ชัยภูมิ – หลังวันนี้วันเดียวกันตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา สุดอนาถพบมารศาสนาอาศัยผ้าเหลืองหากิน บวชเป็นพระแต่ทำตัวเร่ร่อนออกตระเวนไปทั่วตามจังหวัดต่างๆเมาสุราร้องโวยวายก่อนนอนเมาหมดสภาพ ถูกจนท.ตร.เชิญตัวไปสึกและดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้ว 1 ราย ล่าสุดช่วงเย็นที่ผ่านมาวันเดียวกัน สุดอึ้งอีกจับพระเมาโผล่อีกอีกเป็นรายที่ 2 วันเดียวกัน ดื่มจนเมาหนักซิ่งรถเก๋งฝ่าไฟแดงพุงชนแหลกกับกระบะที่ขับมาตามไฟเขียวปกติพังยับ แถมเสียหายพุ่งไปชนร้านขายยาใกล้กับสี่แยกไฟแดงพังอีกแห่ง!
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 7 มิถุนายน 2563 พ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ อุดมพรวรชัย สว. (สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีพระมีอาการเมาขับรถเก๋งฝ่าไฟแดงไปชนรถกระบะ และยังเสียหลักพุ่งไปชนร้านค้าในตึกแถวใกล้กันได้รับความเสียหาย อยู่ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านขี่เหล็กใหญ่ ถนนชัยภูมิ-บ้านเขว้า ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกับพระชื่อพระอภิชาติ อายุ 43 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ 11 ต.ไฝ่เขียว อ.สว่างอารม จ.อุทัยธานี ซึ่งยังเป็นเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในต.บ้านหัน อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ที่ยอมรับว่ามีการดื่มสุรามาขับรถจนเกิดเหตุ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะเชิญตัวมาทำการสึกจากการเป็นพระภิกษุ เจ้าคณะอำเภอเมืองชัยภูมิ ก่อนเพื่อที่จะขอควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่สภ.เมืองชัยภูมิ ต่อไป
โดยเจ้าหน้าที่ขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย พบสูงถึงกว่า 154 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งพระรูปนี้ยอมรับว่าได้ดื่มสุรามาก่อนขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว ทะเบียน กค-1733 สมุทรปราการ แต่ไม่รู้ว่าได้ฝ่าไฟแดงออกไป เพราะความเมาตาลายมองไม่เห็นจึงไปพุ่งชนรถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนด์เทา ทะเบียน กฉ-8452 ชัยภูมิ ที่กำลังขับรถออกจากไฟเขียวมาตามปกติ ก่อนที่รถเก๋งพระจะเสียหลักหมุนไปกลางถนนไปพุ่งชนกับร้านขายขายใกล้กันกับสี่แยกไฟแดง จนทำให้ประตูหน้าร้านขายยาพังเสียหายอีกแห่ง
ซึ่งจากการสอบถามหนึ่งในคู่กรณีที่ขับรถกระบะมา คือนายภาณุศักดิ์ ถาวรชาติ อายุ 34 ปี ซึ่งผู้คุมเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนด์เทา ทะเบียนกฉ-8452 ชัยภูมิ ออกจากบ้านพักบ้านขี้เหล็กใหญ่ กำลังจะไปทำงานที่เรือนจำชัยภูมิ ขณะขับรถจอดติดไฟแดงอยู่สี่แยก เพื่อรอสัญญาณไฟเขียวแล้วก็ขับรถออกมาตามปกติ แต่ขณะนั้นจู่ๆ พบว่ารถเก๋งคันก่อเหตุได้วิ่งมาจากตัวเมืองชัยภูมิ มาด้วยความเร็วพุ่งเข้าชนรถตนเองอย่างจัง ก่อนที่จะเสียหลักไปชนร้านค้าในตึกแถวใกล้กันอีกแห่ง
ก่อนที่จะพยายามจอดรถลงข้างทาง และรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และวิ่งลงไปดูก็พบว่าคนขับรถเก๋งคันดังกล่าว เป็นพระภิกษุขับรถยนต์เก๋งมา และยังอยู่ในสภาพเมาสุรามีกลิ่นคลุ้งไปทั่ว และยังมีอาการควบคุมสติไม่ได้ ร้องโวยวายอยู่ในที่เกิดเหตุ พอเจ้าหน้าที่มาถึงจึงช่วยควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยภูมิ ก่อนพานำตัวไปทำการสึกก่อน เพื่อนำตัวมากลับมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายในครั้งนี้ได้
ซึ่งส่วนของตนเองก็ขอเรียกร้องพระเมาที่ขับรถก่อเหตุครั้งนี้ ช่วยชดใช้ค่าเสียหายที่รถกระบะตนเองถูกชนพังเสียหายไปทั้งหมดครั้งนี้ ไปประมาณ 20,000 บาท ส่วนเจ้าทุกข์ร้านขายยาที่ถูกชนร้านพังเสียหายอีกราย ก็อยู่ระหว่างเจรจาให้พระเมาดังกล่าวชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มเติมอีกรายเช่นกัน ก่อนที่ทาง จนท.ตร.จะควบคุมตัวพระเมาซิ่งเก๋งรายนี้ ที่ทำการสึกแล้วไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นที่น่าหดหู่ใจอีกครั้งในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็เกิดไปพบพระเร่ร่อนมาจากจ.ขอนแก่น เมาสุราหนักจนหมดสภาพขาดสติ เพราะหารถโดยสารเดินทางไปเร่ร่อนต่อในต่างจังหวัดที่สระบุรีไม่ได้ เพราะติดช่วงเคอร์ฟิว ในช่วงโควิด -19 ระบาด จึงขอเข้าไปนอนห้องเจ้าอาวาสภายในวัดชัยประสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ แต่เกิดอาการเมาหนักร้องอาละวาดโวยวายไปทั่ววัด จนถูกจนท.ตร.พาตัวไปจับสึกก่อนหน้านี้มาแล้ว 1 ราย อย่างน่าอนาถกับพฤติกรรมมารศาสนาแบบนี้
ซึ่งประชาชนที่ทราบข่าวว่ามีพระเมาหนักวันนี้ติดต่อกันถึง 2 ราย ก็อยากฝากวิงวอนไปถึงคนที่คิดจะบวช ถ้าชอบดื่มปฏิบัติศีลตามหลักพระพุทธศาสนาไม่ได้ ก็อย่ามาบวชทำให้คนทั่วไป ที่ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธมาถูกมองไม่ดี และทำให้ศาสนาเสื่อมไปหนักมากกว่านี้กันอีกเลย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: