ชัยภูมิ – ด้านทางนายก-ผู้นำชุมชน เร่งประสานฝ่ายปกครองอำเภอ จังหวัดลงพื้นที่สำรวจความช่วยเหลือเป็นการด่วนต่อเนื่องแล้ว ด้านพ่อเฒ่าวัย 83 ปี สุดระทึกเผยนาทีชีวิตตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอ ต้องวิ่งหนีตายพาตัวเองออกจากบ้านไปหลบในกองยางรถไถเก่าอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง รอดตายครั้งนี้มาได้หวุดวิด!
( 24 พ.ค.63 ) ที่ จ.ชัยภูมิ มีรายงานตลอดช่วงเย็นถึงกลางดึกที่ผ่านมาได้เกิดอิทธิพลจากพายุไซโคลน “อำพัน” พัดถล่มหนักเข้ามาในพื้นที่ตำบลโสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ทำให้มีบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งโรงเลี้ยงสัตว์ โรงจอดรถไถนา อุปกรณ์การเกษตร ยุ้งฉางเก็บข้าว ได้รับความสียหายเป็นวงกว้างในทั่วทั้งตำบลในหลายหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก
ข่าวน่าสนใจ:
ขณะที่เกิดเหตุสุดระทึกกับพ่อเฒ่าวัย 83 ปี นายพันธุ์ มะนาวนอก อายุ 83 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 125/2 หมู่ 1 บ้านท่าช้าง ต.โสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากแรงพายุพัดถล่มหนักครั้งนี้ เปิดเผยถึงนาทีชีวิตที่พาตัวเองวิ่งหนีตายออกจากบ้านขณะถูกพายุพัดถล่มบ้านพังออกมาได้อย่างหวุดหวิด ว่าช่วงใกล้ค่ำวานนี้ที่ผ่านมา ได้เกิดลมพายุได้พัดถล่มเข้ามาอย่างรุนแรงรวดเร็วมาก พัดหอบเอาหลังคาบ้านออกไปพังเสียหายทั้งหลัง ก่อนที่ตนเองจะรีบหาอะไรใกล้ตัวได้มีผ้ายางพลาสติกผืนหนึ่งที่คว้าติดตัวมาได้และรีบวิ่งหนีออกจากบ้านไปหลบอยู่ที่กองยางรถไถเก่าอยู่ใกล้บ้าน หลังพายุพัดถล่มเข้ามาจนบ้านแทบไม่เหลือซากรอดชีวิตครั้งนี้มาได้อย่างหวุดหวิด
และตั้งแต่เกิดมาในชีวิตจนอายุ 83 ปีในปัจจุบัน ก็เพิ่งเคยเจอกับเหตุการณ์พายุถล่มบ้านตนเองพังรุนแรงขนาดนี้ ที่พายุใช้เวลาพัดถล่มอยู่นานกว่า 30 นาที เป็นระลอกๆ เข้ามาจนกว่าจนสงบฤทธิ์ลงครั้งนี้ลงได้ ทั้งบ้าน ทั้งรถไถนาที่ใช้ทำการเกษตรถูกต้นไม้ทับจนหักครึ่ง ได้รับความเสียหายหมด
ด้านนายณรงค์ แขนสันเทียะ นายยกองค์การบริหารส่วนตำบลโสกปลาดุก ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งในบ้านตนเองก็เป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากแรงพายุอำพันถล่มในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งแรงพายุพัดเอาหลังคาโรงเลี้ยงแพะของตนเองพังได้รับความเสียหายไปในครั้งนี้ด้วย พร้อมกล่าวว่า พายุที่พัดถล่มครั้งนี้สร้างความเสียหายไปทั่วทั้งตำบลในหลายหมู่บ้าน และถือว่ารุนแรงมาน่ากลัวมาก
ซึ่งทาง อบต.ก็ได้เร่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนเร่งช่วยกันออกสำรวจความเสียหายให้กับชาวบ้านพังเสียหายจำนวนมากในครั้งนี้ มีรายงานเบื้องต้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 40 หลังคาเรือน หนักสุดใน 3 หมู่บ้าน ที่หมู่ 1 บ้านท่าช้าง เสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน ที่หมู่บ้านดอนชุมช้างหมู่ 7 เสียหายกว่า 15 หลัง และที่บ้านโสกปลาดุก หมู่ 2 เสียหายอีกไม่น้อยกว่า 5 หลัง
นอกจากนี้ยังมีสายไฟฟ้าขาดเสียหายในหลายหมู่บ้าน ซึ่งจะได้เร่งสำรวจความเสียหายทั้งหมดเพิ่มเติม และเร่งจัด จนท.ออกไปช่วยซ่อมแซมบ้าน เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือตามระเบียบราชการโดยด่วนต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: