ชัยภูมิ – ชาวบ้านอยู่ใกล้จุดที่ตั้งบ่อทิ้งขยะให้กับคนทั่วตำบล วอนขอความเห็นใจคนที่อยู่ใกล้พื้นที่ทิ้งขยะบ้าง ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ ด้านผู้ว่าฯทราบเรื่องแล้ว พร้อมส่งทีมลงพื้นที่ตรวจสอบให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นการด่วน ซึ่งการมีที่ทิ้งขยะในทุกพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากนี้ไปทุกแห่งต้องมีมาตรการปฏิบัติให้เข้มงวดมากขึ้นด้วย!
( 11ก.พ.64 ) ที่ จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้าน บ้านโนนสะอาด ม.3 ต.โนนสะอาด อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ได้รับผลกระทบจากปัญหาบ่อขยะ หรือที่ทิ้งขยะในชุมชน ที่ยังไม่มีแนวทางเข้ามาจัดการปัญหาที่ดีพอ จนเกิดปัญหาส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว บ้างครั้งก็มีคนมักง่ายแอบไปลอบเผา สร้างปัญหามลภาวะซ้ำเติมปัญหามลพิษทางอากาศค่า PM 2.5 จากบ่อขยะดังกล่าวมานานตั้งแต่มีการจัดหาที่ทิ้งดังกล่าวเกิดขึ้นในชุมชนซ้ำซากมานานหลายปี และอยากฝากวิงวอนไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งลงมาตรวจสอบและเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นเป็นรูปธรรมเสียทีในครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บริเวณบ่อขยะ ต.โนนสะอาด อ. คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ที่เกิดขึ้น และได้พบกับกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 20 ครอบครัว โดยมี นางลัดดาวัลย์ สีดาวฤกษ์ ชาวบ้านบ้านโนนสะอาด และเป็นตัวแทนชาวบ้านผู้เดือดร้อนครั้งนี้ เปิดเผยว่า ในครั้งนี้อยากการออกมาวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งลงมาแก้ปัญหาบ่อขยะที่มีผลกระทบต่อคนในชุมชนเป็นการด่วนด้วย และไม่อยากให้เกิดการแตกความสามัคคีของคนในชุมชนไปมากกว่านี้ด้วย ทั้งที่คนไม่มีที่ทิ้งก็เห็นดี แต่ก็ต้องเห็นใจคนที่มีที่อยู่อาศัยอยู่ใกล้บ่อขยะก็มีผลกระทบต้องเดือดร้อนตามมาด้วย
เพราะปัญหาบ่อขยะในจุดนี้ หากมีการเข้ามาจัดการที่ดีพอก็จะไม่เกิดปัญหากับทุกฝ่ายได้ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงมาหาแนวทางการแก้ปัญหาบ่อขยธในจุดนี้ อย่างยั่งยืนมากกว่านี้ด้วย ทั้งปัญหาคนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ต้องทนกับการส่งกลิ่นเหม็นที่เกิดขึ้น และบางครั้งยังมีการเผาทำลาย อย่างไม่ถูกวิธี ทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นและหมอกควัน สร้างมลพิษทางอากาศค่า PM 2.5 ลอยเข้ามาในหมู่บ้านและโรงเรียนในหมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากบ่อขยะไม่ไกลประมาณ 2-3 กิโลเมตร โดยที่ผ่านมาได้มีการลงประชามติจาก ตำบล โนนสะอาด ซึ่งมีด้วยกัน 9 หมู่บ้าน ในมติลงความเห็นว่าให้นำบ่อขยะ มาอยู่ที่บ้านในเขตตำบลฯ ในช่วงหมู่ 3 ซึ่งเป็นที่สาธารณประโยชน์ในเนื้อที่กว่า 50 ไร่ และมีข้อตกลงที่จะมีการฝังกลบ เป็นอย่างดีตามมาตรฐานที่มีการตั้งจุดเป็นที่ทิ้งขยะขึ้น และจะไม่ทำให้เกิดมลพิษหรือกลิ่นไปรบกวนชีวิตประจำวันของชาวบ้านและผู้อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง แต่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ครั้งนี้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ได้รับผลกระทบจึงอยากวิงวอนขอความเป็นธรรมบ้าง ฝากไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเร่งลงมาแก้ไขและดำเนินการอย่างจริงจังกว่าที่เป็นอยู่นี้ด้วย เพราะคนอยู่ใกล้ได้รับผลกระทบและสุดจะทนต่อไปได้อีกแล้ว ซึ่งบ่อขยะแห่งนี้ก็ตั้งขึ้นมานานตั้งแต่ปี 2545 จนมาวันนี้เกิดปัญหา คนไม่อยู่ใกล้ก็คงไม่รู้ว่าทั้งกลิ่นขยะเหม็นทั้งควันไฟเผา ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ สุดที่จะทนได้อีกต่อไปแล้ว
ซึ่งทางด้านนายสมชัย คาดสนิท รอง นายก.อบต.โนนสะอาด พร้อม จนท.ฝ่ายป้องกัน ขณะลงพื้นที่ก็ได้นำรถดับเพลิงมาช่วยฉีดน้ำดับไฟที่กองขยะกำลังถูกเผาเพื่อไม่ให้เกิดกลุ่มควัน ได้เปิดเผย เบื้องต้นว่า หลังได้รับแจ้งว่ามีคนแอบเผาป่าจึงน่าจะลามมาที่บ่อขยะแห่งนี้ จึงก่อให้เกิดกลุ่มควันกระจายออกไปรบกวนชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงไปทั่วในหมู่ 3 จนได้รับความเดือดร้อน ในครั้งนี้ขึ้น
และบ่อขยะแห่งนี้ ทาง อบต.โนนสะอาด ได้มีการทำประชามติโดยใช้ที่สาธารณะ ในเขตพื้นที่ตำบล โนนสะอาดในที่หมู่ 3 ท้ายหมู่บ้าน จำนวนกว่า 50 ไร่ เพื่อจัดทำให้เป็นพื้นที่ทิ้งขยะภายในตำบลให้กับประชาชนใน 9 หมู่บ้าน โดยมีการว่าจ้างบริษัทรับเหมาเพื่อดำเนินการเก็บขยะ ขณะนี้ใช้พื้นที่ทิ้งขยะไปไม่ถึงเศษ 1/4 เลย เนื่องจากขยะมีจำนวนยังไม่มาก ซึ่งจะต้องมีการไถกลบเป็นประจำในทุกปี ซึ่งจะมีการประเมินจากกองสาธารณสุขมาต่อเนื่อง ซึ่งในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นทาง อบต.โนนสะอาด เมื่อทราบปัญหาแล้วก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนโดยจะหาแนวทางการแก้ไขอย่างถาวรที่ดีกว่านี้ให้มากขึ้น ซึ่งการแก้ปัญหาในจุดนี้ จะได้เรียกให้ผู้รับเหมาโครงการรีบมาแก้ปัญหาเป็นการด่วนต่อไป
ขณะที่ทางด้านนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ หลังได้รับทราบ จึงสั่งให้นายนิติรุจน์ ดวงแก้ว ผอ.ท้องถิ่นจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน และขอให้ผู้นำท้องถิ่นสร้างความเข้าใจต่อคนในชุมชนที่ต้องเห็นใจกันทุกฝ่ายด้วย รวมทั้งสัญญาจ้าง หรือควบคุมบริษัทรับเหมา ในการเก็บขยะในครั้งนี้ให้เข้มงวดกว่าที่เป็นอยู่ให้มากขึ้นและต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของทางสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกโดยเร็วด้วย
