ชัยภูมิ – เตือนจังหวัดท้ายน้ำเตรียมรับมือ ที่ จ.ชัยภูมิ ยังเหลือท่วมในพื้นที่เป็นวงกว้างทั่วทั้งจังหวัดอีกจำนวนมากกว่า 1,500 ล้าน ลบ.ม.ชาวบ้านในพื้นที่ยังจมบาดาลเกือบ 2 แสนไร่ เซ่นจมน้ำเสียชีวิตล่าสุดกว่า 10 ราย หลังตลอดช่วงที่ผ่านมากว่าสัปดาห์เกิดน้ำป่าล้นเขื่อนเก็บกักที่มีทั้งจังหวัดเกินความจุสูงกว่า 100 % ในทุกแห่ง มีมวลน้ำมหาศาลรวมกว่า 2,500 ล้าน ลบ.ม. มีแหล่งเก็บกักน้ำได้ทั้งหมดไม่เกิน 800 ล้าน ลบ.ม.ยังมีมวลน้ำที่ไม่มีทางไปอีกจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันทางจังหวัดเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำชีได้ล่าช้ามากเพียงวันละไม่เกิน 60 ล้าน ลบ.ม.ด้านผู้ว่าใหม่ชัยภูมิหลังเพิ่งเดินทางมารับตำแหน่ง ผวจ.ใหม่เป็นวันแรก สั่งเร่งเดินหน้า!!
( 1 ต.ค.64 ) เพื่อเร่งระบายน้ำเพิ่มกำลังให้ได้กว่าเท่าตัว หวั่นใกล้เข้าหน้าหนาวเจอภัยหนาวหนักซ้ำอีก พร้อมแจ้งเตือนจังหวัดใกล้เคียงท้ายน้ำต่อไปที่ จ.ขอนแก่น และอีกหลายจังหวัดใกล้เคียงยาวต่อไปถึง จ.อุบลราชธานี ที่จะมี 3 สายแม่น้ำสายหลัก จากลำโขง ชี มูล ไหลต่อไปรวมกันเป็นจุดสุดท้ายเตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำอีกมหาศาลจำนวนมากอีกล็อตใหญ่ในครั้งนี้ จาก จ.ชัยภูมิ ต่อไปด้วย
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่หนักสุดในรอบ 50 ปี ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ยังคงสร้างความเสียหายสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่มานานนับสัปดาห์ยังต่อเนื่อง ล่าสุดระดับน้ำท่วมในทุกพื้นที่เริ่มทรงตัวลดระดับลงเล็กน้อย ซึ่ง จ.ชัยภูมิ ยังมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างกว่า 200,000 ไร่ รวมทั้ง 16 อำเภอ ทั้งจังหวัด ใน 108 ตำบล 1,145 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ซึ่งเป็นศูนย์รวมหลักโซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองชัยภูมิ ก็ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายทั้งหมดแล้วทั้ง 25 ชุมชน มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกน้ำท่วม ในช่วงเพียงสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วรวม 10 ราย(ศพ)
ซึ่งล่าสุดสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มลดลงเล็กน้อยบริเวณหน้าทางเข้าโรงพยาบาลชัยภูมิ( รพ.ชัยภูมิ) ซึ่งวันนี้ลดลงประมาณ 10 ซม. จากระดับน้ำท่วมหน้า รพ.ชัยภูมิ ยังเฉลี่สูงกว่า 1- 1.5 เมตร รวมบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการในเขตกลางใจเมืองชัยภูมิเกือบทั้งหมด และบริเวณหน้าโรงพยาบาลชัยภูมิ รถเล็กทุกชนิดยังผ่านเข้าออกไม่ได้ รวมทั้งด้านถนนสายหลักที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกซึ่งน้ำชีได้ทะลักออกมาท่วมถนนสูงจนรถทุกชนิดยังไม่สามารถผ่านใช้เส้นทางในสาย 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว สายประตูสู่(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ภาคอีสาน)จากจังหวัดภาคกลางกรุงเทพฯ และ จาก จ.นครราชสีมาผ่านเข้าตัวเมืองชัยภูมิได้ในขณะนี้มาต่อเนื่องนับสัปดาห์ ล่าสุดก็ยังไม่สามารถใช้เส้นทางสาย 201 ยาวมาตั้งแต่จุดบ้านหมู่บ้านกุดละลม ต.หนองนาแซง ยาวถึงห้าแยกโดนไฮ ถึงหน้ารอบวงเวียนอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล กลางใจเมืองชัยภูมิ ยังไม่ผ่านได้ ส่วนในสายเอเชีย สาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ ทางสายหลักเชื่อมจาก จ.ชัยภูมิ และภาคอีสาน ไปสู่ภาคเหนือ ล่าสุดมีถนนช่วงคอสะพานถูกน้ำป่าพัดขาดใน 2 จุดได้ซ่อมเปิดใช้ชั่วคราวในจุดบ้านหมู่บ้านโนนเปลือยแล้ว 1 จุด ยังเหลืออีกจุดที่บ้านหลุบโพธ์ ของช่วง อ.บ้านเขว้า ที่ยังไม่สามารถเปิดใช้เส้นทางผ่านได้ ทางแขวงการทางหลวงจังหวัดชัยภูมิ ได้จัดกำลัง จนท.ไปประจำตลอด 24 ชม เพื่อแนะให้ประชาชนที่จะเดินทางผ่านสาย 225 ในจุดนี้ได้ใช้เส้นทางเลี่ยงออกไปเชื่อมเส้นทางอื่นไปก่อนแล้ว
ขณะที่วันนี้ ( 1 ต.ค.64 ) หลังได้มีคำสั่งกระทรวงมหาดไทยโยกย้ายเปลี่ยนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิคนใหม่ โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ได้เดินทางมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ คนใหม่ในวันนี้เป็นวันแรก พร้อมมีการเรียกประชุมหัวหน้าทุกส่วนราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ด่วนในช่วงเวลา 10.00 – 13.00 น.วันที่ 1 ต.ค.64 ทันทีโดยใช้ห้องประชุมที่สักนักงานเทศลาเมืองชัยภูมิ แทนเพราะขณะนี้เองศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ล้อมรอบอยู่ขณะนี้ทั้งหมด การเดินทางเข้าออกศาลากลางฯยังต้องใช้เรือเดินทางเข้าออกแทนรถไปก่อนในขณะนี้ด้วย
และสรุปล่าสุด จ.ชัยภูมิ ได้รับความเสียหายทั้งหมดในทั้ง 16 อำเภอ ซึ่งยังเกิดปัญหามีน้ำท่วมถนนสายหลักดังกล่าวใช้ผ่านไม่ได้ และมีพื้นที่ยังอยู่น้ำท่วมสูงหนักอยู่ในขณะนี้อีกกว่า 7 อำเภอ ที่อยู่ที่โซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองทั้งหมด ของเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ อ.เมืองชัยภูมิ และในตำบลใกล้เคียงที่ขณะนี้มีน้ำหลากจากตัวเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ เข้าไปท่วมต่อเนื่องในตำบลใกล้เคียงกว่า 3 ตำบล ในตำบลหนองไผ่,ตำบลกุดตุ้ม และตำบลลาดใหญ่ ขณะนี้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนถูกน้ำท่วมบ้านในขณะนี้สูงกว่า 1-2 เมตร ยังเดือดร้อนหนักอีกเกือบ 2,000 หลังคาเรือน/ครอบครัว และระดับน้ำชีได้หลากเข้าท่วมต่อหนักอีกใน อ.คอนสวรรค์ ในกว่า 25 หมู่บ้าน ถูกน้ำหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วอีกกว่า 950 หลังคาเรือน และยังทะลักออกไปเข้าท่วมในพื้นที่รอยต่อที่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น บางส่วนบ้างแล้ว
รวมทั้งในเขต อ.จัตุรัส ที่ยังต้องรับน้ำหลากจากบึงละหาน ที่มีน้ำป่าหลากเข้าบึงละหานเกินเนื้อที่กว่านับหลายหมื่นไร่ มีน้ำเกินความจุของบึงละหานสูงมากเป็นประวัติที่เคยเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดมา มีน้ำเกินความจุสูงกว่า 360 % อยู่ในขณะนี้ และในพื้นที่รอยต่อพื้นที่ต้องรับน้ำจากการระบายน้ำออกจากเขื่อนจุฬาภรณ์ ของ จ.ชัยภูมิ ในขณะนี้อย่างต่อเนื่องอีกด้าน ในพื้นที่ อ.คอนสาร,เกษตรสมบูรณ์,ภูเขียว และบ้านแท่น ที่น้ำจะหลากลงสู่น้ำน้ำพรม-เชิญ ออกสู่ จ.ขอนแก่นไปอีกทางเพิ่มเติมในขณะนี้ต่อไปด้วย
โดยล่าสุดทางด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ คนใหม่ล่าสุด ได้สั่งเร่งให้มีการแนวทางมาแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งหมดที่เหลืออยู่ภายใน จ.ชัยภูมิ ขณะนี้โดยเร็วหลังชาวบ้านในเกือบทั่วทั้งจังหวัดขณะนี้ต้องเดือดร้อนถูกน้ำท่วมมานานกว่าสัปดาห์แล้ว ซึ่งยังเกิดน้ำท่วมขังสูงในหลายพื้นที่ยังต่อเนื่อง และพบปัญหาว่าล่าสุดขณะนี้ที่ยังเหลือปริมาณท่วมในพื้นที่เป็นวงกว้างทั่วทั้งจังหวัดอีกจำนวนมากกว่า 1,500 ล้าน ลบ.ม.ชาวบ้านในพื้นที่ยังจมบาดาลเกือบ 2 แสนไร่
หลังตลอดช่วงที่ผ่านมากว่าสัปดาห์เกิดน้ำป่าล้นเขื่อนเก็บกักที่มีทั้งจังหวัดเกินความจุสูงกว่า 100 % ในทุกแห่ง มีมวลน้ำมหาศาลรวมจำนวนมากกว่า 2,500 ล้าน ลบ.ม. ซึ่ง จ.ชัยภูมิ มีแหล่งเก็บกักน้ำในทุกอำเภอได้ทั้งหมด ทั้งเขื่อนขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ที่มีทั้งหมดสามารถรองรับน้ำได้เต็มความจุเกิน 100 % ทั้งหมดแล้วรวมไม่เกิน 800 ล้าน ลบ.ม.
ซึ่งปัญหาในขณะนี้ จ.ชัยภูมิ ยังมีมวลน้ำที่ไม่มีทางไปอีกจำนวนมากที่ยังท่วมทุกพื้นที่อยู่ในขณะนี้อีกกว่า 1,500 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งปัจจุบันทางจังหวัดที่เกิดน้ำท่วมมานานกว่าสัปดาห์การเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำชี เป็นไปได้ยากและเกิดความล่าช้ามาก ซึ่งที่ผ่านมาระบายน้ำลงสู่ลำชีออกจาก จ.ชัยภูมิ ได้เพียงวันละไม่เกิน 60 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ชัยภูมิ ๕นใหม่จึงสั่งเร่งเดินหน้าระบายน้ำเพิ่มกำลังให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะนี้เป็นด่วน อย่างน้อยต้องระบายน้ำออกจาก วันละ 60 ล้าน ลบ.ม.ต้องได้กว่าเท่าตัว ซึ่งจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะชาวบ้านต้องเดือดร้อนมานานเกินกว่าสัปดาห์แล้ว และเกรงว่าในช่วงจากนี้ไปไม่กี่วัน ก็เริ่มมีสัญญาณมีลมหนาวมาเยือนในหลายพื้นที่ของจังหวัดชัยภูมิ ด้วยแล้ว ซึ่งใกล้จะเข้าหน้าหนาว หากน้ำท่วมก็ยังไม่ลดหน้าหนาวมาเจอภัยหนาวก็จะยิ่งหนักซ้ำอีกได้
พร้อมทั้งขอแจ้งเตือนไปยังจังหวัดใกล้เคียงท้ายน้ำต่อไปที่ จ.ขอนแก่น และอีกหลายจังหวัดใกล้เคียงยาวต่อไปถึง จ.อุบลราชธานี ที่จะมี 3 สายแม่น้ำสายหลัก จากลำโขง ชี มูล ไหลต่อไปรวมกันเป็นจุดท้ายขอให้เตรียมความพร้อมในการเตรียมรับมือมวลน้ำอีกมหาศาลจำนวนมากอีกล็อตใหญ่ในครั้งนี้ จาก จ.ชัยภูมิ ต่อไปด้วย
