ชัยภูมิ – ด้านลูกศิษย์ปัดหลวงพ่อไม่ได้โกงเงินใคร แต่เป็นการทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อนำเงินมาช่วยสร้างสำนักสงฆ์เท่านั้น ขณะที่ จนท.ตร.พบประวัติเคยกระทำผิดอื้อพร้อมดำเนินคดีตามหลักฐานที่มีทั้งหมดแล้ว!
( 21 มิ.ย.64 ) วันนี้หลังเกิดกรณีมีชาวบ้านเป็นเจ้าทุกข์ได้เข้าแจ้งความมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.64 ทีผ่านมา ว่าถูกพระฉ้อโกงเงิน ไว้ที่ สภ.แก้งคร้อ ซึ่งทางด้าน พ.ต.อ.คำพล โนนุช ผกก.สภ.แก้งคร้อ หลังรับแจ้งเหตุได้สั่งชุดสืบสวนออกไปเชิญตัวพระสุนทร อายุ 40 ปี อยู่ที่สำนักสงฆ์ภูโค้ง ต.นาหนองทุ่ม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เพื่อไปทำการสึกก่อนนำตัวอดีตรูปนี้ ซึ่งเป็นชาวบ้านหมู่ที่ 2 ตำบลหนองบัว อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ มาสอบสวนดำเดนินคดี
ซึ่งมีพฤติการณ์ก่อเหตุในคดีฉ้อโกงในลักษณะแอบอ้างทำพิธี และอ้างว่าติดต่อขอซื้อไตเทียมจากโรงพยาบาลดังได้ ก่อนเชิดเงินหลบหนี ซึ่งเบื้องต้นมีผู้เสียหายร่วมกว่า 5 ราย เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แก้งคร้อ
โดยอดีตรูปนี้ถูกผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์แจ้งความ หลังจากที่มี 1 ในผู้เสียหาย ได้นำลูกชายไปให้อดีตพระรายนี้ดูดวงให้ พระได้ทักว่าลูกชายมีทุกข์หนัก ไม่ได้ย้ายที่ทำงานและอาจเสียชีวิตได้ วิธีแก้คือให้มาทำพิธีบูชาผ้าไตร และเครื่องสังฆทานเพื่อทำพิธี ซึ่งหลังพิธีที่ทำไปแล้วไม่ได้ผลต้องใช้สัตว์แทนคุณ (สัตว์แทนคุณคือใช้ชีวิตแลกชีวิต) อดีตพระรายนี้ยังได้โทรมาบอกอีกว่าต้องซื้อม้าเพราะลูกเกิดปีวอก และบอกว่าหาม้าให้แล้วในราคา 26,000 บาท
ก่อนที่จะนัดหมายว่าเมื่อได้ม้ามาแล้วาต้องทำพิธีต่างๆ แบบสลับซับซ้อนพอสมควร โดยครั้งแรกให้ผุ้เสียหาย โอนเงินไปมัดจำค่าราคาม้ากับเจ้าของเนจำนวนเงิน 15,000 บาท และในวันที่ 20 พ.ย.2563 ได้โอนไปอีก 11,000 บาท เมื่อโอนครบอดีตพระรายนี้ก็โทรมาบอกว่าม้ามาถึงแล้ว แต่ไม่ได้บอกให้ทำพิธีใดๆ จนผู้เสียหายมีความสงสัย จึงได้ถามว่าไม่ทำพิธีหรือ พระจึงนัดไปที่วัดและทำพิธีสวดคาถาเล็กๆ น้อยไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้
จนผู้เสียหายคิดว่าน่าจะหลอกลวงแล้ว จึงแอบไปที่วัดและพบว่าม้าไม่อยู่แล้ว และได้สอบถามผู้ใกล้ชิดอดีตพระทราบว่าม้าไปอยู่ที่ จ.ขอนแก่นแล้ว ก่อนได้พยายามติดต่อไปพบว่าเจ้าของบัญชีที่โอนเงินไปให้ ชื่อนางสาวปันธิกา เจ้าของบัญชี ด้วยกลัวความผิดจึงยอมเปิดเผยเป็นบางส่วนว่าตัวเองเป็นผู้ผ่านบัญชีให้พระรายนี้เท่านั้น โดยเฉพาะยังมีเงินแชร์ลูกโซ่เป็นจำนวนเงินหมุนเวียนอีกไม่น้อยกว่า 2,000,000 บาท อีกด้วย
ซึ่ง น.ส.เจ้าของบัญชี รายนี้ยังได้ถูกผู้เล่นแชร์ในจังหวัดต่างๆที่พระรายดังกล่าวใช้ความศรัทธาของบุคคลไปล่อลวงมาซึ่งยังไม่ได้เงิน แต่ยังไม่มีใครเข้าแจ้งความเนื่องจากกลัวเสียชื่อเสียงบ้าง กลัวครอบครัวหรือผู้ใกล้ชิดรู้บ้าง และพระรูปนี้เองก็มีวิธีพูดผัดผ่อนมาได้เรื่อย ๆ ตลอด
นอกจากนั้นอดีตพระรูปนี้ ยังเคยเปิดรักษาคนป่วยในพื้นที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยใช้สถานที่รักษาไม่แน่นอน จะย้ายไปรักษาตามหมู่บ้านต่างๆไปเรื่อยๆ โดยนัดหมายกับคนป่วย ซึ่งรักษาหายบ้างและไม่หายบ้าง จากการคิดค่ารักษาไม่แพง แต่ถ้าผู้ใดรักษาหายก็มักจะมีเงินรางวัลตอบแทนให้จำนวนมากมาตลอดจนได้ใจมาได้จนทุกวันนี้ โดยคนป่วยที่เข้ารักษาจากโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคเบาหวาน โรคไต มีอาการดีขึ้น จะบอกต่อกันไปจนมีชาวบ้านหลงเชื่อพากันไปรักษามาต่อเนื่องจำนวนมาก
และยังมีข้อหาเกี่ยวกับการอ้างตัวว่าตนเองรู้จักหมอหรือแพทย์โรงพยาบาลดังในจังหวัดขอนแก่น โดยจะให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ บางรายสูญเสียเงินกว่า 5 แสนบาท รวมถึงผู้เสียหายอีกราย ที่ต้องสูญเงินไปกว่า 12,000 บาท ให้กับพระรายดังกล่าวอีกซึ่งช่วงม่สบายมีแผลในปาก อดีตพระรูปนี้ ได้หลอกว่ารู้จักกับแพทย์ใน รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอแก่น จะพาไปรักษาโดยหลอกขอเงินค่าดำเนินการไปอีก 12,000 บาท แต่ไม่ได้พบแพทย์แต่อย่างใด จึงรู้ว่าถูกหลอกในครั้งนี้จนแน่ชัดอีก
นอกจากนั้น ยังมีข้อมูลอดีตพระรายนี้ ขณะที่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์ต่างยังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง ทั้งไม่ออกบิณฑบาต ไม่ทำวัตรเย็น ฉันท์อาหารหลังเพล อ้างว่าตนป่วยโกหกเรื่องอายุตัวว่าอายุ 51 ปี บวชมา 20 พรรษา เคยเป็นแพทย์ รพ.รามา จบ ป.โทจากรัสเซีย เชี่ยวชาญด้าน เส้นเอ็น กระดูก อ้างว่าเคยสมรสกับคนรัสเซีย แต่คู่สมรสเสียชีวิตเนื่องจากเครื่องบินตกลำเดียวกับเจมส์ เรืองศักดิ์ และมีบุตรชาย 1 คน รับอุปถัมภ์เด็กมาแล้วจำนวนมากสมัยเป็นแพทย์ และอ้างว่าตนเป็นเจ้าของโรงงาน มีโรงงานผ้าแต่ปิดกิจการแล้ว ยังเหลือโรงงานล้อแม็กรถยนต์ ให้ลูกเลี้ยงชื่อแดน และเฟิร์นดูแล เมื่อมีอะไรจะได้ใช้เงินอ้างว่าลูกชายชื่อแดนโอนเงินมาให้ใช้ได้ตลอด และยังอ้างไปอีกจำนวนมากว่าเคยจำพรรษาที่วัดผาซ่อนแก้ว เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสร้างวัด รับรักษาคนภายในบริเวณวัดทั้งโรคมะเร็ง โรคต่างๆ มีการใช้เข็มฉีดยา, ให้ยา น้ำเกลือภายในบริเวณวัดอีกเป็นจำนวนมากด้วย
ล่าสุดด้าน พ.ต.อ.คำพล โนนุช ผกก.สภ.แก้งคร้อ ยังมีตรวจพบมีประวัติก่อคดีข่มขืน ด.ญ.12 ปี และหลบหนีมาอีกในครั้งนี้ด้วย หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม และนำตัวมาสึกจากการเป็นพระเรียบร้อยแล้ว ในชั้นสอบสวนเบื้องต้น ได้แจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ ส่วนข้อหาอื่นไม่ว่าจะเป็นฉ้อโกงหรือข้อหาอื่น ที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกำลังรวบรวมหลักฐานการเสร็จอีกเพิ่มเติมก็จะแจ้งเพิ่มต่อไป ทั้งการเคยกระทำความผิดที่ยังพบว่าอดีตพระรายนี้ได้หนีหมายจับของ สภ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด ในคดีข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุ 12 ปี เมื่อปี 2560 ก่อนหลบหนีมามาบวช และมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ ในพื้นที่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ซึ่งล่าสุดได้แจ้งไปยัง สภ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด เพื่อรอมารับตัวไปดำเนินคดีเพิ่มในข้อหาข่มขืน ด.ญ.12 ปี เพิ่มตามมาอีกด้วยต่อไป สำหรับคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ฉ้อโกงเบื้องต้นมีความเสียหายมีผู้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เบื้องต้นในครั้งนี้รวมแล้วกว่า 5 แสนบาท
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบ พบพระสงฆ์จำนวน 2 รูป และลูกศิษย์วัดนุ่งขาวจำนวน 2 รายโดย ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับลูกศิษย์ รายหนึ่งอายุ 42 ปี และพระลูกวัดอีกรูปหนึ่ง ก่อนที่จะนำพาผู้สื่อข่าวเดินดูเวณรอบๆ และ เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า พระรูปดังกล่าวไม่ได้โกงเงินตามที่เป็นข่าว และยืนยันว่ามีการทำสัญญาเงินกู้ อย่างถูกต้องทุกราย และ ผู้เสียหายทั้งหมดเป็นคนเขียนสัญญาเงินกู้เอง ทั้งที่อาจารย์ เอาเงินมาเพื่อบูรณะซ่อมแซม สำนักสงฆ์แห่งนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรืองพร้อมทั้งยังสอนลูกศิษย์ลูกหาชาวบ้าน ในพื้นที่ให้ปฏิบัติธรรมด้วยดีมาตลอดที่มาอยู่ในสำนักสงฆ์แห่งนี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว
และแม้กระทั่งในส่วนเรื่องอดีตเก่า ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยได้ถาม หรือ อยากรู้เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัวของพระอาจารย์ท่าน ที่ตนเองเคารพนับถือ จากการสัมผัสหลังที่อาจารย์มาอยู่ที่นี่ก็เป็นคนดี มีน้ำใจมีความเมตตาอารี เป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องหนีหมายจับมาหรือไปข่มขืนเด็กก็ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็ยังศรัทธาเพราะถือว่าองคุลีมาลก็ยังเคยทำความผิด แล้วกลับใจมาเป็นคนดีก็ยังกลายมาเป็นพระอรหันต์ได้ก็เหมือนกันกับอดีตพระอาจารย์รูปดังกล่าวนี้ด้วย
ส่วนในเรื่องพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตาก็มีลูกศิษย์มาให้ทำบ้างแต่ก็ไม่ได้เคยเรียกร้องเอาเงินเอาทองตามที่เป็นข่าวมากมายขนาดนั้น ซึ่งส่วนตัวและคนในหมู่บ้านทั้งคนที่ได้สัมผัสก็เชื่อว่าอาจารย์ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์และขอความเป็นธรรมให้กับอาจารย์ในครั้งนี้ด้วย ลูกศิษย์สำนักสงฆ์ดังกล่าว กล่าวทิ้งท้าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: