ชัยภูมิ – ขอทุกฝ่ายที่อาจจะมีความสงสัยได้ ว่าหลังเกิดเหตุแม่เสียชีวิตคาบ้านมาหลายวันแต่น้องชายตัวเองที่อยู่ด้วยไม่รู้ คิดว่าแม่ไม่อยู่บ้าน ซึ่งล่าสุดขอยืนยันผลตรวจศพจากแพทย์ออกมาแล้วว่าผู้เป็นแม่เสียชีวิตจากมีโรคประจำตัวจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตคาห้องนอนเอง!
( 13 สิงหาคม 64 ) ความคืบหน้าหลังวานนี้(12 ส.ค.64) ร.ต.อ.ดนัย บุญทัน รอง สว. สอบสวน สภ.หนองบัวระเหว ได้รับแจ้งว่า มีบุคคล เสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 524 หมู่ที่ 9 ตำบลหนองบัวระเหว อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างคุณธรรมจุดอำเภอหนองบัวระเหว เข้าตรวจสอบ
ซึ่งในที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านลักษณะอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น โดยภายในบ้านบริเวณชั้นล่าง พบกับนายกิติคุณ อายุ 32 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ที่อาศัยอยู่กับผู้เป็นแม่(มารดาผู้เสียชีวิต) ภายในบ้านหลังนี้เพียง 2 คน โดยชั้นใช้ 2 ของบ้านเป็นห้องนอนของแม่ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดเข้าไปก็พบกับร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ นางกิติพร อาจจำนงค์ อายุ 60 ปี เป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 524 ม.9 ต. หนองบัวระเหว อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ (บ้านที่เกิดเหตุ) สภาพศพนอนหงายขึ้นอืดอยู่บนเตียงนอน และคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วหลายวันเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และมอบให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตนำส่งชันสูตร เพื่อสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ที่แน่ชัดอีกครั้ง เนื่องจากสภาพศพมีสภาพขึ้นอืดยังไม่สามารถตรวจหาสาเหตุการณ์เสียชีวิตได้
ซึ่งด้านนายกิติคุณ อายุ 32 ปี ผู้เป็นลูกชาย ให้การว่า ตนได้อาศัยอยู่กับแม่เพียง 2 คนเท่านั้นโดยมีพี่ชายอาศัยอยู่ที่ทำงานอยู่ภายในตัวจังหวัดชัยภูมิ ส่วนผู้เป็นพ่อได้แยกทางกับแม่ ไปอาศัยอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยปกติแล้วแม่มีอาชีพ รับจ้างทั่วไป ทุกวันคุณแม่ก็จะเดินขึ้นเดินลงบ้านออกจากห้องนอนเพื่อออกไปทำงาน และธุระนอกบ้านแล้วก็กลับมาปกติทุกวัน แต่เมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา สังเกตว่าแม่ไม่ได้ออกจากห้องนอน ตนเองทั้งโทรศัพท์หา ทั้งไปตะโกนเรียกทั้งเคาะห้อง ก็ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆ จึงคิดว่าแม่ไม่อยู่บ้าน และใช้ชีวิตปกติอยู่ชั้นล่างของบ้าน
จนกระทั่งวานนี้ (12 ส.ค.64) มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าอาจจะเกิดเหตุไม่ดีภายในบ้านดังกล่าว และเข้ามาหาที่บ้านขอเข้ามาตรวจสอบในบ้านและชั้นบนในห้องนอนของแม่ก่อนที่จะพบผู้เป็นแม่รายนี้กลายเป็นศพเสียชีวิตคาห้องนอนในบ้านจนสภาพศพเน่าอืดเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน ก่อนที่จะเชิญตัวผู้เป็นลูกชาย ไปสอบสวนหาสาเหตุ และลูกชายรายนี้เองก็ยังยืนยันว่าไม่ทราบว่าคุณแม่เสียชีวิตแล้วอยู่ในบ้านตอนไหน ยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่
ซึ่งเบื้อง ร.ต.อ.ดนัย บุญทัน รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองบัวระเหว จากการสอบถามตัวลูกชายยันยืนวันตัวเองไม่รู้เรื่องเลยว่าแม่ตัวเองนอนเสียชีวิตอยู่ในบ้านมานาน และร่างผู้เสียชีวิตมีสภาพที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด จึงต้องรอส่งศพไปตรวจ และผลชันสูตรพลิกศพ ซึ่งได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าทำการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยหลังจากได้ผลชันสูตรพลิกศพแล้ว จึงจะสามารถระบุได้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการเสียชีวิต จากสาเหตุใด ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาหรือ กล่าวโทษกับบุคคลใดในเบื้องต้นได้
ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ที่ผ่านมา ด้าน นายวัชระ พี่ชายของนายกิติคุณ วัย 32 ปี ที่เป็นน้องอยู่กับแม่ 2 คน ในบ้านเกิดเหตุยืนยันว่าไม่รู้ว่าแม่เสียชีวิตในบ้านตอนไหนอย่างไร จนอาจทำให้หลายคนคิดว่าน้องจะเป็นผู้ทำร้ายแม่ตัวเองเสียชีวิตในบ้านในครั้งนี้ได้ ออกมายืนยันเปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า หลังได้รับการประสานงานแพทย์ใน รพ.ให้ไปรับศพแม่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ที่ผ่านมา ( 12 ส.ค.64 ) เพื่อเร่งร่างนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลตามศาสนาไว้ที่วัดระเหวประชาสรรค์ ของหมู่บ้านเกิดเหตุแล้ว พร้อมเตรียมที่จะดำเนินการรีบเผาศพในเย็นวันนี้ (13 ส.ค.64) ทันทีให้รวดเร็วตามคำแนะนำแพทย์ที่สภาพศพเน่าสิ่งกลิ่นจนไม่เหลือสภาพให้เก็บไว้ได้นานอีกต่อไปแล้ว
ซึ่งพี่ชาย พร้อมญาติ เปิดเผยยืนยันว่าหลังมีการรับศพแม่ และมีผลชันสูตรการเสียชีวิตของแม่รายนี้ออกมาชัดเจนแล้วว่า ไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายและไม่เกี่ยวกับโควิด และการเสียชีวิตครั้งนี้เกิดจากอาการป่วยโรคประจำตัวจนเส้นเลือดในสมองแตก ตามผลใบชันสูตร ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าน้องและแม่อยู่ด้วยกันอาจจะทำให้คนมองว่าน้องเป็นคนไม่ดีเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแม่ครั้งนี้ได้ และอยากขอให้ยุติเรื่องนี้ ซึ่งญาติพี่น้องทุกคนไม่เชื่อว่าน้องตนเองจะฆ่าแม่ในครั้งนี้เด็ดขาด โดยหลังจากนี้จะปรึกษากับผู้เป็นพ่อที่อยู่ต่างจังหวัดในขณะนี้ อยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์ มารับน้องไปอยู่ด้วยต่อไป
และในส่วนของการจัดงานศพของผู้เป็นแม่ ที่ตั้งอยู่ที่วัดระเหวประชาสรรค์ ในหมู่บ้านในเย็นวันนี้( 13 ส.ค.64)ทางญาติก็จะได้มีการฌาปนกิจศพตามคำแนะนำของทางโรงพยาบาลเนื่องจากร่างของผู้เป็นแม่เสียชีวิตนานหลายวันมากแล้ว และขอไม่อยากให้มีการตอกนย้ำต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดเคลื่อนต่อไปอีกเลย และขอให้ยุติเรื่องและทุกคนในครอบครัวครั้งนี้ยืนยัน ว่าน้องชายที่อยู่กับแม่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายแม่อย่างแน่นอนในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: