ชัยภูมิ – นับถอยหลังก่อนถึงวันเลือกตั้งนายกเล็กเมืองชัยภูมิในวันที่ 28 มี.ค.64 นี้ เหลือเพียงอีกไม่กี่วันเหลือเพียง 13 วัน จากนี้ไป บรรยากาศการออกหาเสียงของผู้สมัครแต่ละทีมต่างพากันลงพื้นที่พบปะประชาชนกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมขึ้นป้ายหาเสียงประชันนโยบายกันในทุกจุดที่เป็นทางผ่านเข้าออกในแต่ละชุมชนหนาแน่นกันอย่างคึกคัก ล่าสุดก่อนถึงโค้งสุดท้ายสถาบันพระปกเกล้าเตรียมเปิดเวทีสมานฉันท์ไม่ซื้อสิทธ์ขายเสียงให้กับผู้สมัครมาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ รับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนต่อนโยบายผู้สมัครในแต่ละพื้นที่ในช่วง 17-19 มี.ค.นี้!
( 15 มี.ค.64 ) ที่ จ.ชัยภูมิ บรรยากาศนับถอยหลังก่อนถึงวันเลือกตั้งนายก-สมาชิกสภาเทศบาลฯในทั่วประเทศ ที่จะถึงวันที่ 28 มี.ค.64 นี้ หลังมีการเปิดรับสมัครเลือกตั้งชิงนายกเทศบาลในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ในระหว่างวันที่ 8-12 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนี้มีเลือกตั้งพร้อมกันทั้งจังหวัดรวม 36 แห่ง หลังได้มีการปิดรับสมัครเสร็จสิ้นลงแล้ว
รวมมีผู้สมัครชิงนายกฯ รวม 83 คน(มีได้เพียง36คน/แห่ง) ส่วนสมาชิกสภาเทศบาลมีผู้สมัครทั้งหมดรวม 874 คน และโดยเฉพาะในเขตพื้นที่น่าจับตาในครั้งนี้มากสุดของชาวเมืองชัยภูมิ ก็คือในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ มีผู้สมัครชิงนายกฯรวม 3 คน จาก 3 ทีม ที่จัดทีมลงมาสู้ศึกกันในครั้งนี้คึกคักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในรอบกว่า 10 ปี
โดยมีผู้สมัครชิงนายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ ในครั้งนี้รวม 3 คน มีได้ 1 ตำแหน่ง สามารถมีสมาชิกสภาเทศบาลได้รวม 18 คน ใน 3 เขตเลือกตั้ง(มีได้เขตละ 6 คน )มีผู้สมัคร สมาชิกสภาเทศบาลเมืองชัยภูมิ หรือ สท.ครั้งนี้รวม 47 คน(มีได้เพียง 18 คน)
ผู้สมัครหมายเลข 1 คือ นายสานนท์ ด่านภักดี อายุ 60 ปี อดีตรองอธิการบดี ม.ราชภัฎชัยภูมิ และยังมีสายฐานการเมืองจากพรรคเพื่อไทยบางส่วนในพื้นที่ให้การสนับสนุน ลงสมัครในนามกลุ่มทีมสานนท์เปลี่ยนเทศบาลส่งลูกทีมลงเพียงครึ่งสภาฯเพียงทีมเดียวที่ส่งไม่ครบ รวม 9 คน ใน 3 เขตๆละ 3 คน ที่ขอเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้
ต่อมาด้วยหมายเลข 2 นายบรรยงค์ เกียรติก้องชูชัย อายุ 53 ปี อดีตนายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ แชมป์เก่าหลายสมัยมาตั้งแต่ปี 2547 มาจนถึงสมัยล่าสุดที่มีฐานการเมืองทั้งเครือญาติมีน้องชายเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ ส.อบจ.ในพื้นที่ ทายาทเศรษฐีหลายพันล้านเครือธุรกิจเจริญฟาร์มมาซีเก่าแก่ของเมืองชัยภูมิ ที่ครั้งนี้ส่งลูกทีมครบทุกเขต 18 คน เพื่อรักษาแชมป์ให้ได้อีกครั้งอย่างเต็มที่ และครั้งนี้มาในนามทีมชื่อทีม”กลุ่มลูกแม่น้อย”ซึ่งเป็นมารดาของตนเอง ที่ขอเข้ามาสู้ศึกเลือกตั้งสานงานต่อ
ตามมาด้วยหมายเลขสุดท้าย หมายเลข 3 นายธีวรา วิตนากร อายุ 56 ปี อดีตประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ชัยภูมิ และทายาทเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ติด 1 ใน 5 เสือสิ่งทอของประเทศไทย (บริษัท ไฮ-เทค ชัยภูมิ แอพพาเรล จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจโรงงานเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพื่อการส่งออก) หลักหมื่นล้านบาท ที่มีเครือข่ายตั้งฐานโรงงานทั้งในจังหวัดชัยภูมิ ในประเทศไทยและในเพื่อนบ้านใกล้เคียงอีกเป็นจำนวนมาก ที่ครั้งนี้ขออาสาเข้ามาตอบแทนคุณแผ่นดินคืนให้กับชาวเมืองชัยภูมิ ในสโลแกนเมืองชัยภูมิต้องเปลี่ยน
และล่าสุดทางสถาบันพระปกเกล้า โดยนายวิทวัส ชัยภาคภูมิ ปฏิบัติการแทนเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า แจ้งว่า ทางสถาบันเตรียมที่จะจัดกิจกรรมเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งท้องถิ่น ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ในครั้งนี้ เพื่อให้การตื่นตัวในการจัดการเลือกตั้งแบบสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง
ด้วยสถาบันพระปกเกล้า และสำนักส่งเสริมการเมืองภาคพลเมืองร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดชัยภูมิ มหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชัยภูมิ ได้จัดทำโครงการการเลือกตั้งท้องถิ่นสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงขึ้นในทั่วประเทศ และในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ ในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งจะมีการเปิดให้ประชาชนในพื้นที่ได้ออกมามีส่วนร่วม เกิดความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจ และความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองแบบตัวแทนกับการเมืองภาคพลเมือง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพ่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและกระบวนการตัดสินใจทางการเมืองที่มิใช่เพียงแค่ไปเลือกตั้ง เพื่อส่งเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในพื้นที่และชุมชน ได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียงให้มากขึ้นด้วย
โดยในส่วนของการจัดกิจกรรมเปิดเวทีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ แบบสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงในครั้งนี้ จะจัดขึ้น รวม 5 เวที ระหว่างวันที่ 17-19 มี.ค.64 นี้ ในช่วงวันที่ 17 มี.ค.64 เวลา 08.00 -12.30 น. ณ โรงแรมเลิศนิมิต วันที่ 18 มี.ค.64 เวลา 10.00-10.30 น. ณ วัดชัยภูมิวนาราม และเวลา 14.45 – 15.15 น. ณ วันปรางกู่ และวันที่ 19 มี.ค.64 เวลา 10.00 – 10.30 น. ณ วัดไพรีพินาศ เวลา 14.45-15.15 น. ณ ศาลาบวงสรวงเจ้าพ่อพญาแล เพื่อเป็นเวทีเปิดการมีส่วนร่วมจากประชาชนให้มากที่สุดก่อนที่จะถึงวันเข้าคูหาเลือกตั้งในวันที่ 28 มี.ค.64 นี้ จึงอยากฝากเรียนเชิญประชาชนในแต่ละพื้นที่สามารถเข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นตามวันเวลาดังกล่าวในครั้งนี้ด้วย
