ชัยภูมิ – ประชาชนชาวชัยภูมิ แห่ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งอย่างคึกคักตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมตอบรับเป็นโครงการที่ดีอยากให้รัฐขยายโครงการต่อ เพื่อช่วยประหยัดรายจ่ายให้กับชาวบ้านคนในครอบครัวได้อิ่มท้องมากขึ้น ขณะที่ด้านพ่อค้าแม่ค้าเผยหลังเริ่มโครงการมีผลตอบรับช่วยให้คนในพื้นที่ออกมาจับจ่ายใช้สอยกับร้านค้าในพื้นที่ได้พุ่งสูงมากขึ้นกว่า 40 % !
( 30 ต.ค.63 ) ที่ จ.ชัยภูมิ บรรยากาศหลังจากที่รัฐบาลเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิโครงการ คนละครึ่ง มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเสียงตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ต่อโครงการนี้ที่ย่างเข้ามาสู่สัปดาห์แรกของโครงการฯ
จาการสำรวจบรรยากาศที่ย่านการค้าตลาด ถนนข้าวสวย กลางเมืองชัยภูมิ ตามร้านค้าร้านอาหารตามสั่งต่างๆ ของแต่ละวันที่ผ่านมา พ่อค้าแม่ขายต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำให้มีลูกค้าประชาชนชาวชัยภูมิ ที่ลงทะเบียนเข้าโครงการ และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการนี้แทบทุกแห่ง ต่างมีประชาชนออกมาหาจับจ่ายใช้สิทธิ์ของตนเองกันคึกคักกันจนแน่นร้านตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- ‼️เลือดหนึ่งหยด..มีค่า-ต่อลมหายใจให้ผู้ป่วย,บาดเจ็บ‼️
- "เลยดั้น" แค่มุมภาพเดียว กลายเป็นไวรัล ดึงดูด นทท.แห่เช็คอินถ่ายภาพ อ.น้ำหนาวเตรียมดันเป็นซอฟพาวเวอร์
- เพชรบูรณ์ - "ยุพราช"ชี้! นักการเมืองไม่จำเป็นต้องรวย แค่เคียงข้าง ปชช.ไม่ทุจริตโกงบ้านเมืองก็พอ
ในรูปแบบโครงการคนละครึ่ง ที่ประชาชนต่างบอกว่า ถือเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้จำนวนมาก ที่เดิมมีเพื่อน หรือครอบครัวญาติบ้านใกล้กัน มีสมาชิก 3 คน หากออกมาหาซื้ออาหารรับประทาน อย่างเช่นข้าวกล่อง ทั้งข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า และอื่น ๆ นานาชนิดรับประทาน ก็จะช่วยประหยัดรายจ่ายให้กับประชาชนเป็นอย่างดี วงเงินที่ให้ใช้ได้วันละไม่เกิน 150 บาทนั้น จากเดิมซื้ออาหารได้ไม่เกิน 3-4 ห่อ/กล่อง ในราคา 150 บาท แต่โครงการคนละครึ่งรัฐช่วยจ่ายให้เพิ่มอีกครึ่งไม่เกินอีก 150 บาท ในเฉพาะแต่ละวันรวมเป็น 300 บาท ก็จะได้อาหารไปแจกจ่ายกันรับประทานได้จำนวนคนเพิ่มมากขึ้นอีกครึ่งหนึ่ง จาก 3- 4 ห่อ ก็จะได้เพิ่มเป็น 6-8 ห่อ ในแต่ละวันซึ่งมองว่าเพียงพอ ช่วยเหลือประชาชนได้ลดรายจ่ายในครอบครัวได้มากขึ้น ในช่วงนี้ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เพิ่มวงเงิน หรือขยายเวลาโครงการออกไปอีกก็จะเป็นการดีที่จะพอช่วยเหลือประชาชนได้อีกจำนวนมากในครั้งนี้ด้วย
ขณะที่ด้านเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวในย่านตลาด ถนนข้าวสวย ที่เป็นร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ บอกว่าโครงการคนละครึ่ง เป็นโครงการที่ดีหลังจากเริ่มโครงการวันแรก 23 ต.ค.63 จนถึงวันนี้ ( 30 ต.ค.63 ) มีลูกค้ามาอุดหนุนใช้บริการที่ร้านเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมกว่า 40 % และอยากให้ขยายโครงการออกไปอีก และช่วยให้ร้านค้าเกิดความคึกคักมีการออกมาจับจ่ายของประชาชนได้เพิ่มขึ้น แต่ก็อยากให้มีการปรับปรุงการใช้เงินให้เข้าบัญชีง่ายขึ้นเร็วขึ้นกว่าเดิมก็จะเป็นการดีมากขึ้นด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: