ชัยภูมิ – เมาคลั่งหึงแหลก! หนุ่มใหญ่คนงานก่อสร้างวัย 53 ปี เมาคลั่งหึงเมีย ทั้งตบตี ทำลายข้าวของในห้องพักเช่าที่เช่าอยู่กับภรรยาพังเสียหายยับ แถมเมาหนักจนคิดว่าภรรยาตัวเองจะตีตัวออกห่างไปมีอะไรกับคนอื่นและหัวหน้าคนงานก่อสร้างซ้ำอีก ก่อนที่จะบุกไปทำลายทรัพย์สินที่พักคนงานของหัวหน้าคนงานก่อสร้างพังต่ออีกราย ด้านทั้งตัวหัวหน้าคนงาน และเจ้าของหอพักให้เช่า ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย โร่แจ้งตำรวจให้ออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร็ว และไม่อยากให้เมาจนขาดสติกลับมาก่อเหตุแบบนี้ ที่ไม่ควรคิดไม่ดีต่อผู้อื่นเพราะเมาจนขาดสติขนาดนี้ ทั้งต่อภรรยาตนเองและคนอื่นไปทั่วอีก จะเสียอนาคตตอนสูงอายุไปเปล่า ทุกฝ่ายอยากให้กลับตัวรีบมอบตัวต่อ ตร.ตอนนี้ยังไม่สายเกินแก้จะดีกว่า!
เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา วันที่ 16 ก.ย.63 ร.ต.อ.สุเมธ เสนากร รองสารวัตรสอยสวน สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจาก น.ส.ภัทธิรา กีเคียง เจ้าของหอพักลลิตา เลขที่ 415 บ้านห้วยชั้น หมู่ 2 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ตั้งอยู่ริมถนนสายชัยภูมิ – ตาดโตน ได้นำภาพร่องรอยความเสียหายของห้องพักที่ถูก นายรานีฯ อายุ 53 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ซับสีทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้าง ที่ได้มาเช่าห้องพักเพื่อพักอาศัยอยู่กับภรรยา นาง.เอ (นามสมมุติ) และได้เกิดอาการเมาคลั่งระแวงไปทั่วว่าเมียตนเองไปมีชายอื่น จึงลงมือทำร้ายร่างกายตบตี นาง.เอ ภรรยาตนเองจนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและลำตัว ก่อนจะใช้ฆ้อนเหล็กตีตะปูทุบ พังทำลายทรัพย์สินสิ่งของภายในห้องเช่าหอพักดังกล่าว ทั้งฝ้าเพดานห้อง และห้องน้ำ บานเกร็ดหน้าต่างห้อง ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ก่อนที่ภรรยาของผู้ก่อเหตุรายนี้จะหลบหนีออกจากห้องพักดังกล่าวไป
ซึ่ง น.ส.ภัทธิราฯ เจ้าของหอพักดังกล่าว ได้นำหลักฐานมีภาพจากกล้องมือถือ ที่ได้ถ่ายภาพความเสียหายภายในห้องพักเช่าไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุรายนี้ คือ นายรานีฯ อายุ 53 ปี คนก่อเหตุ ได้มาพบและรับปากว่าจะซ่อมแซมชดใช้ค่าเสียหายให้ ก่อนจะอ้างจะไปเบิกเงินกัวหัวหน้าคนงานมาชดใช้ค่าเสียหายให้ ก่อนทำการหลบหลบหนีไปหลังก่อ เหตุเมื่อวานนี้ (15 ก.ย.63)
ข่าวน่าสนใจ:
- จนมุมคาด่านตรวจปีใหม่หนุ่มหนีหมายจับค้ายาบ้านานกว่า 3 ปี!
- กระฮึ่มรุมสาปแช่งทั่วเมืองสาวแสบยังไม่สำนึกขโมยของศาลเจ้าพ่อพญาแลผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ!
- เปิดแล้วสุดยอดจุดเคาท์ดาวน์ซับสะเลเตบนขุนเขาแห่งดอกไม้ใหญ่สุดในภาคอีสาน!
- ศึกชิง ส.อบจ.ชัยภูมิน้อยเป็นประวัติการณ์กว่า 5 เขตมีผู้สมัครคนเดียวไร้คู่แข่งแบบนอนมา!
แต่ก็ยังมีพฤติการณ์ไปก่อเหตุก่อกวน อีกจุดที่บริเวณที่พักคนงานก่อสร้างอาคารโรงแรมอีกจุด บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ และร้องด่าพร้อมทำลายทรัพย์ทรัพย์สินในตึกห้องที่พักคนงานของนายสุพัฒน์ เมษคำ หัวหน้าคนงานก่อสร้าง ก่อเหตุซ้ำอีกราย ทั้งมีการไปนำผ้าห่มและอื่น ๆ ของคนงานก่อสร้างคนอื่นมาโยนทิ้งได้รับความเสียหายอีก ก่อนหลบหนีไป
ซึ่งด้าน น.ส.น.ส.ภัทธิราฯ เจ้าของหอพัก ผู้เสียหายรายแรก กล่าวว่า ครั้งนี้ไม่ต้องการอะไรมาก ต้องการเพียงให้นายรานี ผู้ก่อเหตุ ออกมาแสดงความรับผิดชอบความเสียหายที่ทำลายทรัพย์สินภายในห้องพักของตนเองโดยเร็ว ที่มูลค่าความเสียหายเบื้องหลายพันบาท และต้องการให้มาซ่อมแซมภายในห้องหอพักที่พังทำลายให้อยู่ในสภาพเดิมโดยเร็วด้วย ซึ่งไม่อยากให้คิดไม่ดีต่อผุ้แนและก่อเหตุเมาคลั่งหนักขนาดนี้อีกเลยไม่สามารถทำให้อะไรดีขึ้นได้
ขณะที่ด้านนายฉลวย เกตุขำ อายุ 43 ปี ลูกพี่ลูกน้องนายสุพัฒน์ฯ หัวหน้าคนงานก่อสร้าง ผู้เสียหายอีกราย บอกว่า กรณีของนายรานีฯ ผู้ก่อเหตุครั้งนี้ เดิมทีเป็นคนงานก่อสร้างอยู่กับตน แต่ความประพฤติไม่ดี ชอบดื่มเหล้าในระหว่างงาน จึงให้ออกจากงาน ซึ่งตั้งแต่ช่วงวานนี้ จนถึงเช้าวันนี้(16 ก.ย.63) ก็ยังมีอาการเมาอยู่ ก่อนที่จะไปก่อเหตุทำลายข้าวของในหอพักรายแรกมาแล้ว และหลบหนีมาก่อเหตุทำลายข้าวของในที่พักคนงานอีกจุด ก่อนหลบหนีไป ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุเกิดปัญหากับภรรยา และยังมาคิดว่าตนและพี่ชายหัวหน้าคนงานและคนอื่นว่าไปมีอะไรกับภรรยาเขาไปทั่ว ซึ่งไม่น่าจะคิดเรื่องไม่ดีกับคนอื่นแบบนี้ รวมทั้งภรรยาตนเองด้วย เรื่องแบบนี้เมาแล้วจะไปหาโวยวายกับคนอื่นโทษคนที่ไม่รู้เรื่องมีแต่คนอื่นผิดฝ่ายเดียวก็ลำบาก ซึ่งตอนนี้ก็กลัวว่า ถ้าเขาผู้ก่อเหตุยังคิดอย่างนี้ และมีการวนเวียนมาจะทำลายผู้อื่นอีกได้ ซึ่งหากพูดกันไม่ฟังก็ต้องแจ้งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปในครั้งนี้ด้วย และอยากให้ตั้งสติรีบกลับตัวมารับผิดชอบต่อสิ่งที่กระทำขึ้นครั้งนี้จะดีกว่า
ด้าน ร.ต.อ.สุเมธ เสนากร รองสารวัตรสอนสวน สภ.เมืองชัยภูมิ หลังได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นจึงได้ให้คนงานก่อสร้างช่วยยกรถจักรยานยนต์ของนายรานี ฯของผู้ก่อเหตุที่จอดทิ้งไว้ ที่หน้าอาคารพาณิชย์ ที่พักของหัวหน้าคนงาน ก่อนวิ่งหลบหนีไป นำไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ ก่อนจะออกหมายเรียกนายรานี ฯคนก่อเหตุรายนี้ มาสอบสวน หากยังไม่มาหลังจากออกหมายเรียก 2 ครั้งแล้วไม่มารายงานตัวต่อ จนท. ก็จะได้ออกหมายจับเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: