคลอื่นในพื้นที่จ.ชัยภูมิเพิ่มเติมโดยด่วนต่อไปในครั้งนี้ด้วย
จากนั้นชาวต่างชาติเยอรมันรายนี้ ได้เดินทางกลับไปตรวจสุขภาพก่อนที่จะเตรียมเข้าทำงานในวันที่ 18 พ.ค.63 ที่ผ่านมา และล่าสุดมีผลตรวจว่าพบเชื้อโควิด-19 และเข้ารักษาตัวอยู่ที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ที่ กทม.อยู่ในขณะนี้
ซึ่งล่าสุดผลตรวจครั้งนี้ ทั้งชาวเยอรมันวัย 42 ปี รายนี้ พร้อมครอบครัวทั้งภรรยา ลูกวัย 20 ปี และ 2 ขวบ 6 เดือน และมีญาติเป็นหลานชายวัย 18 ปี ที่ จ.ชัยภูมิ อาการมีไข้ไอเจ็บคอแห้ง มีผลตรวจยืนยันออกมาแล้วพร้อมกันครั้งนี้ไม่มีใครติดเชื้อโควิด -19 แต่อย่างใด แต่มีเพียงชาวเยอรมันรายนี้คนเดียวที่ติดเชื้อโควิด-19 เพียงรายเดียวเท่านั่น
ซึ่งยังเหลือการติดตามประวัติกลุ่มเสี่ยงทั้งญาติ คนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่มาใกล้ชิดชาวเยอรมันรายนี้รวมเหลือในขณะนี้อีก 19 คน ที่ขณะนี้ได้เข้าสู่มาตรการเข้มให้มากักตัวอยู่ในความดูแลของแพทย์ทั้งหมดแล้ว และส่งตรวจร่างกายบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกทั้งหมด 19 รายขณะนี้ไปตรวจแล้ว ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลชัดเจนตามมาในไม่เกินวันพรุ่งนี้ 22 พ.ค.63 ที่จะได้แถลงยืนยันว่าจะมีผลเป็นอย่างไรเพิ่มเติมโดยด่วนต่อไปในวันพรุงนี้
รวมทั้งในส่วนหมู่บ้านที่อาจจะมีประชาชนในหมู่บ้านเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเคยสัมผัสใกล้ชิดกับชาวเยอรมันรายนี้ ในหมู่ 3 ตำบลโป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ทั้งหมด ทางจนท.สสจ.จะต้องดำเนินการการตามมาตรการตรวจเข้มคัดกรองคนเข้าออกหมู่บ้านทั้งหมด รวมทั้งทราบว่ามีหมู่บ้านใกล้เคียงอีกแห่งที่เคยไปเดินซื้อของที่ห้างมาจัดงานวันเกิดให้ญาติๆ กัน ก็จะต้องมีการเข้มงวดตรวจสอบคัดกรองทุกคนในหมู่บ้านทั้งหมดด้วย ซึ่งขอทำความเข้าใจต่อประชาชนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนในครั้งนี้ด้วย ที่เราชาวชัยภูมิ ทุกคนต้องช่วยร่วมมือกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อไปสู่รายอื่นๆให้ได้ต่อไปโดยด่วนด้วย ที่ครั้งนี้ถือว่ายังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มในพื้นที่จ.ชัยภูมิ มาติดต่อกันเป็นเวลาเกือบ 50 วันแล้ว แต่ต่อกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อมีจุดไหนเสี่ยงขอชาวชัยภูมิทุกคนต้องช่วยกันอย่าการ์ดตก และออกบ้านทุกครั้งต้องสวมหน้ากากป้องกัน แล้วเราจะช่วยกันผ่าวิกฤตรอบนี้ต่อไปได้
ขณะที่ด้านผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ที่ต้องกลับมาเกี่ยวข้องกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงในการพบผู้ป่วยโควิด -19 รายใหม่เพิ่มขึ้นของประเทศไทย ซึ่งเป็นชาวเยอรมันรายนี้ หลังมีการแถลงข่าวของศูนย์โควิด -19 ออกไปทั่วประเทศ ได้มีกลุ่มคนชาวชัยภูมิ และสื่อออนไลน์เพจดังโซเชียลแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต่างพากันนำข้อความชื่อห้างสรรพสินค้าในพื้นที่มาโพสต์ว่าเป็นพื้นที่เสี่ยง ซึ่งบางส่วนไม่ตรงกับข้อมูลข้อเท็จจริงในครั้งนี้ที่เกิดขึ้น ที่มีการตรวจสอบว่าไม่เคยมีประวัติว่าชาวเยอรมันติดโควิด-19 รายนี้เข้าไปใช้บริการระหว่างมาที่ จ.ชัยภูมิ เลย
ในครั้งนี้ด้วยจนล่าสุดทางห้างบิ๊กซี สาขาชัยภูมิ ได้มอบหมายตัวแทนให้นายเชิดเกียรติ ช่างคิด ตัวแทนห้างบิ๊กซีสาขาชัยภูมิ เดินทางเข้าแจ้งความต่อร.ต.อ.วัชรินทร์ หูชัยภูมิ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ ให้ดำเนินคดีตามกฏหมายกับกลุ่มคนและเพจดังกล่าว ที่นำชื่อห้างบิ๊กซีไปโพสต์ในโลกโซเชียลในขณะนี้ทำให้เกิดผลกระทบทำให้ห้างบิ๊กซีชัยภูมิได้รับความเสียหายจนล่าสุดลูกค้าประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่าเคยมีชาวเยอรมันรายนี้เข้าใช้บริการดังกล่าว จนไม่มีลูกค้ารายใดกล้ามาเดินเข้าห้างเงียบหายหมดทันที หลังมีคนทราบข้อความดังกล่าวที่เกิดขึ้น จึงอยากออกมาขอความเป็นธรรมต่อ จนท.ตร.และสื่อมวลชนในครั้งนี้ด้วย
