ชัยภูมิ – ของใครทำหล่นทำวุ่นอลหม่านบนถนนสาย 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว ยาวเกือบ 1 กม. มีรถบรรทุกขนกระสอบสารเคมีขับมาผ่านทำหล่นไว้เกลื่อนถนน ทำให้รถที่สัญจรผ่านไปมาเกิดถนนลื่นเสียหลักควบคุมรถไม่ได้พุ่งตกลงข้างทางซ้ำซ้อนนับ 10 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย เสียชีวิตติดคาซากเก๋งพุ่งตกข้างทางอีก 1 ราย จนท.ตร.เร่งติดตามขอให้รถบรรทุกที่ทำของดังกล่าวตกเกลื่อนถนนไว้รีบออกมาแสดงความรับผิดชอบ!
เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 16 มกราคม 2564 ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ ตุนชัยภูมิ รอง สว.(สอบสวน) สภ.จัตุรัส รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถกระบะ รถเก๋ง เสียหลักพุ่งลงข้างทางจำนวนหลายคัน ในริมถนนช่วงบ้านโคกแพงพวย ตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ถนนหมายเลข 201 สายชัยภูมิ-สีคิ้ว ช่วงตั้งแต่หลัก กม.ที่105-106 จึงเร่งรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมอำเภอจัตุรัส และขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเสริมเพิ่มจากหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนมีรถตกข้างทางและมีผู้บาดเจ็บติดคารถจำนวนมาก
ข่าวน่าสนใจ:
- บุรีรัมย์ ไฟไหม้บ้าน 2 หลัง เสียหายหนัก โชคดีไม่มีคนอยู่บ้าน
- สุดยอดงานกฐินบุญต่อชีวิตคน พระอาจารย์เขียวทอดกฐินสามัคคีจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินและอุปกรณ์ทางการแพทย์มุลค่ากว่า5ล้านบาท
- นนทบุรี หนุ่มวัย 24 เห็นรุ่นพี่เมา หวังดีอาสาขี่รถ จยย.ส่งบ้าน เกิด พลาดเสียหลักล้มถูกแท็กซี่ชนทับซ้ำดับคาที่
- การข่าวทหารพราน 2103 เจ๋ง รวบตัวสาวใหญ่ เดินสายส่งยาบ้าพร้อมของกลาง
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะพลิกคว่ำตกลงไปในทุ่งนาอยู่ข้างทางคันแรกเป็นรถกระบะวีโก้ สีบรอนด์ทอง ป้ายทะเบียน บพ 4394 หมวดจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีนายสุชาติ พานนท์ อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 284 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองบัวแดง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ เป็นคนขับมาและพยายามหนีตายออกจากตัวรถมายืนรอขอความช่วยเหลือจาก จนท.อยู่บริเวณบนถนน
บริเวณใกล้เคียงยังมีรถเก๋งยี่ห้อ BMW สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน กต 4332 หมวดจังหวัดสระบุรี พุ่งตกลงไปอยู่ในพุ่มหญ้าข้างทาง ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนแล้ว ห่างออกไปราว 50 เมตร ยังพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วียอส สีขาว ป้ายทะเบียน ฏง 366 หมวดจังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยมีนายพงษ์ธร แก่อก อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีเป็นคนขับรถเก๋งคันดังกล่าว สภาพหัวแตกเลือดไหลนอง ในรถยังพบร่างผู้เสียชีวิตหญิง 1 ราย ชื่อนางขวัญฤทัย แก่อก อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 78 หมู่ที่ 9 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ
ห่างออกไปราว 500 เมตร ยังพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิสตี้ สีขาว ป้ายทะเบียน ฆอ 6058 หมวดจังหวัดกรุงเทพมหานคร เสียหลักชนรถแบคโฮที่จอดอยู่ข้างถนนดังกล่าว สภาพด้านหน้าและด้านหลังรถพังยับเยิน ส่วนคนขับเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลจัตุรัสไปก่อนหน้านี้ได้แล้วเช่นกัน
สอบถามไปยังนายสุชาติ พานนท์ และ นายพงษ์ธร แก่อก คนขับรถทั้ง 2 คันที่ได้ขับมาเกิดมีสารเคมีสีขาวตกเกลื่อนถนนและทำให้ถนนลื่นจนรถเสียหลักควบคุมไม่อยู่พุ่งตกข้างทางพร้อมกัน ให้การตรงกันว่า ตนได้ขับรถมาจากทางกรุงเทพฯเพื่อจะมุ่งหน้าเข้าจังหวัดชัยภูมิ พอมาถึงจุดเกิดเหตุตนได้เห็นกระสอบดังกล่าวจำนวนหลายใบตกแตกกระจายมีคล้ายๆผงสารเคมีสีขาวปนเหลืองตกกระจายเกลื่อนไปทั่วบนพื้นผิวถนน รถแต่ละคันที่วิ่งผ่านมาเหยียบเศษดังกล่าวเข้า จนทำให้รถลื่นไถลพุ่งตกข้างทางไปคนละทิศละทาง และทำให้เกิดเหตุสลดมีทั้งผู้บาดเจ็บจำนวนมากในครั้งนี้รวม 7 คน และเสียชีวิต 1 ราย ดังกล่าวคือนางขวัญฤทัย แก่อก อายุ 37 ปี บ้านเลขที่78 หมู่ที่ 9 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ที่ภรรยานั่งมากับรถเก๋งสีขาวของนายพงษ์ธรฯ
ด้านเจ้าหน้าที่หลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุได้เร่งประสานรถน้ำไม่ว่าจะเป็นเทศบาลบ้านค่ายและอบต.ละหาน เข้ามาช่วยเร่งฉีดน้ำล้างสารเคมีดังกล่าวออกจากพื้นถนน ก่อนที่จะนำถุงสารเคมีที่ยังตกหล่นออกจากพื้นถนน ซึ่งถุงที่ยังไม่แตกยังเหลือมีจำนวน 4 ถุง เขียนในลักษณะเป็นวัตถุอันตราย หรือ สารเคมี
ซึ่งด้าน ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ ตุนชัยภูมิ รอง สว.(สอบสวน) สภ.จัตุรัส หลังได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ขณะที่เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุอยู่นั้นก็มีรถที่วิ่งจะเข้าเมืองเสียหลักอีกหลายคันแต่ไม่เป็นอะไร เจ้าหน้าที่จึงขอกั้นทางผ่านเพื่อทำความสะอาดให้หมดจนเป็นที่แน่ใจอีกครั้งอยู่นานอีกเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะเปิดให้รถผ่านเส้นทางนี้ตามปกติได้ และช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากรถ ก่อนนำไปชันสูตรที่โรงพยาบาลอำเภอจัตุรัส ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งหมดอีก 7 ราย หากอาการดีขึ้นจึงจะเชิญตัวมาสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนรถที่บรรทุกสารเคมีดังกล่าวมาเป็นของใครที่ทำตกหล่นไว้ ทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งตรวจสอบเพื่อติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: