ชัยภูมิ – รับสารภาพแค่เห็นว่ากุญแจห้องขังน่าจะล็อกปิดไว้ไม่ดี หลังถูกจับคิดถึงแฟนสาวและพ่อแม่ที่บ้าน จึงตัดสินใจแหกห้องขังกลับบ้านในครั้งนี้ขึ้นเท่านั้น!
( 10 ก.ค.64 ) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังเกิดกรณีผู้ต้องหารายนี้ที่มีพฤติกรรมเชื่อว่าตัวเองมีวิชาจอมขมังเวทย์ ชื่อ นายอวิรุทธ์ วิชายา หรือรุธ ฉายาอาร์ม Smith อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีคดียาเสพติดรายสำคัญตามคดีค้างเก่าที่เคยหลบหนีการจับกุมเมื่อกลางปี 2563 ที่ผ่านมา ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวมาได้และนำตัวไปฝากขังเพื่อรอการสอบสวนที่ สภ.ภูเขียว มาเมื่อช่วงวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ก่อนถูกควบคุมตัวมาคุมขังไว้ที่ภายในห้องขังโรงพัก สภ.ภูเขียว เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหารายนี้ได้งัดเปิดห้องขังและหลบหนีปีนรั้วลวดหนามไปทางด้านหลังโรงพักออกไปได้ โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพขณะก่อเหตุแหกห้องขังหลบหนีครั้งนี้ไว้ได้ชัดเจน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเขียว จัดทีมระดมล่าติดตามจับกุมตัวมาต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา พร้อมด้วยทางด้าน พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ หลังได้รับรายงานจึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ ขุนหมื่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เป็นหัวหน้าทีมชุดปฏิบัติการนำชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ร่วม ชุด จนท.ตร.สภ.ภูเขียว เร่งช่วยกันตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดและสอบพยานผู้พบเห็นเพื่อติดตามล่าตัว จนพบว่าผู้ต้องหารายนี้ หลบหนีเข้าไปที่บ้านตัวเอง ก่อนที่จะทำการกดดันปิดล้อมพื้นที่บ้านผู้ต้องหา ที่หมู่บ้านธาตุทอง ในเขตพื้นที่ อ.ภูเขียว มาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาและได้มีการประสานให้ทางญาติช่วยเกลี้ยกล่อมให้นำตัวผู้ต้องหารายนี้มามอบตัว
จนล่าสุดช่วงเวลา 08.30 น.วันที่ 10 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ทางนายแหลมศร แสวงรัตน์ อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านธาตุทอง หมู่ที่ 1 ตำบลธาตุทอง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ได้นำตัวนายอวิรุทธ์ วิชายา อายุ 27 ปี ผู้ต้องหารายนี้ เดินทางมามอบตัวที่ สภ.ภูเขียว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยเบื้องต้นเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าเห็นกุญแจ ที่ล็อกห้องขังน่าจะ ปิดไม่สนิทดี จึงคิดว่าวิชาขมังเวทย์ที่ตนเองเคยเรียนและชอบเรื่องยันต์ต่างๆท่องทุกวันจะช่วยให้ตัวเองหนีรอดในครั้งนี้ได้ หลังถูกจับคุมขังและเกิดคิดถึงแฟนสาว และคิดถึงพ่อแม่ที่อยู่ทางบ้านก็เลยตัดสินใจก่อเหตุหลบหนีออกจากห้องขังในครั้งนี้ขึ้นเท่านั้น ซึ่งหลังจานี้การดำเนินคดีเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ผู้ต้องหารายนี้ทั้งในข้อหาแรกที่ถูกตามจับร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์)ไว้ในครอบครอง และข้อหาหลบหนีระหว่างถูกคุมขังเป็นข้อหาที่ 2 ก่อนควบคุมตัวส่งศาลฝากขังในเรือนจำเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: