ชัยภูมิ – หัวขโมยแสบ บุกย่องเงียบอาศัยจังหวะช่วงฝนตกกลางดึก เดินหาห้องนอนของพระสามเณร ขณะนอนหลับไปทั่วภายในวัดดังกลางเมือง ซึ่งเข้ามาก่อเหตุเป็นครั้งที่สองได้โทรศัพท์มือถือพระเณรไปอีก 3 เครื่อง โน๊ตบุ๊คอีก 1 หลังก่อนหน้านี้ไม่นานครั้งแรกบุกมาขโมยได้โทรศัพท์มือถือของสามเณรไปกว่า 14 เครื่อง โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ และโน้ตบุ๊คของสามเณร ที่ถูกขโมยไป 2 ครั้งเกือบเกลี้ยงวัด รวมเป็นโทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่อง รวมมูลค่าทั้งหมดรวมมากกว่า 1 แสนบาท!
วันนี้ ( 4มี.ค.64 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนพุทธธรรมวิทยา ภายในวัดทรงศิลา พระอารามหลวง ใน อ.เมืองชัยภูมิ ได้มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพหัวขโมยเป็นชาย ได้เดินย่องเงียบเข้ามาภายในวัดดังกล่าวมาช่วงเวลาประมาณ 02.30 น.ที่ผ่านมา แล้วเดินหายไปเข้าไปภายในอาคารห้องพักหรือกุฏิของสามเณรที่กำลังนอนหลับอยู่ภายในหลายห้อง
ข่าวน่าสนใจ:
- ชัยภูมิ นทท.แห่สัมผัสทะเลหมอกน้ำค้างแข็งหลายพื้นที่แตะ 7 องศาคึกคัก!
- ชัยภูมิปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบช่วงคริสต์มาส-เทศกาลต้อนรับปีใหม่!
- ตำรวจจับ 6 ราย ปิดล้อมตรวจค้นและระดมกวาดล้างเป้าหมายยาเสพติดในห้วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
- เปิดแล้วสุดยอดจุดเคาท์ดาวน์ซับสะเลเตบนขุนเขาแห่งดอกไม้ใหญ่สุดในภาคอีสาน!
ก่อนที่รุ่งเช้าที่ผ่านมามา ทางสามเณรตื่นขึ้นมา ไม่พบโทรศัพท์ของตนที่ชาร์ตทิ้งไว้บริเวณปั๊กไฟภายในห้องนอนหายไป จึงไปแจ้งพระพี่เลี้ยง ว่าได้มายึดโทรศัพท์ของสามเณรไปหรือเปล่า และได้มีการตรวจสอบพบมีโทรศัพท์ของสามาเณรหายไป 3 เครื่อง โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง ในครั้งนี้
ซึ่งพระพี่เลี้ยงบอกไม่ได้ไปยึด แต่น่าจะมีคนเข้ามาขโมยไป จึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกจุดภายในวัด จนพบภาพชายหัวขโมยแสบรายนี้เพื่อเป็นหลักฐานนำไปแจ้งความต่อตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ ในช่วงสายที่ผ่านมาแล้ว
ซึ่งพระมหาทัศพงษ์ ชยเมธี พระอาจารย์ รร.พุทธธรรมวิทยา วัดทรงศิลา พระอารามหลวง ได้โชว์ใบบันทึกแจ้งความให้ผู้สื่อข่าวดู ก่อนนำพาเดินไปดูตามบริเวณห้องตามภาพวงจรวงจรปิดจับภาพไว้ภายในห้องนอนของสามเณร ที่ถูกหัวขโมยย่องเงียบเข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือและโน๊ตบุ๊คของสามเณรหายไปครั้งนี้รวม 3 เครื่อง และโน๊ตบุ๊คอีก 1 เครื่อง
ซึ่ง พระมหาทัศพงษ์ ชยเมธี เล่าว่า เหตุหัวขโมยได้ย่องเงียบเข้ามาขโมยโทรศัพท์ มือถือของสามเณร เองก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอนกลางดึกเช่นกัน ครั้งนั้นได้โทรศัพท์ของสามเณรที่ฝากไว้หายไป จำนวน 14 เครื่อง โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง โดยแอบเข้ามาในวัดแล้วเดินตะเวนไปตามห้องต่างทุกอาคารเรียน ครั้งแรกยังไม่ติดกล้องวงจรปิด จึงไม่มีหลักฐานจับภาพคนร้ายรายนี้ไม่ได้ ทางวัดจึงได้ติดกล้องวงจรปิดทั่ววัดไว้ในครั้งนี้ขึ้น
จึงสามารถจับภาพคนร้ายก่อเหตุได้ ในครั้งที่ 2 เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงที่คนร้ายจะใช้จังหวะที่เกิดฝนตกพร่ำๆมาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา สามเณรก็พากันนอนหลับหมด เชื่อว่าคนก่อเหตุเป็นรายเดียวกับคนก่อเหตุครั้งแรก และมีภาพเชื่อว่าเป็นส่วนเกี่ยวข้องที่มีโทรศัพท์มือถือเณรหายไปครั้งนี้ คนร้ายได้นำไปเปลี่ยนรูปหน้าเฟซบุ๊กในเครื่องโทรศัพท์ จึงมีภาพที่เด่งมาเข้าเครื่องโทรศัพท์ของพระอาจารย์ที่ไม่ได้หายไปด้วย ซึ่งน่าจะเป็นภาพของคนร้ายที่ขโมยโทรศัพท์ไปแล้วนำไปใช้แล้วมีการปรับเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ของตนเองเข้ามาแทนในเครื่องโทรศัพท์ที่ขโมยไป ในครั้งนี้ขึ้นมาให้เห็นภาพผู้ต้องสงสัยเป็นอีกหลักฐานในครั้งนี้ด้วย
ส่วนพระเชิดชัย วริรญาญาณเมณี บอกว่า คนร้ายก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนของสามเณร คนร้ายได้เข้ามาตะเวนตามอาคารต่างๆ แต่ไม่สามารถเปิดประตูได้เพราะถูกล็อกกุญแจไว้ทั้งหมดในครั้งที่สองที่เข้ามาก่อเหตุ พยายามเดินหาห้องที่ไม่ได้ล็อกและขึ้นไปยังอาคารเรียน บนชั้น 2 เปิดห้องนอนของสามเณร ที่ไม่ล็อกประตูห้องไว้เข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือไปได้ครั้งนี้เพียง 3 เครื่อง จากครั้งแรกมาขโมยไปได้จำนวนมากกว่า 10 เครื่อง โดยสามเณรไปรู้สึกตัว เพราะคิดว่าน่าจะเป็นพระอาจารย์เข้ามาตรวจห้องและมายึดโทรศัพท์ไปไว้ ไม่ให้เล่นเกินเวลา จึงทำให้ขโมยรายนี้เข้ามาขโมยโทรศัพท์ไปได้ง่ายที่เณรไม่ทันเอะใจ
ส่วนด้านพระใบฎีกา ธรรมศักดิ์ สิริปญโญ บอกว่าโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายได้ไปคงนำไปเปลี่ยนภาพเฟซบุ๊กใส่ภาพตัวเองเข้ามาแทนในโทรศัพท์ที่ขโมยไป และเชื่อว่าเป็นภาพของคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือ และโน้ตบุ๊คของสามเณรไปทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งหากค้นร้ายกลัวบาปบุญโทษ ก่อนที่จะถูกตามจับก็ควรรีบนำโทรศัพท์มือถือ และโน๊ตบุ๊ค ทั้งหมดมาคืนด้วย เพราะทั้งโทรศัพท์มือถือ และโน๊ตบุ๊ค สามเณรซื้อมาจากเงินที่ได้บิณฑบาตมา เพื่อใช้ในการเรียนการสอนการศึกษาทางไกลระบบไอทีมีไว้เป็นช่วยเสริมการเรียน
สำหรับ ทั้งโทรศัพท์มือถือ และโน๊ตบุ๊คของสามเณร ที่หายไปรวม 2 ครั้ง รวมโทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่อง รวมมูลค่าทั้งหมดน่าจะมากกว่า 1 แสนบาทขึ้นไป ภายหลังจากพนักงานตำรวจชุดสอบสวน สืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุและได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุเบื้องต้นแล้ว พร้อมจะได้แกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิด และภาพผู้ต้องสงสัยที่โผล่มาในมือถือของพระอาจารย์ที่เคยใช้เชื่อมส่งเฟซบุ๊กถึงสามเณรที่หายไป เพื่อเร่งติดตามจับกุมคนร้ายหัวขโมยแสบรายนี้มามาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: