ชัยภูมิ – ล่าสุดหลวงปู่ วัย 80 ปี ออกมาแฉระวังกลลวงมิจฉาชีพถูกชาย 2 คนโจรแสบ จุดสังเกตอีกคนไว้ผมยาวคล้ายกระเทย วางแผนทำทีขับ จยย.เข้ามาในวัด อยากให้พระช่วยทำพิธีรดน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ให้ ก่อนทำทีขอยืมแลกเงินใบละ 100 บาท จะใส่ซองทำบุญให้วัด แล้วจะคืนเงินใบละ 1,000 บาท ก่อนอาศัยจังหวะรีบขับ จยย.หลบหนีหายออกจากวัดไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุด ผญบ.ตรวจสอบมีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพ 2 โจรแสบรายนี้ไว้ได้ และนำมาฝากช่วยกันแชร์สนั่นโลกโซเชียลในขณะนี้ หากใครพบเห็น 2 โจรแสบในภาพดังกล่าวช่วยกันรีบแจ้งเบาะแสต่อ จนท. เพื่อไม่ให้ไปทำบาปกับพระตามวัด หรือบุคคลอื่นๆ ได้อีก!
( 5 มิถุนายน 2563 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่มีผู้ใช้ facebook รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า สมนึก ประสานเนตร ได้โพสต์ข้อความแจ้งเตือนภัยการกระทำของมิจฉาชีพ #ฝากด้วยครับวันที่ 4 มิถุนายน 63 เวลา 15.00 น.ได้มีมิจฉาชีพเป็นชาย จำนวน 2 คน ผมสั้นหนึ่งคนอีกคนผมยาวคล้ายกระเทย อายุประมาณ 25 ถึง 35 ปี มาให้พระวัดสำราญจิต บ้านวังกุ่ม ม.5 ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ มาขอให้รดน้ำมนต์ให้และทำทีขอแลกเงินใบละร้อย จำนวน 1,000 บาท เพื่อใส่ซองถวาย แต่ยังไม่ส่งเงินที่ขอแลกให้กับพระคืน เมื่อพระช่วยรดน้ำมนต์ให้เสร็จ ได้ฉวยโอกาสรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกจากวัดไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งในครั้งนี้ ลักษณะคนร้ายดังกล่าว มีภาพจากกล้องวงจรปิด ในหมู่บ้านหางเรียง ม.8 สามารถจับภาพไว้ได้ เพื่อให้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ และประชาชนที่พบเห็นได้ช่วยกันแจ้งเบาะแสต่อตำรวจให้ช่วยกันติดตามจับกุม 2 คนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็วต่อไปด้วย และช่วยป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆ ได้อีกด้วย หากท่านใดรู้เบาะแส โปรดแจ้งโทร 087-9668377 ขอบคุณครับ
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่หมู่บ้านวังกุ่ม หมู่ที่ 5 ตำบลลุ่มลำชี อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ พบกับนายสมนึก ประสานเนตร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านบ้านวังกุ่ม ได้พาเข้าพบพระไสว อาทิจิตโต อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัดสำราญจิต ดังกล่าวที่ได้รับความเสียหายถูกโจรแสบ 2 รายนี้หลอกยืมเงินพระเชิดหนีไปในครั้งนี้โดยทางหลวงปู่ไสว เล่าว่า เมื่อวานนี้( 4 มฺงย.63) เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่หลวงปู่กำลังตัดหญ้าและกวาดลานวัดอยู่ ก็ได้มีบุคคลดังกล่าว 2 คนขับรถจักรยานยนต์เข้ามาในวัด และเข้ามาพูดคุยว่าจะมาขอให้หลวงปู่ช่วยอาบน้ำมนต์เพื่อสะเดาะเคราะห์ให้เป็นสิริมงคลให้ชีวิตที่ช่วงนี้ดวงไม่ดีเลย จึงอยากให้พระช่วย ซึ่งในทีแรกหลวงปู่ก็กล่าวว่า ถ้าจะอาบน้ำมนต์ ให้เข้าไปหาท่านเจ้าอาวาสวัดจะดีกว่า แต่โจรแสบ 2 คนนี้ ก็ทำทีขอร้องขอบอกว่า อยากให้หลวงปู่อาบให้ดีกว่า เพราะมีความศรัทธาในตัวหลวงปู่ที่มาพบอยู่แล้ว จากนั้นจึงพากันเดินขึ้นศาลาวัดไปรอ เพื่อให้หลวงปู่ช่วยทำพิธีอาบน้ำมนต์ให้
จากนั้นโยมโจรแสบ ทั้ง 2 คน ก็จะทำทีขึ้นมาอีกเพื่อถามหลวงปู่ว่า พอจะมีแบงค์ใบละ 100 บาท สัก 5 ใบไหม จะขอแลกเพื่อใส่ซองทำบุญในครั้งนี้ด้วย หลวงปู่ก็ตอบว่าพอมีอยู่ ซึ่งพระโกหกไม่ได้ จึงลุกขึ้นเดินไปที่กุฏิ และได้มีชาย 1 คนเดินตามหลังมา และจับที่แขนของหลวงพ่อ จากนั้นหลวงพ่อก็มีอาการ งงๆ เบลอๆ และได้หยิบเงินใบละ 100 บาท ให้เขาไปรวม 500 บาท ในครั้งแรก
จนกระทั่งอาบน้ำมนต์เสร็จ ทั้ง 2 คน ก็อยากที่จะให้หลวงปู่ไปผูกสายสิญจน์ที่รถจักรยานยนต์ให้อีก ระหว่างนั้น ชายทั้ง 2 คนก็ถามขึ้นอีกว่า พอจะมีเงินให้แลกอีก 500 บาท เพิ่มไหมหลวงปู่ก็เอาเงินยื่นให้ไปอีก 500 บาท รวมเป็นเงิน 1,000 บาท โดยที่ทางหลวงปู่ยังไม่ได้รับเงินจากชายทั้ง 2 คนนี้ที่ขอแลกเงินครั้งนี้คืนมาเลย ก่อนที่ชายทั้ง 2 คน นี้ก็รีบไปขึ้นขับรถจักรยานยนต์รีบขับหายออกจากวัดไปอย่างรวดเร็ว แต่พอสักพักหนึ่งพอได้สติ หลวงปู่ก็รู้สึกว่าโดนหลอกแลกเงินครั้งนี้ไป 1,000 บาท เสียแล้ว จึงได้บอกกับโยมที่อยู่ในวัดให้แจ้งกับทางผู้ใหญ่บ้านให้ทราบเรื่องดังกล่าวขึ้น
เพื่อไม่อยากให้พระ หรือใครไปตกเป็นเหยื่อโจรแสบชาย 2 คนรายนี้ และไม่อยากให้ไปทำบาปกับพระเจ้ารูปอื่นๆ อีกเลย ซึ่งลักษณะของชายดังกล่าว ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่ใช้หลบหนี พบว่าผู้ขับขี่ สวมเสื้อคลุมสีขาว กางเกงยีนต์ขายาว รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบ และคนซ้อนท้าย ใส่เสื้อคลุมแขนยาวสีเขียว ผมยาวปะไหล่ (คล้ายกระเทย) ใส่หมวกแก็ป และผ้าปิดจมูก โดยใช้จักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda เวฟ สีแดง/ดำ แผ่นป้ายซึ่งมองจากกล้องวงจรปิด จะเห็นไม่ชัดเจน มีตะกร้าและกระจกมองหลัง และล้อที่เป็นอลูมิเนียมสีออกม่วง
ซึ่งด้านนายสมนึก ประสานเนตร ผู้ใหญ่บ้านวังกุ่ม หลังจากนี้จะได้นำข้อมูลหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดประสานให้ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ และแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อช่วยเร่งตามหามิจฉาชีพ 2 โจรแสบรายนี้มารับโทษ เพื่อไม่ให้ไปทำบาปกรรมกับพระเจ้าในพื้นที่อื่นๆ ได้อีก รวมทั้งหากประชาชนใครที่พบเห็นชาย 2 คน ดังกล่าวที่มีคนหนึ่งผมยาวคล้ายกระเทยดังกล่าว ก็ขอให้แจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ในทุกพื้นที่ใกล้เคียงได้ทันที เพื่อจะได้จับตัวไปดำเนินตามกฏหมายให้ได้ต่อไป
