X

ชัยภูมิประกาศใช้ยาแรงคลัสเตอร์เสี่ยงโควิดแรงงานกลับบ้านไม่รายงานกักตัวดำเนินคดีทุกราย!

ชัยภูมิ – หลังล่าสุดทางรัฐบาลประกาศปิดแคมป์คนงานคลัสเตอร์แพร่เชื้อโควิดทั้งในพื้นที่ กทม.และจังหวัดใกล้เคียงปริมณฑล เป็นเวลานานกว่า 1 เดือน ที่จะมีผลในวันจันทร์ที่ 28 มิ.ย.64 นี้ ทางกลุ่มแรงงานผึ้งแตกรังเริ่มเดินทางกลับเข้าพื้นที่บ้านเกิดที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งพบกลายเป็นคลัสเตอร์แพร่เชื้อใหม่เข้ามาในพื้นที่ไม่มีการรายงานตัวและกักตัวเองให้ครบ 14 วันก่อน และยังมีการออกมาใช้ชีวิตพบปะญาติคนในครอบครัว และคนในชุมชนหมู่บ้านแพร่เชื้อลามทั้งหมู่บ้านในหลายพื้นที่อยู่ในขณะนี้ ซึ่งเริ่มมีผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวันสูงเป็นจำนวนมากต่อเนื่อง ทำยอดผู้ป่วยสะสมในพื้นที่ล่าสุดใกล้ทะลุ 400 รายแล้ว และชาวบ้านเริ่มพากันผวาโควิดสายพันธุ์อินเดียหลังมีการสั่งล็อกดาวน์ปิดคลัสเตอร์ 3 หมู่บ้านห้วยแย้ ห้ามคนเข้าออกพื้นที่อย่างน้อย 14 วัน มีหญิงชาวห้วยแย้ วัย 49 ปี ที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงมีโรคประจำตัว เสี่ยงมีเชื้อสายพันธุ์อินเดีย ซึ่งมีอาการป่วยแล้วมีการเสียชีวิตเร็วมากขึ้น หลังพบติดโควิดเข้ารักษาตัวไม่กี่วันช่วง 23 มิ.ย.64 ที่ผ่านมาก็เสียชีวิตอย่างรวดเร็วเป็นรายที่ 10 ของจังหวัดชัยภูมิมาแล้ววานนี้!

( 26 มิ.ย.64 ) ขณะที่สถานการณ์พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ คลัสเตอร์ใหม่ในกลุ่มแรงงานมาจากพื้นที่เสี่ยงกลับบ้านในช่วงเปิดภาคเรียนมาตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.64 ที่ผ่านมายังลามหนักครั้งนี้อีกระลอกใหญ่อย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดวันนี้ นายวิเชียร  จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายแพทย์วชิระ  บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ ยังได้รับรายงานมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 8 ราย

อยู่ในพื้นที่ อ.ภูเขียว 1 ราย กลับมาจากแคมป์งานก่อสร้าง กทม. ที่ อ.หนองบัวระเหว 3 ราย เป็นคลัสเตอร์ใหม่ ในอีกหมู่บ้านหนองโจด ต.หนองบัวระเหว  มีญาติมาจาก กทม. วันที่ 17 มิ.ย. เพื่อทำธุระเรื่องที่ดิน แล้วมีการไปร่วมดื่มสังสรรค์ กับผู้ป่วยทั้ง 3 รายนี้ และ ผป.รายที่ 373 อีก 1 คน รวมคลัสเตอร์( Cluster) นี้มี ผู้ป่วยแล้วรวม 4  ราย

นอกจากกลุ่มคลัสเตอร์เสี่ยงสูงที่ยังต้องเฝ้าระวังเข้มอยู่ในพื้นที่อีก 3 หมู่บ้านที่ หมู่ 1,9,และหมู่ 13 ในตำบลใกล้เคียง ของต.ห้วยแย้ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ที่ทางจังหวัดชัยภูมิมีคำสั่งล็อกดาวน์สั่งปิดห้ามคนเข้าออกใน 3 หมู่บ้านดังกล่าวเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน ซึ่งยังมีหญิงชาวห้วยแย้ วัย 49 ปี ที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงมีโรคประจำตัว ที่ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มผวาว่าเสี่ยงมีสายพันธุ์อินเดีย ที่ล่าสุดเองพบว่าใน จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียแล้ว 3 ราย ซึ่งในส่วนหญิงวัย 49 ปี รายนี้ที่ป่วยโควิดเสียชีวิตเร็วมาก ชาวบ้านในพื้นที่เองต่างพากันเริ่มผวาว่ามีโอกาสเสี่ยงมีเชื้อในสายพันธุ์อินเดียได้ ซึ่งพบว่ามีอาการป่วยแล้วเสียชีวิตอย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าทุกรายที่ผ่านมาด้วย หลังพบติดเชื้อเข้ารักษาตัวไม่กี่วันช่วง 23 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ก็เสียชีวิตอย่างรวดเร็วเป็นรายที่ 10 ของจังหวัดชัยภูมิ มาแล้ววานนี้ ต่อมาด้วยที่ อ.จัตุรัส พบป่วยอีก 1 ราย มาจาก จ.ปทุมธานี ที่ อ.เมือง 1 ราย เป็นภรรยา รายที่ 365 (ตา หลาน บ้านโนนสมอ ที่มีลูกเขยมาเยี่ยมจากจังหวัดเสี่ยง) และที่  อ.บำเหน็จณรงค์ 2 ราย อยู่ระหว่างเร่งสอบสวนโรคสกัดการแพร่เชื้อเพิ่มอีกในพื้นที่เป็นการด่วนแล้ว

ซึ่งขณะนี้ทำให้ จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วยสะสมแล้วรวม 396 ราย เสียชีวิต 10 ราย ซึ่งล่าสุดเองด้าน นายวิเชียร  จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เตรียมมาตรการรับมือกลุ่มคลัสเตอร์กลุ่มแรงงานในแคมป์คนงาน หลังล่าสุดทางรัฐบาลประกาศปิดแคมป์คนงานคลัสเตอร์แพร่เชื้อโควิด-19 เป็นเวลา 1 เดือน ทั้งในพื้นที่ กทม.และจังหวัดใกล้เคียงปริมณฑล ที่จะมีผลในวันจันทร์ที่ 28 มิ.ย.64 นี้ ที่พบว่าในส่วนของ จ.ชัยภูมิ มีกลุ่มแรงงานในพื้นที่แคมป์คนงานต่างๆดังกล่าวเป็นจำนวนมากนับหลายหมื่นคน ที่ได้เริ่มเดินทางกลับเข้าพื้นที่บ้านเกิดที่จังหวัดชัยภูมิ แล้ว

และพบกลายเป็นคลัสเตอร์แพร่เชื้อใหม่เข้ามาในพื้นที่ไม่มีการรายงานตัวและกักตัวเองให้ครบ 14 วันก่อน และยังมีการออกมาใช้ชีวิตพบปะญาติคนในครอบครัว และคนในชุมชนหมู่บ้านแพร่เชื้อลามเสี่ยงติดทั้งหมู่บ้านในหลายพื้นที่อยู่ในขณะนี้ด้วย ซึ่งเริ่มมีผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวันสูงเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ทำยอดผู้ป่วยสะสมในพื้นที่ล่าสุดพุ่งใกล้ทะลุ 400 รายแล้ว

โดยล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้มีการแจ้งเป็นคำสั่งจังหวัดไปถึงทุกหน่วยงานในพื้นที่กว่า 1,600 หมู่บ้าน ใน 124 ตำบล 16 อำเภอ ของจังหวัดชัยภูมิ ว่า ในกลุ่มแรงงานกลับมาบ้านจากพื้นที่เสี่ยงให้ทุกอำเภอพื้นที่ ต้องเข้มงวดการรายงานตัวการกักตัว และการเฝ้าระวังมิให้กลุ่มเสี่ยงออกไปทำกิจกรรมรวมกลุ่ม พบปะสังสรรค์กับคนในพื้นที่จนกว่าจะกักตัวครบ  14 วันอย่างเข้มงวดด้วย ซึ่งหากพบรายใดไม่ปฏิบัติตาม ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายซึ่งมีโทษหนักได้ทันที ตาม พรบ.ควบคุมโรคติดต่ออย่างเด็ดขาดมากขึ้นทุกรายและขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ ให้ต้องเข้มงวดสูงสุดช่วงจากนี้เป็นต้นไปด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]