ชัยภูมิ – เพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ยินทะเลาะกันเสียงดัง ก่อนรีบพากันมาดูพบรุ่นพี่วัย 49 ปี ถูกตีศีรษะใบหน้าเละกลายเป็นศพ ก่อนที่หนุ่มวัย 29 ปี จะรีบวิ่งหลบหนี!
เมื่อเวลา 11.50 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ร.ต.อ.สุเมธ เสนากร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากทางศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีเหตุฆ่ากันตายมีผู้เสียชีวิต กลางทุ่งนาหลังวัดบ้านคลองลี่ หมู่ที่ 12 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิและหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สวมเสื้อลายสก๊อต กางเกงยีน สภาพถูกตีด้วยไม้ขนาดใหญ่บริเวณใบหน้า ศีรษะเละ สมองกระจาย นอนจมกองเลือด ใกล้กันยังพบไม้เปื้อนเลือดจำนวน 2 ท่อนหักอยู่ ทราบต่อมาผู้ตายชื่อ นายวิชา จั้นชัยภูมิ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลข 57 หมู่ที่ 12 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ
ข่าวน่าสนใจ:
สอบถามไปยัง นางทูล บุญเสริม อายุ 63 ปี ชาวบ้านเลขที่ 71/2 หมู่ที่ 12 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ และ นายอำนวย ฝ่ายกลาง อายุ 52 ปี ชาวบ้านเลขที่ 68/4 หมู่ 12 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ที่มาพบศพเป็นคนแรก เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตและนายประวิทย์ สายมูญ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุได้มาช่วยกันเกี่ยวข้าวในนาขงอนางทูลฯ และนำข้าวมาตีตากไว้ที่ลานกลางทุ่งนา และมาช่วยกันนอนเพื่อเฝ้าข้าวเปลือกที่ตีแล้วที่กระท่อมนาดังกล่าว ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะช่วยกันขนข้าวไปเก็บไว้ที่เล้า
โดยเมื่อช่วงเช้าทั้ง 2 คนได้พากันขนข้าวกลับไปเก็บที่บ้านของนางทูลฯ วัย 63 ปี หลังจากนั้นผู้เสียชีวิตเพื่อนบ้านรุ่นพี่และนายประวิทย์ฯ วัย 29 ปี ได้มานั่งดื่มสุราอยู่บริเวณกระท่อมนา ก่อนที่ชาวบ้านที่กำลังเกี่ยวข้อวอยู่ในทุ่งนาจะได้ยินเสียงทั้ง 2 คนร้องโวยวายเสียงดังขึ้น ตอนแรกคิดว่าไล่สุนัข จากนั้นมีเสียงทั้ง 2 คนทะเลาะกันเสียงดัง จึงได้พากันขึ้นจากทุ่งนามาดู ก็พบนายวิชาฯ วัย 45 ปี ถูกตีนอนจมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว ส่วนนายประวิทย์ฯ ได้วิ่งหลบหนีไป จึงรีบไปบอกเพื่อนบ้านใกล้เคียงโทรแจ้ง จนท.ตร.มาช่วยตรวจสอบ
ด้าน ร.ต.อ.สุเมธ เสนากร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ หลังได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมประสานชุดสืบสวนและกองพิสูจน์หลักฐาน สภ.เมืองชัยภูมิ เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และเร่งจัดกำลังออกติดตามตัวนายประวิทย์ฯ ผู้ก่อเหตุรายนี้มาสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นและดำเนินคดีตามกฏหมาย ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเพื่อยืนยันถึงสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: