ชัยภูมิ – หลังลุงวัย 65 ปี ก่อกองไฟทิ้งไว้ข้างบ้านเพื่อลนคันเบ็ดเก็บไว้ตกปลาช่วงหน้าฝน ก่อนเกิดหิวข้าวช่วงใกล้เที่ยง เดินเข้าไปกินข้าวในบ้าน ออกมาอีกทีเกิดไฟลามไหม้ยุ้งข้าวที่อยู่ใกล้กันวอดทั้งหลัง สูญข้าวเปลือกที่เก็บไว้เป็นทุนทั้งหมดกว่า 1 ตัน หวิดไฟลามไหม้บ้านที่อยู่ติดกันอีกหลัง!
เมื่อเวลา 12.45 น.วันที่ 6 มิถุนายน 2563 ร.ต.ท.วิศวพงษ์ ศิริเม รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากทาง 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีเหตุไฟไหม้ยุ้งข้าวประชาชน ที่บ้านเลขที่ 153 หมู่ที่ 7 บ้านโนนม่วง ตำบลโพนทอง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.โพนทอง
ในที่เกิดเหตุเพลิงอยู่ระหว่างไหม้ลุกลามยุ้งข้าวไปเกือบทั้งหลังแล้ว เจ้าหน้าที่และชาวบ้านอยู่ระหว่างช่วยวิ่งตักน้ำเข้าไประงับเพลิง เจ้าหน้าที่รถน้ำใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงใว้ได้ แต่ยุ้งข้าวดังกล่าวได้รับความเสียหายไปหมดทั้งหลังแล้ว
สอบถามไปยังนายบุญเลิศ นารีรักษ์ อายุ 65 ปี เจ้าบ้านและยุ้งข้าวเกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ก่อกองไฟไว้เพื่อนั่งลนคันเบ็ด ไว้นำไปตกปลา จนกระทั่งใกล้เที่ยง หิวข้าวจึงเดินไปกินข้าวในบ้าน ซึ่งยังไม่ได้ดับกองไฟดังกล่าว พอกินข้าวเสร็จออกมาอีกทีก็พบว่าเกิดไฟไหม้ลุกลามเข้าไปที่บริเวณใต้ยุ้งข้าวแล้ว จึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านช่วยกันดับ แต่ไม่ไหวไฟลุกลามอย่างรวดเร็วจึงรีบแจ้ง จนท.ให้มาช่วยอีกทาง แต่ก็ไม่ทันแล้วไฟได้ไหม้ยุ้งข้าวไปจนเสียหายหมดทั้งหลังแล้วครั้งนี้ขึ้น
ด้าน ร.ต.ท.วิศวพงษ์ ศิริเม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ หลังได้เข้ามาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ และตรวจสอบมูลค่าความเสียหายพบว่ามีข้าวเปลือกที่ได้รับความเสียหายทั้งยุ้งมากกว่า 1 ตัน มูลค่าหลายหมื่นบาท ที่ต่อไปอยากให้ประชาชนช่วยกันระมัดระวังในการก่อกองไฟทิ้งไว้ ไม่ควรประมาท เพราะช่วงนี้มีลมแรงและอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในลักษณะนี้ตามมาได้ง่ายอีกด้วย
