ชัยภูมิ – ยังปากแข็งปฏิเสธไม่ได้เกี่ยวข้องปัญหาค้ายาเสพติดและไม่มีปืนยิงในวันเกิดเหตุ จนท.นำตัวไปค้นหารถที่จอดทิ้งทั้ง 2 คันแล้ว เตรียมดำเนินคดีอีกหลายข้อหาหนัก!
เมื่อช่วงเวลา 16.00 น.วันที่ 12 ก.ย.64 คืบหน้าหลังเกิดกรณีมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพแก๊งค้ายาเหิมเย้ยกฎหมาย บุกลากตัวคนในบ้านเกิดเหตุ ออกมารุมทำร้ายร่างกาย ก่อนลากตัวขึ้นรถกระบะที่ยกพวกขับตามกันมารวม 2 คัน จอดอยู่ที่หน้าบ้านผู้บาดเจ็บ ก่อนมีการยิงปืนเสียงดังขึ้นมา 1 นัด และพบปลอกกระสุนตกในที่เกิดเหตุ ก่อนพากันยกพวกขับรถกระบะ 2 คันหลบหนี ปล่อยหนุ่มวัย 30 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกกลุ่มโจ๋ดังกล่าวรุมทำร้ายบาดเจ็บหวิดถูกยิงปางตาย
หลังมีการนำภาพมาเผยแพร่บนโลกโซเชียล จากกรณีที่มีผู้ใช้แอปติ๊กต๊อก ชื่อ @chutika2 โดยระบุภาพ-ข้อความว่า ข่าวไม่ดัง เห็นพี่เค้าบอกเรื่องยังไม่คืบ ที่นี่ แก้งคร้อ ชัยภูมิ จนมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งในภาพดังกล่าว มีกลุ่มวัยรุ่นชายฉกรรจ์ จำนวน 6 คนได้ขี่รถกระบะ จำนวน 2 คัน มาจอดหน้าบ้านเกิดเหตุและพากันยกพวกบุกเข้าบ้านพักดังกล่าว ไปบังคับลากตัวชายหนุ่มในบ้านรายนี้ออกมาทำร้ายร่างกายและยิงปืนใส่ รอดชีวิตมาได้หวุดหวิดในครั้งนี้ ซึ่งทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านพื้นที่ใกล้เคียงพากันขวัญผวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ามีการกระทำแบบอุกอาจไม่เกรงกลัวกฏหมายบ้านเมืองเลยไปทั่วในขณะนี้
โดยผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ นายวุฒินันท์ อายุ 38 ปี พี่ชายผู้เสียหายที่เกิดเหตุอยู่ในหมู่บ้านหนองแก หมู่ที่ 4 ตำบลหนองไผ่ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุซึ่ง แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาและ 2 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่ช่วงวันที่ 8 -9 ก.ย.64 ซึ่งในวันที่ 8 ที่ผ่านมา มีเด็กในหมู่บ้านข้างเคียงซึ่งเป็นรุ่นน้องของน้องชายตนเอง ได้ขับรถ จยย. มาจอดตรงจุดที่เกิดเหตุถนนหน้าบ้าน พร้อมกับมีรถกระบะสภาพแต่ง ติดสติ๊กเกอร์รถแต่ง มาจอดแล้วก็พูดคุยกัน อยู่ประมาณ 10 นาที ซึ่งน้องชายตนเอง ก็ได้เดินออกมาดู ว่าเป็นใครมีอะไรกันก่อนที่จะได้ยิน การสนทนาบางเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดที่เอาไป แล้วไม่ยอมจ่ายเงิน ตัวตนเองก็ไม่ทราบว่าเท่าไหร่ ก่อนที่กลุ่มชายขับกระบะจะขี่รถออกไป ต่อมาในวันที่ 9 ช่วงเวลา ประมาณ 20.23 น.ก็ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน ขับรถกระบะสีดำและสีขาว จำนวน 2 คัน ๆ ละ 3 คน บุกเข้ามาที่บ้าน จำนวน 2 รอบ ซึ่งรอบแรกไม่เจอน้องชาย เพราะน้องชายของตนนั้นกินข้าวอยู่บ้านข้างกัน จนมารอบที่ 2 โดยน้องชายเอง ก็ออกมาหน้าบ้าน ก็เห็นกลุ่มโจ๋ดังกล่าวขับรถมาจอด จึงถามซึ่งนึกว่าจะมาซื้อหอยที่บ้านของตน เพราะที่บ้านน้องชายของตนเพราะเลี้ยงหอยขาย น้องชายจึงออกมาถาม ก่อนที่จะถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าววิ่งเข้า รุมล็อกคอจากด้านหลัง ก่อนเข้ามารุมทุบตีทำร้ายร่างกาย ทั้งยังมีการใช้ปืนทุบเข้าที่หน้าและหัวหลายครั้ง ก่อนที่จะกระชากลากคอบังคับให้น้องชายขึ้นไปบนรถกระบะคันของผู้ก่อเหตุที่จอดรถรอหน้าบ้านจำนวน 2 คัน
ก่อนที่น้องชายของตนจะขัดขืนวิ่งหนีลงรถกระบะออกมาได้ กลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวจึงยิงปืนเข้าตามหลังมาในบ้านเสียงดังตามภาพวงจรปิดจับภาพไว้ได้เสียงดัง 1 นัด/ครั้ง ซึ่งปลอกกระสุนปืนยังตกอยู่ในที่เกิดเหตุอีกด้วย ตนเองจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะพาน้องชายไปหาหมอและเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ สภ.แก้งคร้อ ไว้เป็นฐานพร้อมภาพวงจรปิดที่จับภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ทั้งหมด
ซึ่งเบื้องต้นตนคิดว่าเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดที่อยู่อีกหมู่บ้านกัน และคิดว่ามีการไม่ยอมจ่ายค่ายากับกลุ่มดังกล่าว และเข้าใจผิดว่าน้องชายตนเองที่ถูกทำร้ายเกี่ยวข้องจึงมีการยกพวกบุกมาทำร้ายไล่ยิงในครั้งนี้ถึงในบ้านขึ้น
ล่าสุดทาง พ.ต.อ.คำพล โนนุช ผกก.สภ.แก้งคร้อ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามแฟ้มประวัติคดีเก่าจึงพบและทราบผู้ต้องหาหรือกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 6 คนที่ประกอบเหตุดังกล่าวทั้งหมดว่าเป็นใครมาจากไหนทั้งหมดแล้ว เพื่อขอออกหมายจับ ก่อนที่จะประสานทางญาติผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ให้รีบพาเข้ามอบตัวที่ สภ.แก้งคร้อ ซึ่งแต่ละคนกระจัดกระจายกันหนีออกไปในหลายพื้นที่ต่างจังหวัดแล้ว ก่อนที่ช่วงบ่ายวันนี้ทางญาติผู้ต้องหาทั้งหมดได้ติดต่อพาเข้ามอบตัวทั้งหมด 6 คนแล้ว ที่อายุเฉลี่ยตั้งแต่ 19-28 ปี ประกอบได้แก่ 1.นายฤทธิเกียรติ หรือ บรีส เจ้าของรถโตโยต้าสีเทา พบตัวที่จังหวัดสระบุรี 2.นายเรืองศักดิ์ หรือ รุ่ง เจ้าของรถอีซูซุสีดำ และมือยิงพบตัวที่จังหวัดชลบุรี
โดยทั้งคู่เคยมีประวัติคดีเกี่ยวกับยาเสพติดครอบครองเพื่อจำหน่าย 3.นายศตวรรษ หรือ เต้ พบตัวที่จังหวัดชัยภูมิ 4.นายสุรพงษ์ หรือ ยะ พบตัวที่จังหวัดชัยภูมิ 5.นายสินไชย หรือ เน็ก ที่ยังตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง พบตัวที่จังหวัดชัยภูมิ และ 6.นายชูศักดิ์ หรือ กัน พบไปมอบตัวที่จังหวัดขอนแก่น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวทุกคนมาสอบสวนที่สถานีตำรวจ สภ.แก้งคร้อ เพื่อดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คนยังปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องการการค้ายาเสพติด และไม่ได้มีอาวุธปืนมายิงในวันเกิดเหตุ ซึ่งจะได้สอบสวนขยายผลเกี่ยวกับปืนต่อไป เพื่อแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการพกพาปืนและยิงปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่เบื้องต้นพบว่าเป็นปืนไทยประดิษฐ์ .38 ในเบื้องต้นที่พบมีปลอกกระสุนตกอยู่ในวันที่เกิดเหตุอีกด้วย
ส่วนประเด็นความขัดแย้งที่บุกทำร้ายกันถึงบ้านในครั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ยังอ้างว่าเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทและปัญหาขัดแย้งส่วนตัวเป็นคู่อริกันมาก่อนเท่านั้น ไม่ใช่ปัญหาการขัดแย้งเรื่องยาเสพติดแต่อย่างไรก็ตาม ซึ่งเบื้องต้นทาง จนท.ตร.ได้แจ้งข้อหา 1.มีอาวุธและพกพาอาวุธปืนหน้าที่และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. กักขังหน่วงเหนี่ยว 3.ทำร้ายร่างกาย 4.บุกรุกในยามวิกาล ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และ 5. ข้อหาเสพยาเสพติดกับผู้ที่ตรวจพบปัสสาวะเป็นสีม่วงหรือสารเสพติดในครั้งนี้ด้วย
