ชัยภูมิ – “พร้อมเตรียมติดตามชี้แจงที่มาที่ไปเพื่อติดตามเงินกว่าครึ่งล้านที่หายมาได้ทั้งหมดในอีกไม่เกินสัปดาห์นี้” ความคืบหน้าหลังสาวไทยชาวชัยภูมิพร้อมสามีชาวสวีเดน เดินทางเจ้าแจ้งความต่อจนท.ตร.สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อทางธนาคารให้ช่วยตรวจสอบกรณีมีเงินหายจากบัญชีตัวเองกว่าครึ่งล้าน หลังได้พยายามติดตามสอบถามต่อทางธนาคารดังกล่าวมานานนับเดือน เรื่องกลับยังไม่มีอะไรคืบหน้าและให้คำตอบว่าจะติดตามเงินทั้งหมดมาคืนเข้าบัญชีให้ได้ตอนไหนได้ล่าสุด!!!
( 3 ต.ค.61 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ ความคืบหน้ากรณีจของ นางนนทพัทธิ์ แซะโนนตาด อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 19 ต.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ พร้อมสามี MR.TRYGGVE OLSSON ฝรั่งชาวสวีเดน ออกมาวิงวอนขอความเป็นธรรมหลังเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.จิตติพัฒน์ คำรังสี พนักงานสอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ หลังมีการตรวจสอบพบว่าตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. – 17 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา มีเงินฝากของตนเองกับธนาคารในประเทศไทยแห่งหนึ่ง ทำเงินในบัญชีของตนเองหายออกไปจำนวนมากกว่า 480,000 บาท จนเกือบหมดบัญชีที่มียอดเงินฝากสะสมไว้เหลือเงินเพียงจำนวน 680 บาท
จึงได้มีการติดต่อสอบถามมาที่ธนาคารสาขาดังกล่าวในจ.ชัยภูมิ เพื่อให้ตรวจสอบ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบจากธานคารมาได้จนปัจจุบัน
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 3 ต.ค.2561 ทางผู้จัดการธนาคารต้นสังกัดในจ.ชัยภูมิ ได้เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดหลังได้มีการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.ท.จิตติพัฒน์ คำรังสี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อมาประกอบผลการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินที่หายออกจากบัญชีดังกล่าวไป จำนวนรวมกว่า 480,000 บาท จนเหลือเงินในบัญชีปัจจุบันเหลือเพียง 680 บาท นั้น เบื้องต้นพบว่ามีการนำไปใช้จ่ายทำธุระกรรม ถูกนำไปใช้ซื้อสินค้าทางออนไลน์ ซึ่งทั้งหมดเป็นลักษณะของการจ่ายเงิน เพื่อสั่งซื้อสินค้า ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดจากฝ่ายกฎหมายสำนักงานใหญ่ว่า มีการสั่งจ่ายอย่างไรและผู้ใดสั่งซื้อสินค้า ที่อีกไม่น่าจะเกินสัปดาห์ ผลการตรวจสอบทั้งหมดจะชัดเจน
ทั้งระหว่างรอหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิด ช่วงที่มีการบันทึกไว้หน้าตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่ชัยภูมิทั้งหมด ว่าช่วงระหว่างคนไปกดเงินออกจากธนาคาร และหลักฐานทางเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ส่งรหัสเบิกเงินจากบัญชีไปจ่ายซื้อสินค้า ว่าเป็นของใคร ซึ่งจะสามารถให้คำตอบได้ว่าเป็นของใคร จะได้รู้ว่าใครเป็นคนเบิกถอนเงินออกจากบัญชีทั้งหมดไปได้ในอีกนานนี้
ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งยืนยันมาเพื่อรวมกับหลักฐานที่ทานธนาคารส่วนกลางตรวจสอบที่พบว่ามีการนำไปซื้อสินค้าที่มีที่มาที่ไปทั้งหมดออกมาอย่างชัดเจนในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งหลักฐานสำคัญก็คือเบอร์โทรที่ใช้ทำการเบิกถอนเงินทางออนไลน์ครั้งนี้เป็นของใครมายืนยันอีกครั้ง และจะสามารถติดตามเงินที่หายออกจากบัญชีไปมาได้ทั้งหมดได้ในเร็วๆนี้เพิ่มเติมด้วยคาดว่าไม่น่าจะเกินสัปดาห์นี้
หรือถ้าเป็นคนที่เกี่ยวข้องในธนาคาร เองก็พร้อมที่จะต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายทั้งหมดไม่ละเว้นใครเด็ดขาดเช่นกัน หรือหากพบว่า ถ้าเป็นการสั่งซื้อสินค้าที่มาจากการถูกแฮ็ก เข้าไปในระบบบัญชี ที่เข้าข่ายถูกฉ้อโกง ถูกลักทรัพย์ หรือถูกยักยอกทรัพย์ โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ทราบมาก่อน หากเป็นเช่นนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ก็เตรียมที่จะต้องเร่งดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาได้ทันทีต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: