ชัยภูมิ – !!ต่อหน้าพ่อตาตัวเองสุดช่วยได้ทัน เนื่องจากพากันผ่ากระน้ำเชี่ยวลงไปงมแหไม่ไหวจนถูกกระแสน้ำพัดแรงพัดจมสูญหายครั้งนี้ 2 ราย เร่งประสาน จนท.หน่วยค้นหาใต้น้ำชุดปักเป้าตาแดงมูลนิธิสว่างคูรธรรมชัยภูมิ ระดมนักประดาน้ำช่วยลงงมค้นหาร่างใต้น้ำมาต่อเนื่องบริเวณหน้าสันฝายน้ำล้นลำห้วยระเหว ตลอดช่วงเที่ยงที่ผ่านมาหลายชั่วโมงยังไม่พบ!!
เมื่อเวลา 11.30น. วันที่22 ต.ค.61 พ.ต.อ.กรชไพสิฐ ไตรทานิสิฐกุล ผกก.สภ.หนองบัวระเหว ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.ประโยชน์ ปินตาบูรณ์ รองสว.(สอบสวน)สภ.หนองบัวระเหว หลังได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนจมน้ำสูญหาย 2 ราย ไปในลำห้วยระเหวบริเวณสันฝายน้ำล้น ที่บ้านหนองคลอง หมู่ 5 ต.โสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ จึงได้ประสานชุดกู้ภัยหนองบัวระเหวและชุดประดาน้ำปักเป้าตาแดงสว่างคุณธรรมชัยภูมิลงพื้นที่ช่วยเร่งค้นหาผู้สูญหายลงไปในน้ำครั้งนี้เป็นการด่วน
พบที่เกิดเหตุเป็นฝายน้ำล้นกันลำห้วยระเหว ซึ่งฝายมีขนาดกว้าง 15 เมตร สูง 3 เมตร สันฝายยาวอีกกว่า 25 เมตร ซึ่งมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวรุนแรงมาก เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องในช่วง 1-2 วันนี้ลงมาในพื้นที่จำนวนมาก จนทำให้ปริมาณน้ำจากเทือกเขาพังเหยไหลมาสะสมบริเวณดังกล่าวจำนวนมาก
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งมีชาวบ้านใกล้เคียงจำนวนมากเห็นเหตุการณ์และช่วยแจ้งจนท. ทราบชื่อผู้สูญหายทั้ง 2 ราย คือ นายอนุพงษ์ บุญเพิ่ม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.2บ้ านโสกปลาดุก ต .โสกปลาดุก ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานผลิตน้ำส้มเกล็ดหิมะขายปลีกและส่งใน อ.หนองบัวระเหว และนายสวน สาฆ้อง อายุ53 ปี ชาวบ้านเลขที่ 269 หมู่ 2 บ้านโสกปลาดุก ต.โสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว เพื่อนบ้านใกล้โรงงานผลิตน้ำส้มที่มาด้วยกัน
สอบถาม นายเคน เสโส อายุ 69 ปี ชาวบ้านเลขที่ 95 ม.2 ซึ่งเป็นพ่อตาของนายอนุพงษ์ หรือเสี่ยกล้องเจ้าของโรงงาน ผู้สูญหาย เล่าว่าในช่วงสามโมงเช้านายกล้องได้ใช้เวลาว่างหลังจากทำน้ำส้มเกล็ดหิมะขาย ก็ได้ออกมาหาทอดแหหาปลา เพราะระยะนี้น้ำในลำห้วยมีปริมาณมากทำให้มีปลามาเล่นน้ำในจุดนี้ชุกชุมจำนวนมาก และขณะทอดแหอยู่นั้น แหได้ไหลไปติดกับตอไม่ใต้น้ำ ทำให้ดึงแหขึ้นฝั่งไม่ได้ นายกล้องเอง จึงได้กลับไปบอกพ่อตาและเพื่อนบ้านมาช่วยนำแหขึ้นจากน้ำ
เพราะเสียดายแหที่พ่อตาทำให้กับมือ ซึ่งตนเองในฐานะพ่อตาก็บอกว่าอย่าไปเสียดายเลยแต่ลูกเขยก็ไม่ฟัง ขณะที่กลับมาถึงฝายน้ำล้นทั้งนายกล้องเพื่อนบ้านและพ่อตาก็ได้ช่วยกันนำเชือกดึงกันเพื่อจะลงไปงมแหที่จมอยู่ในน้ำ แต่เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวรุนแรงจึงพัดเอาร่างของนายอนุพงษ์ หรือเสี่ยกล้อง กับร่างนายสวนฯอีกคน จมหายไปพร้อมกันกับกระแสน้ำ ต่อหน้าต่อตานายเคนซึ่งเป็นพ่อพ่อตา
หลังเกิดเหตุนายเคน พ่อตาก็ได้รีบเรียกร้องให้คนในหมู่บ้านและคนอยู่ใกล้เคียงมาช่วยพร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่เร่งช่วยค้นหาดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดค้นหาใต้น้ำชุดประดาน้ำปักเป้าตาแดงฯได้ใช้เวลาค้นหานานกว่า 4 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบร่างผู้สูญหายทั้งสองรายได้ โดยทีมนักประดาน้ำจากกู้ภัยสว่างคุณธรรม จ.ชัยภูมิ ก็จะได้มีวางแผนในการค้นหาเป็นระยะต่อไป เนื่องจากปัญหาและอุปสรรคครั้งนี้ เนื่องจากน้ำลึกหลายเมตรและไหลแรงใต้น้ำยังเชี่ยวรุนแรงมาก และยังมีกิ่งไม้ต่างๆเป็นจำนวนมากยากต่อการค้นหาใต้น้ำอย่างมากอีกด้วย
ด้าน นายนิวัฒน์ สุพกิจ นายอำเภอหนองบัวระเหว เองได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ในการค้นหาในครั้งครั้งนี้ด้วย พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายให้ช่วยกันทำงานด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นอีกได้ พร้อมกับเตือนชาวบ้านในพื้นที่ระยะนี้ลำห้วยสายต่างๆมีปริมาณน้ำที่ไหลเชี่ยวรุนแรง ควรหลีกเลี่ยงการลงหาปลาในจุดที่เสี่ยงๆเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวซ้ำขึ้นมาอีกได้ โดยจะให้ผู้นำชุมชนประกาศเตือนลูกบ้านให้ระมัดระวังในการออกหาปลาในระยะนี้เป็นพิเศษไปก่อน จนกว่ากระแสน้ำจะลดความเชี่ยวลงให้เป็นปกติกว่านี้ด้วยในช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้อาจจะยังมีฝนตกลงมาในพื้นที่เพิ่ม
