ชัยภูมิ – ผู้ว่าฯ เผยชัยภูมิโมเดลโครงการรับผู้ป่วยโควิดกลับบ้านเดินหน้าด้วยดีต่อเนื่อง ยันจะไม่ให้ชาวชัยภูมิแม้แต่รายเดียว ถูกทอดทิ้งไร้ที่รักษาเด็ดขาด ถึงแม้ยอดรับผู้ป่วยกลับบ้านยังเพิ่มรายวันกว่า 170 ราย ป่วยสะสมแล้วกว่า 2,198 ราย ซึ่งถือเป็นมาตรการสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาการระบาดโควิดในพื้นที่ในวงจำกัดให้ลดลงโดยเร็วได้!
( 24 ก.ค.64 ) ขณะที่ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชัยภุมิ ล่าสุด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งยังมีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ในจังหวัดวันนี้จากกลุ่มที่พากันเดินทางกลับบ้านมาเองกลายเป็นคลัสเตอร์ไปร่วมงานศพ งานแต่ง งานบวชต่างๆ ที่ผ่านมาอยู่ในหลายพื้นที่ ในจนถึงวันนี้ยังเพิ่มขึ้น 4 ราย อยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ ที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ 1 ราย ,แก้งคร้อ 1 ราย ,เทพสถิต 1 ราย และ อ.บ้านแท่น 1 ราย ซึ่งถือว่าในส่วนผู้ป่วยในพื้นที่จังหวัดเริ่มสามารถควบคุมอยู่ในวงจำกัดและมีผู้ป่วยในกลุ่มนี้ลดลงได้ต่อเนื่อง
และในส่วนที่ยังมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มสูงมากขึ้นนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นที่ทางจังหวัดชัยภูมิ มีโครงการนำร่องออกมาเป็นโครงการชัยภูมิโมเดลพร้อมรับผู้ป่วยโควิด-19 จากนอกพื้นที่มาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ไม่มีเตียงภายในโรงพยาบาลต่างๆรองรับได้เพียงพอในขณะนี้ ตามโครงการชาวชัยภูมิทุกคนคือพี่น้อง เราไม่ทิ้งกัน ซึ่งจังหวัดชัยภูมิ จะไม่ยอมทิ้งให้ชาวชัยภูมิทุกคนแม้แต่รายเดียวถูกทอดทิ้งไม่มีที่รักษาเด็ดขาด ทางจังหวัดพร้อมพร้อมรับชาวชัยภูมิติดโควิด-19 กลับบ้านมารักษาตัวในพื้นที่ ผ่านสายด่วน Call Center 098-1352870 ,098-1352907 จ.ชัยภูมิ เพื่อให้ทางจังหวัดจัดรถเดินทางไปรับตัวกลับมารักษาตัวในโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ของ จ.ชัยภูมิ อยู่ในขณะนี้
ซึ่งก็ยังสามารถบูรณาการกันกับทีมบุคลากรทางการแพทย์ ฝ่ายปกครอง ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในทุกพื้นที่ทั้ง 16 อำเภอ 124 ตำบล กว่า 1,600 หมู่บ้าน ที่มีการจัดตั้งเตรียมโรงพยาบาลสนามไว้รองรับมาได้รวมแล้วกว่า 10 จุด/หลัก
ซึ่งในปัจจุบันสามารถยังรองรับผู้ป่วยในกลุ่มนี้ได้ทั้งหมดไม่น้อยกว่า 1,000 เตียงขึ้นไป เพื่อช่วยรองรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลหลักที่ก็สามารถรองรับผู้ป่วยอาการหนักหรือผู้ป่วยสีแดง ที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยรักษาได้เพียงพอให้ได้อีกไม่น้อยกว่า 1,000 เตียง ที่จะเป็นการทำงานประสานกันทั้ง รพ.หลัก และ รพ.สนาม ที่เมื่อ รพ.หลัก ช่วยรักษาอาการจนผู้ป่วยสีแดงที่ใช้เวลาต่อรายไม่เกิน 14 วัน เมื่อมีอาการดีขึ้นจากสีแดง ป่วยใกล้หายเป็นสีเขียวแล้ว ก็จะสามารถส่งต่อมาให้พักฟื้นดูอาการที่ รพ.สนามต่ออีกในช่วงไม่เกิน 2-3 วัน ก็จะสามารถให้กลับบ้านได้ ส่วนนี้ก็จะเป็นการทำให้เตียงใน รพ.หลัก ว่างและหมุนเวียนรับผู้ป่วยได้เพียงพอได้
และขณะนี้สถานการณ์การเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดมีผู้ติดเชื้อในจังหวัดถือว่าเริ่มลดน้อยลงได้ต่อเนื่อง แต่คนจะไปตกใจว่าทำไมยอดผู้ป่วยรายใหม่รายวันยังมีเพิ่มสูงขึ้นต่อไปเนื่องจำนวนมากไม่น้อยกว่าวันละ 100-200 ราย ซึ่งเรื่องนี้สำคัญคือการรับผู้ป่วยกลับบ้านและพาเข้าระบบรักษาตัวในพื้นที่ รพ.หลัก และ รพ.สนาม ที่ควบคุมได้โดยตรง ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้อนาคตการหยุดแพร่ระบาดโควิด-19 ไปต่อคนในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ก็ยิ่งจะช่วยแก้ปัญหาหยุดการแพร่เชื้อลงได้โดยเร็วได้ทันที ดีกว่าปล่อยกลับมาบ้านกักตัวกันเองบ้างไม่กักบ้าง ยิ่งจะเป็นการทำให้เกิดการแพร่ระบาดกลายเป็นคลัสเตอร์ไปในวงกว้างไม่จบสิ้นตามมาจำนวนมากที่ยังเป็นปัญหาในหลายๆจังหวัดในทั่วประเทศ และมีอยู่ในกลุ่มคลัสเดิมๆมาก่อนหน้านี้ในขณะนี้ของ จ.ชัยภูมิ ที่ยังหลงเหลืออยู่บ้างส่วนในขณะนี้ด้วย
ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิ เองก็จะมุ่งมาเน้นในการบูรณาการร่วมกันกับทุกฝ่ายทุกพื้นที่ เพื่อให้เกิดการจัดการบริการการเปิด รพ.สนาม ไว้รองรับผู้ป่วยที่มีอยู่ในจังหวัดชัยภูมิ ขณะนี้ไม่ให้เกิดปัญหาเตียงเต็มหรือมีไม่เตียงเพียงพอมาได้เป็นอย่างดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องสามารถบริการกลุ่มผู้ป่วย ที่สีแดง และสีเขียว ที่มีทั้งหมดให้เกิดการหมุนเวียนเข้าออก ผ่าน รพ.หลัก และ รพ.สนาม มาได้ต่อเนื่องจนปัจจุบันตั้งแต่มีการเปิดโครงการรับผู้ป่วยโควิดกลับบ้านมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ที่ล่าสุดมีการรับผู้ป่วยโควิด-19 กลับบ้านมาได้ต่อเนื่องหลักกว่า 1,000 คนแล้ว ซึ่งก็หมุนเวียนช่วยรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ให้หายต่อวันก็เฉลี่ยไม่น้อยวันละกว่า 20-40 รายได้
จนมาถึงวันนี้ จ.ชัยภูมิ จะยังมีผู้ป่วยรับกลับบ้านเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมากต่อเนื่อง ในกลุ่มโครงการรับผู้ป่วยไม่มีเตียงรักษามาจากต่างจังหวัดกลับบ้านเพิ่มขึ้นเข้าพื้นที่อีกรวม 166 ราย อยู่ใน อ.เกษตรสมบูรณ์ 46 ราย ,แก้งคร้อ 15 ราย ,คอนสวรรค์ 6 ราย ,คอนสาร 2 ราย ,จัตุรัส 12 ราย ,เทพสถิต 7 ราย ,เนินสง่า 1 ราย ,บ้านเขว้า 10 ราย ,บ้านแท่น 4 ราย ,ภูเขียว 13 ราย ,เมือง 16 ราย ,หนองบัวแดง 2 ราย และ อ.หนองบัวระเหว 14 ราย รวมวันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 170 ราย สะสมมีผู้ป่วยรวม 2,198 ราย เสียชีวิต 25 ราย
ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิ ยังต้องเข้มเฝ้าระวังติดตามกลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยอีกจำนวนมากในพื้นที่ต่อเนื่อง ทั้งต้องใช้มาตรการที่ต้องเข้มงวด และขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปอีกทางเช่นกัน ที่ขอให้งดออกบ้าน หรือเคหะสถานในช่วงตั้งแต่เวลา 23.00 น.- 05.00 น.ต่อไปอีกอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง รวมทั้งคนที่มาจากพื้นที่เสี่ยงจะต้องกักตัวตามมาตรการของจังหวัดอย่างน้อย 14 วัน
รวมทั้งมาตรการป้องกันเพื่อไม่มีการระบาดในกลุ่มเด็กเยาวชน ล่าสุดนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เองก็ได้ออกคำสั่งจังหวัดชัยภูมิ ที่ 5353/2564 เรื่อง ให้โรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภท ทั้งภาครัฐและเอกชน สถาบันกวดวิชา ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ งดการเรียน การสอน การสอบ การฝึกอบรม เป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ขยายเวลาสั่งปิดโรงเรียนสถานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวทุกแห่งในจังหวัดชัยภูมิต่อไปอีก 14 วัน ตั้งแต่ 24 ก.ค.- 6ส.ค.64 จนกว่าจะมีสถานการณ์ดีขึ้น หรือยังเสี่ยงก็จะต้องมีการพิจารณาตามเห็นสมควรของคณะกรรมการคาบคุมโรคติดต่อของ จ.ชัยภูมิ ร่วมกันให้ได้ต่อเนื่องต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: