ชัยภูมิ – ไม่ขายเสียง ขอผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต้องตระหนักออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันให้มากขึ้น ซึ่ง กม.การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ คนที่ไม่แจ้งเหตุอันควรหรือจำเป็นมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งไม่ได้ ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองนาน 2 ปี พร้อมรับสถานการณ์เข้มป้องกันโควิด – 19 ทุกคูหาการเลือกตั้งพร้อมเปิดคูหาพิเศษให้กับคนที่วัดอุณหภูมิสูง ได้เข้าไปใช้สิทธิ์ได้อีกทาง เพื่อป้องกันเสี่ยงแพร่เชื้อ!
เมื่อเวลา 09.00 – 13.00 น.วันที่ 10 พ.ย.63 เรือเอกไตรสรณ์ ผาสุข รักษาการผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.ชัยภูมิ พร้อมด้วยนายประทีป ศิลปเทศ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ( อบจ.) เรียกประชุมชี้แจงเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมาย ข้อปฏิบัติ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เชิงสมานฉันท์ในการเลือกตั้ง ส.อบจ. และนายก อบจ.ชัยภูมิ ให้กับผู้สมัครชิงนายก อบจ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้รวม 4 คน และ ผู้สมัคร ส.อบจ.ในทั่วทั้งจังหวัดรวม 152 คน ใน 36 เขตเลือกตั้ง และผู้สนับสนุนที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อบจ.ชัยภูมิ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 นี้ระหว่าง 08.00 – 17.00 น. ชวนชาวไทยทุกคนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งต้องรักษาสิทธิ์ รู้หน้าที่เพื่อประโยชน์ต่อบ้านเมืองสังคมโดยรวมต้องออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
โดยในสาระสำคัญในการเลือกตั้ง อบจ.ชัยภูมิ ครั้งนี้ในส่วนผู้ที่ได้มีการยื่นใบสมัครมาแล้วทั้งหมดดังกล่าว จะต้องรอตรวจสอบประกาศผลรับรองการเป็นผู้สมัครภายในวันที่ 13 พ.ย.63 นี้ และหากมีการประกาศผลออกมาแล้วใครที่มีชื่อถูกตัดสินขาดคุณสมบัติ ก็จะสามารถยังยื่นร้องคัดค้านได้ภายในวันที่ 16 พ.ย.และทาง กกต.จะใช้เวลาพิจารณาภายใน 3 วัน ถ้ามีผลยืนยันว่าขาดคุณสมบัติอีกก็ถือว่าถูกตัดสิทธิ์ เพื่อที่จะได้นำสู่การทำบัตรเลือกตั้งตามความเหมาะสม ที่จะมีบัตร 2 ใบ ใช้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ในแต่ละพื้นที่ที่มีผู้สมัคร ส.อบจ.จำนวนไม่เท่ากันต่อไป
จากนั้นก็จะเป็นเรื่องการการกำหนดเขตเลือกตั้งและหน่วยเลือกตั้งที่ให้ชัดเจนทั้งหมดภายในวันที่ 19-24 พ.ย.63 ซึ่งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตนั้นๆจะต้องมีอายุครบ 18 ปี บริบูรณ์อยู่ในทะเบียนบ้านนั้นๆครบ 1 ปี และโดยเฉพาะในการเลือกตั้งครั้งนี้ประเทศไทยยังอยู่ในสถานการณ์ต้องมีการป้องกันตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ในแต่ละหน่วยเลือกตั้ง จะต้องมีคูหาพิเศษเกิดขึ้น เพื่อรองรับการมาใช้สิทธิ์ของประชาชนที่อาจมีความเสี่ยงมีอุณหภูมิร่างกายสูง ได้เข้าไปใช้คูหาเลือกตั้งพิเศษในจุดนี้ ที่จะต้องมีขึ้นและเตรียมจัดไว้ประจำทุกหน่วยเพื่อเป็นการป้องกันโควิด 19 ระบาดในครั้งนี้ด้วย
และในการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มาใช้สิทธิ์ โดยไม่มีการแจ้งเหตุอันควรจำเป็นที่มาใช้สิทธิ์ไม่ได้ในครั้งนี้ ในระหว่างก่อนเลือกตั้ง 7 วัน 13 – 19 ธ.ค.63 หรือหลังวันเลือกตั้งภายใน 7 วัน ต้องเข้าใจว่าจะต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปี ที่ไม่สามารถคืนสิทธิ์ได้ หากไม่มาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ จะถูกจำกัดสิทธิ ทั้งการอยากจะไปสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือ ส.ถ. หรือ ผ.ถ. หรือสมัครรับเลือกเป็น ส.ว. สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอน ส.ถ. หรือ ผ.ถ. ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งจะถูกจำกัดสิทธิ กำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้งครั้งนี้ไป
ซึ่งอยากให้ประชาชนให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้นด้วย รวมทั้งหากพบเห็นว่าตนเองมีรายชื่อตกหล่น หรือมีรายชื่อบุคคลที่ไม่อยู่ในทะเบียนบ้านก็ขอให้รีบดำเนินการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ในทุกอำเภอโดยเร็วก่อนวันเลือกตั้ง
และโดยเฉพาะส่วนผู้สมัคร ที่มีการกำหนดไว้ให้ต้องมีค่าใช้จ่าย สำหรับ ส.อบจ. ต้องไม่เกิน 600,000 บาท และ นายก อบจ.ไม่เกิน 10 ล้านบาท ที่ทุกคนที่สมัครจะต้องมีการดำเนินการยื่นแจ้งการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งหมด ภายในไม่เกินวันที่ 20 มี.ค.63 หรือหากใครที่มีปัญหาต่างๆ เกิดความไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้ง อบจ.ในครั้งนี้ หรือต้องการร้องเรียนปัญหาเกิดการทุจริต ซื้อสิทธิ์ขายเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็สามรถติดต่อไปที่สายด่วน กกต.กลาง ได้เพิ่มเติมที่ 1444
