ชัยภูมิ – ( รายงานพิเศษ ) เปิดปมลึกเร่งช่วยกันตระหนัก! หยุดการแพร่ระบาดโควิด-19 เมืองพญาแล จากนี้ไปจะไปทางไหน หลังยอดป่วย –ตาย ทำไมยังพุ่งไม่หยุด เกิดเหตุเศร้ารายวันป่วยคร่าชีวิตเพิ่มพุ่งสูงกว่าวันละไม่น้อยกว่า 2 ราย รวมเซ่นโควิดแล้ว 44 ศพ ป่วยสะสมยังทะลักใกล้ทะลุ 6,000 ราย !
(13 ส.ค.64) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังต้องเร่งติดตามการแพร่ระบาดที่ยังมียอดผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งยังต้องรอลุ้นผลตรวจในกลุ่มเสี่ยงตามมาอีกเป็นจำนวนมาก และยังวนเวียนอยู่ในอีกหลายคลัสเตอร์อยู่ในขณะนี้
ซึ่งล่าสุดทั้งทางนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ยังคงมีรายงานมียอดผู้ป่วย-เสียชีวิตภายในจังหวัดชัยภูมิ ยังพุ่งสูงขึ้นไม่หยุดต่อเนื่องโดยเฉพาะจุดต้นเหตุปัญหาที่มีการเกิดการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ในจังหวัด ที่มาจากคลัสเตอร์ต่างๆในขณะนี้นั้น พบว่าปมปัญหาลึกๆที่ยังวนเวียนเกิดคลัสเตอร์ใหม่ตามมากระจายอยู่ในพื้นที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงได้ง่ายๆเมื่อใดในขณะนี้ได้
ซึ่งเมื่อมีการติดตาม ลงไปดูที่ต้นเหตุปัญหาจากคลัสเตอร์ที่เหลืออยู่ในขณะนี้นั้น ไล่เรียงไปตั้งแต่ล่าสุด ณ ขณะนี้จุดคลัสเตอร์ในโซนเศรษฐกิจตัวเมืองชัยภูมิ จาก (คลัสเตอร์) Cluster อู่มารวย ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถขนาดใหญ่ ในจังหวัดชัยภูมิ มีช่างซ่อมรถในอู่ และมีผู้ใกล้ชิด เป็นกลุ่มเสี่ยงติดโควิด-19 ทั้งคนในครอบครัวเครือญาติเป็นทั้งภรรยา ลูก พ่อ แม่ ของช่างภายในอู่ จนถึงขณะนี้พบมีผู้ป่วยในจุดนี้แล้วรวมเพิ่มขึ้นรายวันและถึงวันนี้แล้วมากกว่า 40 ราย และยังต้องรอลุ้นผลตรวจหาเชื้อตามมากอีกจำนวนมาก ในกลุ่มที่ยังมีชาวบ้านกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่รอผลตรวจหาเชื้อเพิ่มเติมรวมอีกไม่น้อยกว่า 200 -400 คนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้นเหตุจุดเริ่มต้นของคลัสเตอร์นี้ก็ยังหนีไม่พ้นจุดเริ่มต้นที่มีคนในอู่มีญาติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง แต่ไม่มีการกักตัว แต่ออกมาพบปะสังสรรค์กันในอู่จนเป็นจุดเริ่มต้นของคลัสเตอร์การแพร่ระบาดไปสู่กลุ่มช่าง คนในครอบครัว กระจายต่อไปยังญาติที่ช่างในอู่แต่ละคนจะต้องกลับบ้านตัวเอง ไปแพร่เชื้อต่อสู่ญาติพี่น้องคนในชุมชนที่มีพื้นที่เสี่ยงตามมาอีกไม่น้อยกว่า 10 หมู่บ้าน ในรอยต่อ 5 ตำบล ของเขต อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งก็ยังไม่มีใครทราบได้ว่าในกลุ่มเสี่ยงญาติได้เดินทางไปเป็นพาหะกระจายเชื้อต่อไปในตามอำเภอต่างๆ อีกในหลายพื้นที่มากน้อยขนาดไหนอย่างไรเพิ่มเติมในขณะนี้ได้
ต่อมารวมทั้งคลัสเตอร์ช่างปูกระเบื้องใน ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ ที่ก็ยังหนีไม่พ้นเหตุซ้ำซากวนเวียน จากต้นเหตุมีญาติมาจากพื้นที่เสี่ยงไม่กักตัว ออกมาพบปะกันและเป็นพาหะแพร่เชื้อออกไปทำงานรับปูกระเบื้องตามพื้นที่ต่างๆที่ มีการเดินทางไปรับงานในหลายพื้นที่วงกว้างมากขึ้นไม่เฉพาะในเขต อ.เมืองชัยภูมิ แต่ยังกระจายไปถึง อ.จัตุรัส และอีกหลายอำเภอใกล้เคียง อยู่ในขณะนี้ด้วย ที่ขณะนี้ก็พบผู้ป่วยรวมแล้วเป็นจำนวนมากขึ้นรายวันอีกมากกว่า 30 ราย และยังต้องติดตามกลุ่มเสี่ยงรอผลตรวจเพิ่มเติมสูงอีกนับหลายร้อยราย
ต่อมาด้วยสถานการณ์พบคลัสเตอร์ใหม่อีกแห่งใน อ.แก้งคร้อ จากการไปร่วมงานศพที่ล่าสุดมีผู้ป่วยรวมแล้วกว่า 20 ราย มีคนร่วมในงานเสี่ยงกว่า 70-100 ราย และยังต้องรอผลตรวจกลุ่มเสี่ยงตามมาอีกจำนวนมาในรอยต่อ อ.แก้งคร้อ และ อ.ภูเขียว ที่มีตามมาเพิ่มอีกในขณะนี้อีกนับกว่าหลักอีกหลายร้อยราย รวมทั้งคลัสเตอร์ปิดล็อกดาวน์หมู่บ้านทุ่งโปร่ง หมู่ 3 ต.โคกเริงรมย์ อ.บำเหน็จณรงค์ มาตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วันแล้ว ก็ยังหนีไม่พ้นจากต้นเหตุมีญาติพี่น้องเดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงไม่กักตัว และยังกักตัวไม่ครบระหว่างรอผลตรวจตามมาในช่วง 14 วัน ก็ออกมาพบปะญาติเดินทางไปร่วมงานต่างๆกับคนในชุมชน จนมีการสะสมทำให้ จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วยโควิด-19 ในขณะนี้สูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องรายวันวันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น รวม 128 ราย แยกเป็นรับมาจากต่างจังหวัด 107 ราย พบป่วยแพร่เชื้อในจังหวัดเพิ่มขึ้นอีก 21 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสมรวมล่าสุดอยู่ที่ 5,916 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้นวันนี้ 2 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 44 ราย(ศพ)
ซึ่งอย่างไรก็ตาม จากนี้ไป มาตรการต่างๆในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ที่ยังเหลือเป็นคลัสเตอร์ที่ยังต้องเร่งติดตามรอวันปะทุว่าจะมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นตามมาอีกมากน้อยเท่าใดที่จะเพิ่มขึ้นจากนี้ไปได้ และจะยุติความชัดเจนของคลัสเตอร์ในแต่ละจุดต่างๆในปัจจุบันนี้ลงได้เมื่อใด ถ้าคนในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ยังไม่ให้ความสำคัญต่อกรณีเกิดคลัสเตอร์ต้นเหตุต่างๆที่ต้องคำนึงให้มากในการรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม ซึ่งเหตุที่ผ่านมาคนที่มีญาติมาจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งกรณีที่งานศพล่าสุดก็ยังวนเวียนซ้ำรอยซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนก็อาจจะเห็นใจว่าผู้เป็นน้องเดินทางกลับมาจากจังหวัดเสี่ยงกักตัวรอผลตรวจอยู่บ้าน แต่พี่ชายเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ทางญาติต้องจัดงานเผาศพให้ แต่น้องชายดันอยู่ในช่วงกักตัวรอผลตรวจยังไม่ครบ 14 วัน ออกมาร่วมงานศพครั้งนี้ ก่อนที่งานศพจะเสร็จสิ้นผ่านไปได้ แต่ผลตามมาคือแพทย์โทรมาแจ้งว่าน้องชายที่ไปร่วมงานศพรายนี้ติดโควิด แล้วก็สายที่จะแก้แล้วผ่านมาหลายวันคนที่เคยไปสัมผัสใกล้ชิดในงานศพครั้งนี้อีกนับ 100 ชีวิต ก็ส่งผลติดเชื้อโควิดตามมาอีกเป็นจำนวนมากจนสายเกินไปแล้วในกรณีศึกษาที่ผ่านมาของ จ.ชัยภูมิ
ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ากลุ่มก้อนคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ที่เหลือจะจบหรือหยุดการแพร่ระบาดลงโดยเร็วจากนี้ไปได้ง่ายๆเมื่อใด รวมทั้งหากชาว จ.ชัยภูมิ ยังไม่มีภูมิคุ้มกันรับการฉีดวัคซีน ที่เป็นมาตรการยั่งยืนสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ภายในจังหวัดให้ครบ 100 % ในช่วงเวลา 1-2 ปี จากนี้ไปได้ ก็ยากที่จะคาดเดาได้ว่าสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่จะจบลงได้เมื่อใดในขณะนี้ได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: