ชัยภูมิ – วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งยืนมือช่วย ก่อนเหลือเพียงตำนานหมู่บ้านค่ายฝึกช้างหมื่นแผ้ว เมืองพญาแล ที่อดีตเคยเป็นฐานกำลังคนเลี้ยงฝึกช้างช่วยส่งไปเสริมกองทัพไทยสู้รบต่อข้าศึกจนประเทศไทยมีเอกราชมาได้จนทุกวันนี้ ใกล้วิกฤตล้มสลายเหลือเพียงตำนานแค่เล่าขาน!
( 28 ม.ค.64 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในทั่วประเทศและในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ยังคงต้องช่วยกันเฝ้าระวังการติดเชื้อกันอย่างเข้มข้นต่อเนื่องและยังไม่มีทีท่าว่าจะสามารถหยุดการแพร่ระบาดได้ลงเมื่อใด
และโดยเฉพาะปัจจุบันภาคเศรษฐกิจก็เริ่มส่งผลกระทบให้เห็นเด่นชัดตามาขึ้นเรื่อยๆ ในหลายด้านเป็นวงกว้างเพิ่มมากขึ้น ครั้งนี้ไปดูผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของภาคเอกชนไปทั่วประเทศ
ขณะที่ในตำบลบ้านค่ายหมื่นแผ้ว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นอีกจุดสำคัญในเชิงธุรกิจท่องเที่ยวที่มีถิ่นกำเนิดตำนานคนเลี้ยงช้าง ณ ที่มาของชื่อบ้านค่ายหมื่นแผ้ว ที่ในอดีตที่ผ่านมามีวิถีชีวิตคนกับช้างที่นี้เพื่อตั้งเป็นค่ายฝึกช้างไว้ส่งไปเสริมกองทัพไทยให้สู้รบศึกข้าศึกสงครามมาแต่โบราณ จนต่อมาเมื่อศึกสงครามสงบลง คนกับช้างที่นี่ก็เปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็นการตั้งเป็นคณะช้างออกตระเวนโชว์ความแสนรู้ไปทั่วประเทศและต่างประเทศ ที่อดีตเมื่อกว่า 15 ปี ที่ผ่านมามีคณะช้างแสนรู้ที่นี่รวมมากว่า 43 คณะแต่ละคณะก็จะมีช้างไม่น้อยกว่า 10 เชือก
และต่อมาห่างกันไม่นานเมื่อเพียงช่วงเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมา คณะช้างต่างๆ ก็เริ่มล่มสลาย คนกับช้างที่นี่อยู่กันไม่ได้เพราะการเลี้ยงช้างหลายสิบเชือกมีรายจ่ายที่สูง ต้องพากันยุบคณะช้างขายทิ้งไปจนปัจจุบันเหลือไม่กี่คณะและหันไปเลี้ยงจระเข้ไว้ฝึกแสดงโชว์ความแสนรู้แทนเพราะมีรายจ่ายที่น้อยกว่า จนถึงปัจจุบันจากภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด -19 ก็เริ่มถั่งโถมเข้ามาอีกซ้ำหนักอีกครั้งในวันนี้ จนคณะช้างแสนรู้ที่เหลืออยู่ในวันนี้ต้องเริ่มจำใจที่จะต้องขายช้างทิ้งอีกครั้ง จนจะเหลือเพียงตำนานหมู่บ้านคนเลี้ยงช้างที่นี่จะสูญหายไปในอีกไม่ช้านี้ก็เป็นได้
โดยล่าสุดนายทองล้วน พงษ์วิเศษ ประธานชมรมคนรักษ์ช้างบ้านค่ายหมื่นแผ้ว ตัวแทนคณะช้างกว่า 6 คณะ ที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบันที่นี่มีช้างรวมมากกว่า 20 ตัว (ซึ่งช้างบ้านจะไม่เรียกเป็นเชือกแต่จะเรียกเป็นตัว) ในตำบลบ้านค่ายหมื่นแผ้วได้ออกมาวิงวอนผ่านสื่อมวลชนถึงเรื่องราว วิกฤตของคณะช้าง ที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19 ในปัจจุบันจนจำใจต้องขายช้างทิ้งไป 1 เชือก
“เพื่อที่จะต่อชีวิตคนกับช้างที่เหลืออยู่ให้คงอยู่ได้ต่อไปก่อนให้ได้ในช่วงโควิด-19 ยังระบาดแต่ไม่มีที่ท่าจะจะหยุดลงเมื่อใด ว่า ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โควิด-19 นั้นทางคณะช้างทั้ง 6 คณะจะถูกจ้างให้ไปแสดงโชว์ความแสนรู้ของช้างน้อยใหญ่ ตั้งแต่ภาคเหนือจรดภาคใต้ เพื่อความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติแถวยุโรป ชาวจีนหรือชาวเอเชีย ชอบดูกัน”
แต่ในช่วงสถานการณ์โควิค-19 ระบาดครั้งแรกเมื่อต้นปี ก็ทำให้ต้องปิดปาง เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว ขาดรายได้ไปแต่นายจ้างก็ยังดูแลอยู่และหวังให้มันผ่านพ้นไปได้มาแล้วรอบแรก และทำถ้าว่าจะดีขึ้นเพราะช่วงปลายปี เดือนธันวาคม-มกราคม ของทุกปี จะนำช้างกลับภูมิลำเนาร่วมสักการะอนุสาวรีย์ในงานประจำปีเจ้าพ่อพญาแล เจ้าเมืองคนแรกของชัยภูมิ และงานช้างคืนถิ่น ก็พอจะมีรายได้เข้ามาจุนเจือซื้ออาหารให้น้องช้างและจ่ายค่าจ้างให้กลับควาญช้าง แต่สถานการณ์โควิดรอบสองก็กลับมาทำให้จังหวัดต้องยกเลิกและเลื่อนงานประจำปี งานประเพณีทุกอย่างของจังหวัดไปอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ทุกอย่างชะงักจากสถานการณ์ในคณะช้างที่มันแย่อยู่แล้วก็ยิ่งแย่ลงไปอีก
จนทำให้ตนเองคิดแล้วคิดอีกต้องจำใจขายน้องช้างไป 1 เชือกในราคา 1 ล้านกว่าบาทเพื่อที่จะนำเงินส่วนนี้มาเป็นทุนดูแลน้องช้างและควาญช้างให้ยังชีพ ต่อไปอีกครั้งก่อนต่อไปให้ได้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงและมีการแสดงเข้ามาได้อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่รู้ได้ว่าจะอีกเมื่อไหร่ โดยขณะนี้เงินทุนก็เริ่มหมดแล้ว แหล่งอาหารน้องช้างก็เริ่มหายากขึ้นทุกวัน จึงอยากขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยชี้แนะ หาทางให้คณะช้างบ้านค่ายหมื่นแผ้วได้ต่อชีวิตต่อไปในวิกฤตพิษโควิด-19 รอบใหม่ในครั้งนี้ด้วย
โดยปัจจุบันนี้ทางคณะช้างแสนรู้ บ้านค่ายหมื่นแผ้วได้ขออนุญาตทางเทศบาลบ้านค่าย ขอใช้สถานที่ทำการแสดงในวันเสาร์-วันอาทิตย์ ณ ลาน อนุสาวรีย์พ่อหมื่นแผ้ว หรือศูนย์ข้อมูลช้างบ้านค่าย จึงขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชน นำลูกหลานเข้ามาดูมาชมการแสดงช้างแสนรู้ และเพื่อเป็นกำลังใจให้น้องช้างและคณะได้มีแรงใจสู้ต่อลมหายใจให้กับการสืบสานวิถีชีวิตคนเลี้ยงช้างเมืองชัยภูมิให้คงอยู่ต่อไปให้ได้อีกครั้งด้วย
