ชัยภูมิ – จับตาแรงงานนับแสนคน ย้ายถิ่นหนีแคมป์คนงานระบาดกลับบ้าน-มาตรการรับเปิดเทอมนี้ยังต้องเข้มเสี่ยงสูง ผวจ.-สสจ. เร่งประกาศขอความร่วมมือแรงงานที่มาจากพื้นที่เสี่ยงแคมป์คนงานที่มีการแพร่ระบาดจำนวนมากอยู่ในขณะนี้จาก กทม. ขอให้ ปชช.หรือ กลุ่มแรงงานที่จะเข้าพื้นที่ต้องแจ้ง จนท.เกี่ยวข้องก่อน และให้กักตัวเข้มมาตราการการอย่างเข้มงวดมากขึ้น หลังพบว่ามีการเดินทางมาถึงบ้านรีบไปสัมผัสใกล้ชิดญาติติดยกครัวทำยอดติดโควิด-19 พุ่งรายใหม่ลามหนักอีกต่อเนื่อง รวมทั้งประกาศมาตรการป้องกันโควิดยังเสี่ยงระบาดสูงช่วงเปิดเทอมเข้ม ผู้ปกครองที่มาจากพื้นที่จังหวัดเสี่ยง ก่อนที่จะพาบุตรหลานมาเรียนหลังมีการเลื่อนเปิดเทอมในพื้นทีไปแล้วล่าสุดไม่เกิน 14 มิ.ย.นี้ ขอให้ผู้ปกครองทุกรายแจ้งประวัติมาจากพื้นที่เสี่ยงและพาบุตรหลานเข้าตรวจหาเชื้อคัดกรองพร้อมกักตัวดูอาการให้ครบ 14 วันก่อนมาโรงเรียน หวั่นเป็นพาหะกลายเป็นระเบิดเวลาคลัสเตอร์ใหม่เสี่ยงระบาดในช่วงเปิดเทอมนี้ซ้ำหนักอีกระลอกครั้งใหญ่ได้!!
( 21 พ.ค.64 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังคงน่าห่วง ล่าสุดวันนี้ นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ สสจ.ชัยภูมิ ได้รับรายงานยังพบมีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีกรวม 6 ราย แยกเป็น ที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ 1 ราย (กลับจากทำงานก่อสร้าง คลัสเตอร์แคมป์คนงานที่กำลังมีการระบาดหนักมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากอยู่ในขณะนี้กระจายไปทั่ว กทม.) ที่ อ.เมืองชัยภูมิ 4 ราย (เป็นผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยในชุมชนบ้านเมืองน้อยใต้ มาจากกลุ่มแรงงานกับบ้าน) และที่ อ.ภักดีชุมพล 1 ราย (จากคลัสเตอร์เดิมไปร่วมงานบวช) ซึ่งล่าสุดวันนี้ 21 พ.ค.64 จ.ชัยภูมิ มียอดผู้ป่วยโควิด-19 สะสมทั้งหมดเพิ่มขึ้นรวม 275 ราย เสียชีวิต 8 ราย
ซึ่งสถานการณ์ภาพรวมที่เดิม จ.ชัยภูมิ มีกลุ่มก้อนคลัสเตอร์ที่แพร่เชื้อในพื้นที่หลักรวม 23 กลุ่มก้อนใหญ่ ที่ยังมีพบป่วยสะสมมาต่อเนื่องก็ยังอยู่ในกลุ่มคลัสเตอร์งานบวช คลัสเตอร์ในชุมชนแออัดกุดแคน และโดยเฉพาะล่าสุดในขณะนี้ ที่ต้องเร่งติดตามต่อเนื่องใกล้ชิด คือคลัสเตอร์ใหม่ล่าสุดที่มาจากคลัสเตอร์แคมป์คนงาน ที่ส่วนใหญ่ชาวจังหวัดชัยภูมิ ที่มีประชากรทั้งหมดรวมมากกว่า 1.1 ล้านคน แต่ปัจจุบันมีคนอยู่ในพื้นที่จริงๆรวมกว่า 8 แสนคนเท่านั้น ซึ่งส่วนที่เหลือนี้ก็คือเป็นกลุ่มแรงงานที่ไปทำงานต่างถิ่นต่างจังหวัด และต่างประเทศ ซึ่งยังมีกลุ่มแรงงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดเสี่ยงอยู่ในขณะนี้ที่มีแนวโน้มจะกลับเข้าพื้นที่ตามาอีกจำนวนมากนับแสนคน
และเป็นที่น่าติดตามว่าคลัสเตอร์ใหม่ที่เป็นกลุ่มแรงงาน ย้ายหนีโควิด-19 ระบาดมาจากคลัสเตอร์แพร่เชื้อในแคมป์คนงานที่กระจายอยู่เป็นจำนวนมากในขณะนี้ที่ กทม. เริ่มมีการเดินทางกลับเข้าพื้นที่มาอยู่บ้านที่ จ.ชัยภูมิ และไม่มีการกักตัวตามมาตรการที่ดีพอ และเข้ามาก็รีบไปพบปะญาติพี่น้องจำนวนมาก ที่พบว่าล่าสุดเริ่มกลายเป็นพาหะนำเชื้อเป็นสะเก็ดไฟแตกลามเข้ามาในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เริ่มพบมียอดผู้ป่วยตามมามากขึ้นในขณะนี้ด้วย
ซึ่งในการพบผู้ติดเชื้อแต่ละครั้งก็มีการแพร่เชื้อไปสู่คนในในครอบครัวแบบติดยกครัวกันทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ลูก ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติๆใกล้ชิด เสี่ยงติดตามมาด้วยทั้งหมดในขณะนี้ด้วย ทั้งกรณีที่ ต.โคกสูง และที่ชุมชนเมืองน้อยใต้ และเสี่ยงในพื้นที่ อ.ภูเขียว และ อ.เกษตรสมบูรณ์ และอีกหลายพื้นที่เกือบทั่วทั้งจังหวัดที่ก็พบว่ามีแรงงานไปอยู่ในต่างจังหวัดและเตรียมจะกลับเข้ามาในพื้นที่ตามมาอีกจำนวนมากในขณะนี้ด้วย
ซึ่งจากนี้ไปในช่วงที่ จ.ชัยภูมิ ที่จะต้องมีการเข้มงวดในมาตรการหากมีการเปิดภาคเรียนในไม่เกินวันที่ 14 ม.ย.64 นี้ โรงเรียนในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ทั้งหมดก็ต้องเตรียมมาตรการป้องกันที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อไม่ให้เสี่ยงเกิดการระบาดครั้งใหญ่ในกลุ่มเด็กเยาวชนทั่วทั้งจังหวัดอย่างรวดเร็วได้ และทางจังหวัดชัยภูมิ เองนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ประกาศมาตรการ ในการป้องกันช่วงเปิดเทอมเพิ่มเติม ที่ในส่วนผู้ปกครองที่มาจากพื้นที่ต่างจังหวัดเสี่ยง ก่อนที่จะพาบุตรหลานมาเรียนในช่วงเปิดเทอม 14 มิ.ย.นี้ ขอให้ผู้ปกครองทุกรายต้องแจ้งประวัติมาจากพื้นที่เสี่ยงและพาบุตรหลานเข้าตรวจหาเชื้อคัดกรองพร้อมกักตัวดูอาการให้ครบ 14 วันก่อนมาโรงเรียน เพื่อไม่ให้ตนเอง และบุตรหลานกลายเป็นพาหะระเบิดเวลาคลัสเตอร์แพร่เชื้อโควิด-19 ครั้งใหม่ในช่วงเปิดเทอมนี้ซ้ำหนักตามมาอีกได้
