ชัยภูมิ – จากกรณีในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มมีบ้านบ้านเรือนประชาชนหลายพื้นที่ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเองก็ได้เร่งตรวจสอบให้การช่วยเหลือทั้งจัดสรรอุปกรณ์มาช่วยซ่อมแซมบ้าน และมอบเป็นเงินช่วยเหลือตามระเบียบราชการให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ แต่มีชาวบ้านบางรายสุดงง!! ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียกไปรับเงินช่วยเหลือบ้านพังในครั้งนี้เพียง 100 บาท ก่อนโพสต์วอนช่วยตรวจสอบ ล่าสุดทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเผยน่าจะเกิดการผิดพลาดเรื่องข้อมูล พร้อมจะเร่งตรวจสอบแก้ไขให้โดยเร็ว!
( 14 มีนาคม 64 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่งได้โพสต์รูปภาพและข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 64 ที่ผ่านมา มีพายุฝนตกลมแรง ทำให้เกิดความเสียหายแก่ที่พักอาศัยของข้าพเจ้า ที่ บ้านโนนเสาเล้า ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ให้เงินค่าชดเชยความเสียหายแก่ตัวข้าพเจ้า เป็นจำนวนเงิน 100 บาท ตัวข้าพเจ้าอยากทราบว่า มีหลักการตรวจสอบมีเกณฑ์การชดเชยความเสียหายแบบไหนบ้าง ถึงได้เงินเพียง 100 บาท และอยากได้รับความเป็นธรรมแก่ตัวของข้าพเจ้าเอง หรือคำอธิบายที่มีเหตุผลและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนคนอื่นโดยรวมที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- พะเยา หนุ่มขโมยย่องฉกเงินร้านข้าวมันไก่ 3 ครั้งเจ้าของสุดทนแจ้งตรจับ
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
และได้โพสต์รูปภาพบ้านที่ได้รับความเสียหายอีกจำนวน 8 รูป ซึ่งในภาพก็เห็นได้ว่า บ้านของผู้โพสต์ ได้ถูกต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นลงมาทับบ้านจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีการเข้ามาแสดงความคิดเห็น และเป็นการวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมากอยู่ในขณะนี้ จนกระทั้งเริ่มมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายอื่นๆ ที่บ้านได้รับความเสียหายก็โพสต์ขึ้นมาเช่นกัน ว่าบ้านของเขาก็ได้แค่ 200 เช่นกัน บ้างรายก็เข้ามาบอกว่า “เถียงนาของหนูได้ 8,000 “ กลายเป็นประเด็นที่ชาวบ้านต่างคิดไปว่าเกิดความไม่ชัดเจนต่อมาตรการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในครั้งนี้ด้วยหรือไม่
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปที่ ตำบลโนนแดง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายในจุดบ้านที่ระบุมา และสอบถามชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายในแต่ละหมู่บ้าน ในตำบลแห่งนี้ รวมถึงบ้านที่ได้รับความเสียหายและได้รับเงินชดเชยบรรเทาทุกข์เยียวยาช่วยในครั้งนี้เพียงจำนวน 100 บาท อย่างที่บ้านโนนเสาเล้า ตำบลโนนแดง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ด้วยหรือไม่
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ติดริมถนนใหญ่ เห็นเด่นชัดว่าบ้านได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งหลังคากระจกหน้าต่างผนังของตัวบ้านได้พังทลายลงมา แต่ในเบื้องต้นทางผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์กับทางเจ้าของบ้านพบว่า บ้านหลังดังกล่าวเจ้าของบ้านได้ซื้อไว้และเปิดให้คนเข้ามาเช่าอยู่อาศัย แต่ในวันนี้ได้ย้ายของออกไปเรียบร้อยแล้วเนื่องจากตัวบ้านได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุครั้งนี้ ไม่สามารถเช่าอยู่อาศัยต่อได้
ส่วนทางเจ้าของบ้านแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ที่โพสต์ข้อความลงไป ต้องการแค่ความกระจ่างในการตรวจสอบในการทำหน้าที่ของหน่วยงานที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อบ้านประชาชนรายอื่นๆอีกจำนวนมากที่ก็ได้รับความเสียหายที่ชัดเจนกว่านี้ด้วยนี้ โดยเหตุการณ์นี้เมื่อช่วงวันที่ 12 มี.ค.64 ที่ผ่านมา หลังจากการที่ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ ได้นัดผู้ได้รับความเสียหาย ในพื้นที่ตำบลจำนวน 76 ราย เข้าไปรับ เงินค่าชดเชยบ้านถูกพายุฤดูร้อนพัดพังเสียหายดังกล่าว ที่บ้านผู้โพสต์ข้อความอยากให้ตรวจสอบในครั้งนี้ได้รับเงินช่วยเหลือบ้านพังครั้งนี้เพียง 100 บาท และถามกลับไปกับ จนท.ว่าเงิน 100 บาทนี้คือเงินค่าอะไร และได้ทักท้วง ถึงหลักเกณฑ์ในการ ตรวจสอบความเสียหาย แต่ก็ยังคงไม่ได้คำตอบ จึงเดินทางกลับบ้านมา และได้มาโพสต์ข้อความและรูปภาพผ่านทางเฟซบุ๊กอยากให้มีการเข้ามาตรวจสอบต่อกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย
จากนั้นได้มีชาวบ้านบางส่วนได้แนะนำให้ผู้สื่อข่าวได้เดินทาง ไปดูความเสียหายที่บ้านของนายสังข์ทอง หาญคง อายุ 53 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ที่ 3 บ้านโนนเสาเล้าตำบลโนนแดง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ที่ได้รับความเสียหายหนักอีกหลังหนึ่ง เพราะวันที่เกิดเหตุพายุถล่มบริเวณนี้ก็ทำให้บ้านของนายสังข์ทองฯ หลังคาสังกะสีรวมถึงโครงสร้างตัวบ้านที่เป็นเหล็กหลุดลอยไปทั้งยวง ทำให้ทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหายอีกรายที่หนักมากเหมือนกัน ซึ่งนายสังข์ทอง ได้นำเอาทรัพย์สิน เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านออกมาตากแดด โดยหวังว่าทรัพย์สินบางส่วนอาจจะกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม พร้อมเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเองก็เป็นอีก 1 รายที่เกิดความสงสัยในการเข้าให้การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของหน่วยงานเนื่องจากตนเองได้รับเงินชดเชยความเสียหายมาเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท ซึ่งในวันนี้ตนเอง ต้องควักเงินตัวเองที่มีอยู่ซ่อมบ้านไปแล้วกว่า 30,000 บาท
และจากการเข้าสอบถามไปที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลโนนแดง พบกับนายโกฎ โลมบุตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนแดง พร้อมด้วย พันจ่าเอกรวม ชั่งหนอง เจ้าพนักงานป้องกันฯ และพนักงานเจ้าหน้าที่ สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมถึงแนวทางการแก้ไขว่าจะดำเนินการเช่นไรต่อไป ทางนายกฯได้ชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีดังกล่าว คาดว่าน่าจะ เกิดความผิดพลาดในการตรวจสอบและการเบิกจ่าย ซึ่งรายชื่อที่ได้รับเงิน 100 บาทโดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางองค์การบริหารส่วนตำบลได้ เชิญประชาชน ที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหมดในพื้นที่จำนวน 76 ราย เข้ารับเงินชดเชยเพื่อบรรเทาทุกข์ที่ประสบภัยพิบัติดังกล่าวตามระเบียบราชการที่ทำได้ แต่กรณีนี้น่าจะเกิดความผิดพลาดเกิดขึ้น ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลเองก็จะได้ดำเนินการติดต่อกลับ เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวแล้ว
“เพื่อที่จะเข้าทำการสำรวจใหม่และชี้แจงข้อผิดพลาดให้รับทราบ และจะดำเนินการแก้ไขให้เสร็จโดยเร็วต่อไป ในส่วนที่มีการเผยแพร่ลงไปในโลกโซเชียล ในขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบล ได้รับการร้องเรียนเพียง 1 รายนี้เท่านั้น ในส่วนของรายอื่นหากพบว่าไม่เป็นไปตามขั้นตอนความเหมาะสมก็สามารถมาแจ้งให้ อบต.ทราบเพื่อที่จะได้มีการตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขให้โดยเร็วต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: