ชัยภูมิ – ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงกลุ่มผู้ประกอบการส่วนน้อยของจังหวัดที่ทำไม่ดีมีไม่ถึง 1 % ขออย่าเหมารวม ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง ว่ามีประกอบการไม่ดีไปหมดทั้งจังหวัดอีกกว่า 99 % ยังพร้อมให้บริการและไม่ขอทำการการทุจริตเด็ดขาด พร้อมให้การตรวจสอบได้ หลังกระแสบุกจับทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกันส่งผลกระทบทำเศรษฐกิจการค้าขายในจังหวัด หลายโครงการฯ คนไม่กล้ามาใช้จ่ายกลัวมีความผิดไปด้วย ลดหายฮวบนับ 1,000 ล้าน!
ข่าวน่าสนใจ:
- สงขลา จัดใหญ่สุดในภาคใต้ Hatyai Coundown 2025 Happiness illumination ห้ามพลาด
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
- ชัยภูมิชาวโนนทองสืบสานประเพณีนอนลานตีข้าวเปิดลานศูนย์รวมสุดยอดสินค้าอาหารพื้นบ้านไทยส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 68 คึกคักกว่าทุกปี!
( 2 ก.พ.64 ) ผู้สื่อข่างรายงานว่า หลังเกิดกรณีที่กองปราบบุกจับพบมีการทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มี โรงแรมดังในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ 2 แห่ง ในเขต อ.แก้งคร้อ และ อ.หนองบัวแดง ที่ยังพบว่ามีเครือข่ายพบมีชาวบ้านหลงผิด และถูกหลอกเข้าร่วมโครงการทุจริตร่วมกระทำผิดในครั้งนี้อีกกว่า 9,000 คน จนล่าสุดทำให้ภาคองค์กรเอกชนผู้ประกอบการที่พักโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์จำหน่ายสินค้าของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดชัยภูมิ ในปัจจุบันที่ยังมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากกว่า 2,000 ราย/แห่ง ต้องได้รับผลกระทบในครั้งนี้เกิดวิกฤตศรัทธาหนักตามมาด้วยอีกจำนวนมาก
ซึ่งคนไม่กล้ามาใช้จ่ายเงินในโครงการทั้งเราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง ในรอบนี้ที่เหลือวงเงินขึ้นทะเบียนไว้อีกเป็นจำนวนมากกว่านับ 1,000 ล้านบาท และคนหันไปใช้จ่ายที่อื่นแทน และเป็นการทำให้ภาคเศรษฐกิจโดยรวมทั้งจังหวัดชัยภูมิในขณะนี้ ไม่มีเงินไหลเวียนเข้ามาในจังหวัดเท่าที่เคยมีผ่านมาช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และผู้ประกอบการส่วนใหญ่กำลังได้รับผลกระทบหนักในครั้งนี้อีกด้วย วันนี้ทางตัวแทนภาคองค์กรเอกชนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้กระทำผิดทั้งจังหวัดชัยภูมิ จึงอยากขอความเป็นธรรม ขอกู้วิกฤตศรัทธาให้กับชาวชัยภูมิกลับคืนมาโดยเร็วในครั้งนี้ด้วย
โดยเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 2 ก.พ.64 ที่ จ.ชัยภูมิ กลุ่มตัวแทนภาคองค์เอกชนจังหวัดชัยภูมิ นำโดยนายสิทธิพล สุทธิศักดิ์ภักดี ประธานหอการค้าจังหวัดชัยภูมิ ,นายชาญกิจ นานาประสงค์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชัยภูมิ,นายรัฐการ ด่านกุล ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดชัยภูมิ,นางโชษิตา จารุโชติรัตนสกุล,ตัวแทนผู้ประกอบการโรงแรมจังหวัดชัยภูมิ,นายวรวุฒิ วรแสง รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ,นายสมพร บุญเกิน ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารจังหวัดชัยภูมิ และนางสาวชลธิชา พร้อมพันธุ์ ตัวแทนผู้ประกอบการโรงแรมจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกันเปิดแถลงการณ์ องค์กรภาคเอกชนจังหวัดชัยภูมิ ณ โรงแรมสยาม ริเวอร์ รีสอร์ท อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
เป็นฉบับที่ 1/2564 จากเหตุการณ์ที่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่กองปราบปราม ได้นำกำลังบุกจับพบมีการทุจริตในโครงการเราเที่ยวด้วยกันของรัฐบาล ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ตามที่มีปรากฏเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศในขณะนี้นั้น ในฐานะภาคองค์กรภาคเอกชนจังหวัดชัยภูมิ ประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดชัยภูมิ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดชัยภู ชมรมธนาคารจังหวัดชัยภูมิ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ ชมรมโรงแรมจังหวัดชัยภูมิ และ ชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารจังหวัดชัยภูมิ รวมถึงตัวแทนพี่น้องชาวจังหวัดชัยภูมิ
ขอแถลงการณ์ด่วน เพื่อประกาศแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำผิดกฎหมายในครั้งนี้ด้วย และขอเรียกร้องให้ภาครัฐดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่กระทำความผิดให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งจะให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อตรวจสอบผู้ประกอบการที่อาจจะร่วมมือกระทำความผิดเช่นนี้อีก และทางองค์กรภาคเอกชนขอยืนยันว่าการทุจริตที่เกิดขึ้นเป็นผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายในจังหวัดชัยภูมิ แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามที่รัฐบาลได้ออกโครงการกระตุ้นศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นโครงการไทยชนะ โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งถือเป็นโครงการที่ดีและเป็นการช่วยเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างประโยชน์การจับจ่ายต่อสังคมโดยรวมอย่างแท้จริง
ซึ่งโครงการเราเที่ยวด้วยกันได้มุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในประเทศนับแสนล้นบาท ทางองค์กรภาคเอกชนจังหวัดชัยภูมิ ขอชื่นชมและสนับสนุนโครงการต่างๆ เหล่านี้ และพร้อมจะให้ความร่วมมือกวดขันดูแลกันเองระหว่างผู้ประกอบการเพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายในลักษณะนี้อีก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะนำโครงการเหล่านี้ และโครงการใหม่ๆ มาช่วยเหลือผู้ประกอบการและกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตด้วยดีต่อไป ประกาศแถลงการณ์ โดย องค์กรภาคเอกชนจังหวัดชัยภูมิ หอการค้าจังหวัดชัยภูมิ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดชัยภูมิ ชมรมธนาคารจังหวัดชัยภูมิ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ ชมรมโรงแรมจังหวัดชัยภูมิ และชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารจังหวัดชัยภูมิ ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564
โดยในครั้งนี้ทางตัวแทนภาคเอกชนจังหวัดชัยภูมิ โดยนายนายสิทธิพล สุทธิศักดิ์ภักดี ประธานหอการค้าจังหวัดชัยภูมิ กล่าวย้ำอีกว่า หลังมีการบุกจับโรงแรมบางแห่งทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อย ของผู้ประกอบการที่มีทั้งจังหวัด ส่วนที่ไม่ดีมีไม่ถึง 1 % ขออย่าเหมารวม ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง เพราะยังมีผู้ประกอบการที่ทำดีในอีกทั้งจังหวัดอีกกว่า 99 % ยังพร้อมให้บริการและไม่ขอทำการทุจริตเด็ดขาด พร้อมให้การตรวจสอบได้
หลังส่งผลกระทบหนักกรณีที่กองปราบบุกจับ โรงแรมดังในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ มีเพียง 2 แห่ง ในเขต อ.แก้งคร้อ และ อ.หนองบัวแดง ที่ยังพบว่ามีเครือข่ายพบมีชาวบ้านหลงผิด และถูกหลอกเข้าร่วมโครงการมีการทุจริตร่วมกระทำผิดในครั้งนี้อีกกว่า 9,000 คน นั้น
จนล่าสุดทำให้ภาคองค์กรเอกชนผู้ประกอบการที่พักโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์จำหน่ายสินค้าของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดชัยภูมิ ในปัจจุบันที่ยังมีผู้ประกอบการดีๆไม่มีการกระทำผิดอีกจำนวนมากกว่า 2,000 แห่ง แต่ก็ต้องมาได้รับผลกระทบในครั้งนี้วิกฤตหนักตามมาด้วย ซึ่งคนไม่กล้ามาใช้จ่ายเงินในโครงการฯในพื้นที่ ทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน-โครงการคนละครึ่ง ในรอบนี้ที่เหลือวงเงินอีกจำนวนมากกว่า 1,000 ล้านบาท และคนหันไปใช้จ่ายที่อื่นแทน เป็นการทำให้ภาคเศรษฐกิจโดยรวมทั้งจังหวัดในขณะนี้ ไม่มีเงินไหลเวียนในจังหวัดเท่าที่เคยมีผ่านมา ตั้งแต่เกิดพบการทุจริตครั้งนี้เพียงไม่กี่รายขึ้น และผู้ประกอบการโดยรวมอีกกว่า 99 % ต้องมาได้รับผลกระทบหนักในครั้งนี้ซ้ำเติมหนักตามมาด้วยโดยที่ไม่มีความผิดอะไรเลยด้วยอีก
ซึ่งวันนี้ทางตัวแทนภาคองค์กรเอกชนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้กระทำผิดทั้งจังหวัดชัยภูมิ จึงอยากขอความเป็นธรรมขอกู้วิกฤตศรัทธา ให้กับประชาชนชาวชัยภูมิและขอสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยในทั่วประเทศกลับคืนมา และเชื่อมั่นในการมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ที่จะช่วยกันตรวจสอบไม่ให้เกิดการทุจริตแบบนี้อย่างเต็มที่ในครั้งนี้ต่อไปด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: