ชัยภูมิ – วอน จนท.เร่งไล่ล่า หลังถูกแก๊งโจรบุกขโมยงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือตามจุดต่างๆ ทั่วเมือง พังเสียหายมาต่อเนื่องรายเดือนรวมกว่า 5 เครื่องแล้ว ล่าสุดช้ำใจหนัก หัวขโมยกลุ่มนี้เล่นแรงหนักข้อขึ้นทุกทีขโมยยกหายทั้งตู้ ก่อนนำไปงัดเอาเงินภายในตู้ และนำไปโยนทิ้งโชว์ซากไว้ในทุ่งนาชาวบ้าน !
( 7 ก.ย.63 ) มีความคืบหน้าคดีหลังวานนี้ นายกิตติ สุขขี อายุ 53 ปี ชาวบ้านเลขที่ 293 – 294 หมู่ 6 บ้านหนองสังข์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เจ้าของผู้ประกอบการตู้เติมเงินโทรศัพท์ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ได้เข้าแจ้งความต่อพ.ต.ท.จิตติพัฒน์ คำรังสี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ มีคนร้ายก่อเหตุใช้เครื่องมือทำลายฐานที่ตั้งเครื่องตู้เติมเงินที่ติดตั้งไว้บริการลูกค้าโทรศัพท์มือถือยี่ห้อกระปุก
ซึ่งจุดเกิดเหตุตั้งอยู่ข้างถนนใกล้ร้านค้าของชำเลขที่ 297 บ้านบุ่งคล้า หมู่ 12 ต.บุ่งคล้า อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งคนร้ายได้ขโมยยกตู้ดังกล่าวหายไปไปทั้งฐาน ทั้งเครื่องเติมเงินไปทั้งตู้จำนวน 1 เครื่อง จากที่วางคู่กันไว้จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งมูลค่าความเสียหายตู้เติมเงินที่หายไปทั้งตู้ครั้งนี้รวมมากกว่า 49,000 บาท มีเงินภายในเครื่องอีกไม่น้อยกว่า 2 พันบาท ซึ่งสัญญาณการใช้เครื่องเติมเงินฯ ได้ขาดหายไปช่วงเวลา 23.17 น.ของวันที่ 6 ก.ย.63 ก่อนตู้เติมเงินจะถูกขโมยหายไปทั้งตู้ครั้งนี้
จนล่าสุด วันนี้ (7ก.ย.63) เวลา 10.30 น.ขณะที่นายเวียน บิจันทร์เที้ยะ อายุ 63 ปี ชาวนาบ้านเลขที่ 15 บ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ 12 ตำบลหนองนาแซง อำเภอเมือง จ.ชัยภูมิ ได้ออกมาดูนาข้าวของตนเองห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 4 กิโลเมตร ที่อยู่ติดกับถนนซอยคอนกรีต ใกล้ลำคลองใกล้กับบ้านโนนสมบูรณ์ ต้องตกใจเมื่อได้พบกับเครื่องตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือพร้อมฐานติดตั้งเครื่องมาแบบทั้งตู้ยกชุด ถูกนำมาทิ้งในที่นาตนเอง จึงเรียกเพื่อนบ้านใกล้เคียงให้มาช่วยกันยกนำไปวางตะแคงไว้ที่ริมถนนใกล้ที่นา ก่อนโทรศัพท์แจ้งกำนัน และตำรวจ ให้เจ้าของเครื่องตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือดังกล่าวที่แจ้งหายไว้เดินทางมาดู
ซึ่งด้านตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ คาดว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุครั้งนี้มีไม่น้อยกว่า 3 คนขึ้นไป ซึ่งจะได้เร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด เพื่อเร่งติดตามกลุ่มหัวขโมยครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป
เพราะตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา พบว่ามีตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือของนายกิตติฯ เจ้าของผู้ประกอบการตู้เติมเงินโทรศัพท์ ที่นำไปติดตั้งไว้ตามหน้าร้านจุดต่าง ๆ ทั่วจังหวัดชัยภูมิ ถูกคนร้ายงัดตู้ฯขโมยเงินไปแล้วทุกเดือน เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 5 เครื่อง มูลค่าความเสียหายเฉพาะตัวเครื่องรวมกว่า 245,000 บาท เงินในตู้เติมเงินอีกนับหลายหมื่นบาท แต่จนขณะนี้ยังจับคนร้ายกลุ่มนี้ไม่ได้
ซึ่งด้านนายกิตติผู้เสียหาย เจ้าของตู้เติมเงินที่ถูกทั้งงัดทำลายตู้และถูกยกขโมยหายหนักข้อมากขึ้น ที่ครั้งนี้ถูกขโมยยกหายไปทั้งตู้ แท่นฐานเครื่องเติมเงินโทรศัพท์มือถือในครั้งนี้ อยากขอร้องฝากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยจับคนร้ายให้ได้โดยเร็วด้วยน้ำตาคลอเบ้า เพราะตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือของตนเองเสียหายไปแล้วมาต่อเนื่องจำนวนมากทุกเดือนรวมกว่า 5 เครื่อง ๆ ละกว่า 49,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายไปแล้วไม่น้อยกว่า 245,000 บาท และครั้งล่าสุดนี้คนร้ายเหิมหนักมากเล่นขโมยยกพังเสียหายยกไปทั้งตู้ถือว่าท้าทายกฏหมายเป็นอย่างมาก ที่ก็ไม่เคยเจอโจรกล้าขนาดนี้มาก่อน ที่กล้าขโมยยกทั้งตู้ทั้งฐานวางตู้ไปหมดมากขนาดนี้
