ชัยภูมิ – มานานกว่า 3 เดือน ไม่เว้นทั้งพ่อ แม่ และน้องชาย รวมทั้งชาวบ้าน ญาติ ทั้งเพื่อนๆ คนสนิทใกล้ชิดที่อาศัยจังหวะเคยมีหนี้บุญคุณกันเกือบทั้งหมู่บ้านรวมกว่า 30 ราย สุดท้ายถูกเธอหลอกขนรถ จยย.ทั้งหมดหนีหายไปทั้งหมดรวมกว่า 40 คัน มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท ล่าสุดพ่อ-แม่และญาติๆ วอนสาวรายนี้ควรรีบกลับใจมาพูดความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาลงได้บ้าง และขอให้รีบนำรถทั้งหมดมาคืน อย่าทำให้คนอื่นต้องมาเป็นหนี้สินเดือดร้อนหนักต่อไปอีกเลย !
ข่าวน่าสนใจ:
- อ่วม... ศาลตัดสินจำคุก 30 ปีเศษ ร่วมชดใช้กว่า 2.7 ล้านบาท บังลุคไม้ใหญ่และพวก คดีตัดไม้ใหญ่ลงติ๊กต๊อกบนภูเขาบ้านสองแพรก
- ค่ายรถยนต์ ผุดบูธเพิ่มช่องทางปั๊มยอดช่วงปลายปี หลังตลาดยังซบยาวต่อเนื่อง
- ผกร.ป่วนไม่เลิก!วางบึ้ม 5 (แตก 4, กู้ 1) ทางไปสนามบิน
- ตรัง ทดลองล้อมคอกหญ้าทะเล เร่งหาทางออกฟื้นฟูหญ้าทะเล ภาระกิจด่วนทำแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่กับความอยู่รอดของพะยูน
( 2 มิ.ย.63 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 8 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ กว่า 20 คน ว่ากำลังได้เดือดร้อนหนัก จากกรณีถูกสาวแสบรายนี้ ชื่อนางนิตยาฯ อายุ 33 ปี ชาวตำบลห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งหลอกให้พวกตนทั้งชาวบ้านและแม้กระทั่งญาติใกล้เคียงในหมู่บ้าน พ่อ แม่ น้องชาย ให้ช่วยไปซื้อรถ จยย.ให้กับสาวแสบรายนี้ ซึ่งเธออ้างว่ามีเพื่อนที่สนิทกันทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ ต้องการใช้ช่วยให้หาชื่อคนในหมู่บ้านไปออกรถ จยย.ให้ไปใช้ เพราะญาติเพื่อนที่ทำงานอยู่ต่างประเทศที่อยู่ในเมืองไทย ไม่สามารถออกรถได้ อยากให้ช่วยรับรองเอกสารรายชื่อคนไทยในหมู่บ้านช่วยออกรถให้แทน
ในการไปใช้ดำเนินการทำธุระกรรมซื้อรถครั้งนี้ให้ โดยนางนิตยาฯ จะเป็นคนดำเนินการให้เองทั้งหมด เพียงแค่ให้ชาวบ้านและญาติผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อในครั้งนี้ ไปเซ็นชื่อในสัญญาเช่าซื้อรถ จยย.ทุกคันให้เท่านั้น นอกนั้นสาวแสบรายนี้จะดำเนินการเองทั้งหมด ซึ่งด้วยความไว้ใจที่สาวแสบรายนี้อยู่ในหมู่บ้านก็มีฐานะดี มีร้านค้า เปิดร้านอู่ซ่อมรถ รวมทั้งยามชาวบ้านใครที่เคยเดือดร้อนไปหาเขาก็เคยช่วยเหลือมาก่อน จึงพากันตัดสินใจช่วยดำเนินการช่วยซื้อรถ จยย.ดังกล่าวทั้งหมดให้ไป ซึ่งคิดว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะเขาบอกทุกอย่างจะรับผิดชอบให้หมดไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะมีปัญหาตามมา
โดยสาวแสบรายนี้ จะวางแผนหลอกให้ญาติๆ และเพื่อนบ้านแต่ละคนไปขอติดต่อซื้อ รถ จยย. ตามร้านต่างๆ ในต่างเวลาต่างสถานที่กัน เพื่อป้องกันไม่ให้ญาติหรือเพื่อนบ้านคนอื่นๆ รู้ และเมื่อทางไฟแนนท์อนุมัติรับรถให้นำออกมาจากร้านได้ สาวแสบรายนี้ก็จะโทรให้คนขับรถกระบะมาขนขึ้นรถพร้อมกับเอกสารเช่าซื้อออกจากร้านขายรถไปทั้งหมดเอง จนมาช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ทั้งวชาวบ้านและญาติๆ ทุกคนต้องมาเจอใบทวงถามหนี้ไม่จ่ายค่างวดรถมาถึงบ้านเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีรถ จยย.ดังกล่าวทั้งหมดมาใช้เลย
ซึ่งหนึ่งในผู้ถูกหลอกครั้งนี้ นางไพรัตน์อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ กล่าวว่าเป็นญาติกับสาวแสบ วัย 33 ปี รายนี้ด้วย ซึ่งสาวแสบรายนี้ได้มาขอร้องให้เธอไปช่วยซื้อรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ 125 ให้ซึ่งอ้างว่ามีเพื่อนทำงานอยู่ต่างประเทศเกาหลี แต่ติดไม่สามารถออกรถ จยย.ให้ญาติที่อยู่ในเมืองไทยได้ตอนนี้ จึงขอให้ช่วย จึงได้เดินทางไปร้านขาย รถ จยย.ในตัวอำเภอคอนสาร พร้อมกับสาวแสบรายนี้ช่วยดำเนินการกรอกเอกสารซื้อ จยย.ให้ ซึ่งหลังจากไฟแนนซ์และร้านขายรถอนุมัติให้นำรถออกมาได้ สาวแสบรายนี้ก็โทรให้รถกระบะมีหลังคาตู้ทึบมาขนรถ จยย.ดังกล่าวขึ้นรถพร้อมกับนำเอกสารเช่าซื้อทั้งหมดไปทันที
โดยเธอยอมรับว่าได้ไปเช่าซื้อรถ จยย.ให้กับนางนิตยาสาวแสบรายนี้ มารวมทั้งหมด จำนวน 5 คัน คือทั้งตัวเธอและสามีคนละ 1 คัน รวม 2 คัน และต่อมานางนิตยา ได้มาขอให้ลูกชายของเธอที่เป็นคนพิการช่วยเซ็นต์เอกสาร ช่วยซื้อรถให้อีกรวม 3 คัน หนึ่งในนั้นเป็นรถ จยย.ฮอนด้า PCX ที่มีใบทวงหนี้มาหาที่บ้านรวมราคาสูงกว่า 1 แสน 4 หมื่นบาทเศษ และฮอนด้าเวฟ 125 อีก 2 คัน ซึ่งขณะนี้ยังค้างค่างวดรถรวมกันทั้งหมดอีกสูงกว่าเดือนละเกือบ 3 หมื่นบาท
ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเลยหลังไปช่วยออกรถให้สาวแสบรายนี้ เพราะคิดว่าเขาคงจัดการจ่ายหมดแล้ว แต่หลังผ่านมาช่วง 3 เดือนนี้ เขาน่าจะไม่ยอมจ่ายค่างวดรถเลย และตัวเธอเองที่ช่วยไปเพราะนางนิตยาเองก็เคยช่วยเหลือครอบครัวเธอมาก่อนยามทุกข์ยาก จึงคิดว่าใช้หนี้บุญคุณกันไปได้เรื่องแค่ไหนพอทำได้ก็แค่นั้น ซึ่งก่อนที่จะทำครั้งนี้เธอเองก็เคยคิดว่าทำไมลูกชายตนเองทั้งที่เป็นคนพิการไม่มีรายได้อะไรเลย แต่สาวแสบรายนี้มาขอชื่อไปทำเอกสารทำไมไฟแนนซ์มีการอนุมัติสินเชื่อให้ง่ายๆ ได้ เหมือนกัน
ตนเองจึงสอบถามนางนิตยาไปก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาตลอดว่าเดี๋ยวจะรับผิดชอบเอง ไม่ต้องห่วงจนมาวันนี้มารู้อีกว่า กลายเป็นว่ามีชาวบ้านที่โดนลักษณะเดียวกันจำนวนมาก ตามมาอีกกว่า 30 คน ที่มีทั้งญาติๆ เขาเอง และเพื่อนๆ ของนางนิตยาเดินทางมาที่บ้านของเขา เพื่อมาสอบถามเรื่องค่างวดรถที่ทำไมต้องมาเป็นหนี้สินในครั้งนี้กันจำนวนมาก ที่ทุกคนกว่า 30 คนต่างถูกหลอกให้ไปทำสัญญาเช่าซื้อรถ จยย.ให้กับสาวแสบรายนี้ อีกจำนวนมากกว่า 40 คัน แล้วและรวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 5 ล้านบาท
ล่าสุดนางนิตยาสาวแสบรายนี้ พร้อมด้วยสามีได้หลบหนีออกจากหมู่บ้านไปแล้ว และไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้รวมตัวกัน พากันเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ซึ่งทางผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปที่บ้านของ นางนิตยาพบว่า เปิดเป็นร้านค้าขายก๋วยเตี๋ยวอาหารตามสั่งและเปิดอู๋ซ่อมรถอยู่ติดกัน ซึ่งพบกับนายบุญชิต อายุ 65 ปี และนางหนูกรวย อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ และนายอานนท์ น้องชายของนางนิตยา ซึ่งด้านผู้เป็นพ่อ หรือบิดาของสาวแสบรายนี้เอง ก็กล่าวว่า ตนเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่าลูกสาวตนเองไปหลอกชาวบ้านและญาติๆ ไปซื้อรถ จยย.จำนวนมากขนาดนี้
ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองและภรรยา แม่ของสาวแสบรายนี้เองก็ได้ถูกลูกสาวคือนางนิตยาคนนี้หลอกมาด้วยเช่นกัน เพื่อให้ช่วยไปใช้ชื่อเซ็นต์เอกสารออกรถ จยย.ให้เธอ คนละ 1 คัน และต่อมาก็ให้นายอานนท์ น้องชายและเมียนายอานนท์ให้ช่วยไปช่วยออกรถ จยย.ให้เขาอีกคนละ 1 คัน
ซึ่งตนผู้เป็นพ่อก็ได้สอบถามลูกสาวนางนิตยาว่า ทำไมต้องการซื้อรถเยอะหลายคันขนาดนี้ ซึ่งนางนิตยาบอกว่า มีเพื่อนที่มีความต้องการออกรถ จยย.ให้ญาติอยู่ต่างประเทศกันมาก เลยอยากใช้ออกรถ จยย.ให้เพื่อนที่เขามีงานทำอยู่ต่างประเทศ ที่ยืนยันว่าเขามีเงินเยอะพร้อมรับผิดชอบได้ทั้งหมดอยู่แล้วไม่มีปัญหา และรับปากว่าจะรับผิดชอบเรื่องค่างวดเองทั้งหมด ตนเองเห็นว่าเป็นลูกก็เลยไปเช่าซื้อรถมาให้ด้วย แต่แล้วนางนิติยาก็ไม่ส่งงวดรถให้ตามสัญญา จนกระทั่งทุกคนได้รับหนังสือแจ้งมาทวงว่าค้างค่างวดจากไฟแนนท์ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 40 คัน มูลค่ารวมมากกว่า 5 ล้านบาท
ซึ่งนายบุญชิต ฯผู้เป็นพ่อ กล่าวอีกว่า ลูกสาวน่าจะเข้าไปพัวพันกับขบวนการค้ารถเถื่อนข้ามชาติในครั้งนี้ก็เป็นได้ ซึ่งหลังลูกสาวหนีหายออกจากบ้านไป ไปตรวจพบเอกสารหลักฐานในบัญชีธนาคารว่าล่าสุดได้ตรวจพบว่าน่าจะมีนายทุนซึ่งเป็นสาวทอมรายหนึ่ง อยู่ในพื้นที่จังหวัดเลย ได้โอนเงินเข้าบัญชีของลูกสาวนางนิตยาเป็นจำนวนมากติดต่อกันหลายครั้ง และอยากฝากบอกถึงลูกสาวให้รีบกลับมาบ้าน มาพูดความจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น พ่อแม่และญาติๆ เพื่อนๆที่ถูกหลอกทุกคนพร้อมให้โอกาส และอยากให้เห็นใจทุกคนที่ต้องมาเดือดร้อนเป็นหนี้แทนกันจำนวนมากในครั้งนี้ด้วย น่าจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ ด้านคดีก็ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายไปตามขั้นตอน ซึ่งตอนนี้ไม่ว่าอะไรอยากขอให้ลูกสาวแสบรายนี้น่าจะรีบกลับมาหาทางออกร่วมกันจะดีกว่าหนีหายไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: