ชัยภูมิ – “ระหว่างที่เจ้าของบ้านเช่ารายนี้ ทราบว่าบ้านเช่าของตนเองเกิดเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายจำนวนมากรวม 7 หลัง จึงรีบเข้ามาดูเพราะห่วงรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้านของตนเองอีกหลัง รีบจะเลื่อนเปิดประตูเหล็กเข้าไปในบ้านเพื่อจะให้จนท.ช่วยนำรถยนต์ออกจากบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ แต่เกิดไฟฟ้ารั่วช็อตกระเด็นล้มทั้งยืน ชักตาตั้งจนหมดสติ เจ้าหน้าเร่งช่วยกันยื้อชีวิตนำส่งรพ.สุดระทึก เบื้องต้นสูญนับกว่า 10 ล้านบาท!!!
เมื่อเวลา 15.40 น.วันที่ 17 พ.ย.61 ร.ต.อ.ศิริ จันดีศรี พนักงานสอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุด่วนว่าเกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนลุกลามอย่างรวดเร็วได้รับความเสียหายติดต่อกันจำนวนหลายหลัง ในชุมชนบ้านหนองบัว (เยื้องปรางค์กู่) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงเร่งประสานหน่วยรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองชัยภูมิ เร่งเข้าช่วยฉีดน้ำสกัดเพลิงกว่า 10 คัน พร้อมเร่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยนายสมเกียรติ ศรีษะเนตร รองผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ และพ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ใจสบาย รอง ผกก.สอบสวนสภ.เมืองชัยภูมิ
ซึ่งต้องใช้เวลาฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่สามารถสกัดเพลิงให้สงบลงได้ ระหว่างนั้น ได้มีเฮียอ้า หรือนายสุรศักดิ์ ตั้งสุริยานนท์ อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเช่าทั้งหมด 7 หลังติดต่อกันที่เกิดเพลิงไหม้ รีบเดินทางมาที่บ้านเช่าของตนเอง เลขที่ 156/3 เพื่อจะวิ่งเข้าไปเปิดประตูเลื่อนเหล็กหน้าบ้าน เพื่อหวังจะเรียกให้จนท.มาช่วยนำรถยนต์ที่จอดอยู่ภายในบ้านออกมา ไม่กี่นาทีเพียงพริบตาเดียว เขาก็ยืนตัวสั่นล้มกระเด็นออกมานอนหมดสติหน้าบ้าน ชักตาตั้งน้ำลายฟูมปาก เนื่องจากเกิดไฟฟ้ารั่วช็อตร่าง ก่อนที่จนท.จะพากันวิ่งหลบน้ำที่นองเต็มพื้นที่ เพื่อขึ้นที่แห้งกันอลหม่าน เนื่องจากมีกระแสไฟฟ้ารั่วตามออกมาตามน้ำนองไปทั่วบริเวณ
และแจ้งจนท.การไฟฟ้าให้ช่วยเร่งตัดไฟฟ้าทั้งหมดทั่วบริเวณลงได้ทัน และรีบทำการปฐมพยาบาลช่วยปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำตัวส่งรพ.ชัยภูมิ เพื่อช่วยยื้อชีวิตเจ้าของบ้านเช่ารายนี้รอดตายมาได้แบบปาฏิหาริย์อย่างหวุดหวิด
จากนั้นพากันรีบกลับมาเปิดน้ำรถดับเพลิงเร่งช่วยน้ำสกัดเพลิงต่อไปได้อีกนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไหม้ครั้งนี้ให้สงบลงได้
ร.ต.อ.ศิริ จันดีศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ หลังได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น ที่บ้านเช่าดังกล่าวมีทั้งหมดติดต่อกันรวม 7 หลัง ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นนับ 10 ล้านบาท ตั้งแต่บ้านเลขที่ 154,155,156 และ156/1,156/2,156/3 และสุดท้าย 156/4 ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์คือนางยุพิน บุญจิต อายุ 55 ปี คนเช่าบ้านเช่าเลขที่ 156/2 ให้การว่า หลังทราบว่าย่านบ้านเช่าตนเองเกิดไฟไหม้ ก็รีบกลับมาดู พบว่าบ้านต้นเพลิงอยู่ติดกันเลขที่ 156/1 ซึ่งผู้เช่าบ้านรายนี้ไม่ค่อยอยู่บ้าน และชอบเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า พัดลม และไฟหน้าบ้านทิ้งไว้หลายวันบ่อยครั้ง ก่อนจะเห็นไฟต้นเพลิงลุกลามลงมาอย่างรวดเร็วที่บริเวณชั้น 2 ของบ้านดังกล่าวลุกลามบ้านข้างเคียงทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดระบบระบบไฟฟ้าลัดวงจร เพราะภายในบ้านเช่าดังกล่าวทั้งหมด 7 หลัง มีสภาพอุปกรณ์สายไฟฟ้าที่เก่าและใช้งานมานาน ครั้งนี้โชคยังดีไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนเจ้าของบ้านที่ถูกไฟฟ้าช็อต ล่าสุดแพทย์แจ้งว่าสามารถช่วยชีวิตให้พ้นขีดอันตรายได้แล้ว แต่สาเหตุที่แท้จริงยังต้องรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้งหมด เพื่อสรุปสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: