ชัยภูมิ – หลายหมู่บ้านถูกตัดขาด เขื่อนจุฬาภรณ์มีระดับน้ำเกินความจุดแล้วกว่า 100 % เตือนชาวบ้านท้ายน้ำอยู่ใกล้พื้นที่ลำชี-น้ำล้นเขื่อนไหลผ่าน เตรียมรับมือในรอยต่ออีกหลายอำเภอ จ่อท่วมเร่งป้องโซนเศรษฐกิจย่านใจกลางเมืองชัยภูมิยังเสี่ยงซ้ำอีกรอบ 2 ขณะที่ฝนยังตกหนักน้ำป่าหลากยังขยายวงเพิ่มอีกต่อเนื่อง ชาวภูเขียวเผยไม่เคยเจอมาก่อนซ้ำหนักอีกในรอบกว่า 10 ปี ที่เกิดน้ำท่วมอยู่ดี ๆ มีน้ำป่าก็โผล่หลากเข้ามาท่วมพื้นที่ในคัวอำเภอบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างรวดเร็วแบบตั้งตัวแทบไม่ทัน ต้องพากันเร่งขนของหนีน้ำอลหม่าน อ่วมแล้วกว่า 1,000 ครอบครัว!
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง แม่ค้าร้านดังถูกหลอก อ้างเป็นเลขานายกฯสั่งข้าวกล่องช่วยน้ำท่วมสูญเงิน 3 พัน
- ชัยภูมิเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดใหญ่งานวันการศึกษาเอกชนภาคอีสาน!
- ตรัง ผู้ตรวจฯกระทรวงพาณิชย์ ลงตรังเยี่ยมแปลงปลูกพริกไทยตรัง-สุราชุมชน ผู้ผลิตต่อยอดสินค้า GI "พริกไทยตรังพันธุ์ปะเหลียน สู่มาตรฐาน EU organic…
- นครพนม น้องขวัญ นำทัพกลุ่มนครพนมร่วมใจ เปิดตัว ส.อบจ.นครพนม ทั้ง 30 เขต
( 16 ต.ค.64 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ สถานการณ์อิทธิพลของพายุโซนร้อนกำลังแรง “คมปาซุ” ที่ถึงแม้จะอ่อนกำลังลงจนสลายตัวไปแล้ว แต่ก็ยังมีการเกิดร่องมรสุมพาดผ่านยังทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างในทั่วประเทศไทย และที่ จ.ชัยภูมิ ในหลายพื้นที่มาต่อเนื่องติดต่อกันกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา และล่าสุดยังเกิดฝนตกหนักยังต่อเนื่องบนเทือกเขาภูเขียวในเขต อ.คอนสาร และอ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ
ซึ่งล่าสุดเมื่อตลอดช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากทะลักจากเทือกเขาภูเขียว-ภูหยวก หลากเข้าท่วมในโซนเศรษฐกิจกลางตัวอำเภอภูเขียว ได้รับความเสียหายถูกตัดขาดไปแล้ว 1 หมู่บ้าน ในหมู่บ้านหนองหว้าทอง ในพื้นที่ ต.กวางโจน เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา รวมทั้งใน ต.ภูเขียว น้ำป่าได้ไหลทะลักไหลแรงตามถนนในตัวอำเภอสูงกว่า 40 – 50 เซนติเมตร ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนตั้งอยู่ริมถนนในเขต ต.กวางโจน ต.ผักปัง และในเขตเทศบาล ต.ภูเขียว อ.ภูเขียว ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของหนีน้ำอลหม่าน ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ รถยนต์ ต้องเร่งเคลื่อนย้ายออกจากบ้านไปอยู่ในพื้นที่สูง มาตั้งแต่ตลอดช่วงกลางดึกยันเช้าที่ผ่านมา
ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งหน่วยกู้ภัยเร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่น้ำป่าไหลทะลักอย่างรวดเร็วเข้าท่วมชั้นล่างของตัวบ้าน ต่างคนต่างเร่งขนย้ายสิ่งของหนีน้ำท่วมบ้านแบบไม่มีใครแทบตั้งตัวได้ทัน รวมทั้งเส้นทางถนนสายต่าง ๆ ทางหลวงหมายเลข 201 (ชัยภูมิ-ภูเขียว-ชุมแพ) ด้านหลังธนาคาร ธกส.สาขาภูเขียว จ.ชัยภูมิ ขณะนี้รถทุกชนิดวิ่งผ่านไม่ได้แล้ว เนื่องจากน้ำท่วมไหลแรง
และยังคงเกิดฝนตกหนักเป็นช่วง ๆ ตลอดทั้งวันในขณะนี้ด้วย ซึ่งยังมีปริมาณน้ำป่ายังไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ต.กวางโจน ต.ผักปัง และในเขตเทศบาล ต.ภูเขียว เพิ่มขึ้นสูงและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านส่วนใหญ่ขนของหนีน้ำไม่ทันเนื่องจาก น้ำป่าไหลหลากมาเร็วมาก ซึ่งประชาชนใกล้ 4 แยก ศาลเจ้าแม่ทับทิมภูเขียว หรือ แยก ธกส.สาขาภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ต่างพากันบอกว่า ถูกมวลน้ำไหลผ่าน ไหลเข้าท่วมบ้านในช่วงเช้าวันนี้ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดน้ำป่าไหลทะลักผ่านเข้ามายังเส้นทางหน้าบ้านตนเองจนตั้งตัวไม่ทันอย่างไม่เคยเจอมาก่อนในรอบกว่า 10 ปี ที่เคยเกิดนย้ำท่วมหนักมากเช่นกัน ขณะที่ตนเอง และแม่ได้เร่งขนย้ายสิ่งของอย่างจ้าระหวั่น และขอความร่วมมือให้คนที่ใช้รถขับผ่านเส้นทางที่จะเข้าตัวอำเภอภูเขียว ที่เริ่มมีระดับน้ำท่วมสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยากขอให้ขับช้า ๆ เนื่องจากน้ำได้ไหลเข้าท่วมตีตัวบ้านคนใกล้เคียงได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากด้วย
ขณะที่ด้านความเสียหายน้ำป่ายังไหลทะลักเข้าพื้นที่ชั้นล่างอาคารเรียน โรงเรียนกวางโจนศึกษา ต.กวางโจน อ.ภูเขียว ได้รับความเสียหายไปแล้วในครั้งนี้อีก 1 แห่งด้วย ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากท่วมหนักหนักเข้าพื้นที่จากการถูกพายุคมปาซุถล่มเกิดฝนตกหนักสะสมมานานแล้วกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ที่ถือว่าก็ถูกน้ำกลับมาท่วมซ้ำอีกเป็นรอบที่ 2 ครั้งนี้ หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่หนักสุดในรอบกว่า 50 ปี จากพายุเตี้ยนหมู่ เข้ามาในพื้นที่ของ จ.ชัยภูมิ ที่ผ่านมาช่วงตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.64 ที่ผ่านมา ที่ครั้งแรกชาวอำเภอภูเขียวถูกท่วมไม่หนักเหมือนอีกหลายอำเภออื่น ๆ และน้ำท่วมเพิ่งลดลง และครั้งพายุคมปาซุลูกที่2ตามเข้ามาครั้งนี้ ทำให้น้ำหลากท่วมในพื้นที่ อ.ภูเขียว ในครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดในรอบ 10 ปี หลังจากที่มีฝนตกหนัก ทำให้น้ำมาป่าหลากมาหลากหลายทิศทางอย่างรวดเร็วขนาดนี้อย่างไม่เคยเจอหนักขนาดนี้มาก่อนเช่นกัน
ซึ่งเบื้องต้นมีชาวบ้านในพื้นที่ อ.ภูเขียว กว่า 1,000 ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านในครั้งนี้แล้ว รวมทั้งต้องปิดเส้นทางปิดการจราจรห้ามรถทุกชนิดเข้าไปยังถนนกลางตัวอำเภอภูเขียวเป็นการชั่วคราวจนกว่าน้ำท่วมถนนจะลดลงแล้วขณะนี้
ทางหน่วยงานทางอำเภอต้องเร่งระดมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพื้นที่ใกล้เคียงเข้าช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งถนนเข้าออกผ่านตัวอำเภอภูเขียวในขณะนี้หลายสายรถเล็กทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งจะได้มีการเร่งนำป้ายไปติดตั้งเตือนประชาชนที่จะใช้เส้นทางผ่านในตัวอำเภอภูเขียว ให้หันไปใช้เส้นทางอ้อมสายอื่นแทนไปก่อนในขณะนี้แล้ว จนกว่าระดับน้ำจะลดลงได้ ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกระยะเพราะยังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ยังคงมีน้ำป่าหลากเข้าท่วมพื้นที่เพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่องและยังไม่มีทีท่าจะจะลดลงง่ายๆในช่วงอย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกกว่า 2-3 วันขึ้นไป
รวมทั้งมีรายงานด่วนล่าสุด ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนจุฬาภรณ์ ที่ขณะนี้เองก็มีระดับน้ำป่าหลากไหลเข้าเขื่อนจนมีปริมาณเพิ่มขึ้นเต็มความจุ ที่มีกว่า 164 ล้าน ลบ.ม.ที่ขณะนี้เกินความจุดทั้งหมดแล้วกว่า 100% และต้องมีการยกประตูระบายน้ำของเขื่อนให้ระบายน้ำออกไปเขื่อนห้วยกุ่ม ระบายต่อไปยังลำน้ำพรม-เชิญ ที่จะหลากเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอใกล้เคียงในเขต อ.เกษตรสมบูรณ์,อ.บ้านแท่น และ อ.แก้งคร้อ และ อ.คอนสวรรค์บางส่วน และผ่านไปที่ จ.ขอนแก่น ต่อไป ซึ่งประชาชนที่อยู่พื้นที่ท้ายน้ำต้องเตรียมความพร้อมรับมือเสี่ยงเกิดน้ำป่าหลากน้ำท่วมฉับพลันได้ต่ออีกจากนี้ต่อไปด้วย
รวมทั้งในส่วนการติดตามสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำป่าหลากน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่อื่นๆในภาพรวมทั้งจังหวัดชัยภูมิ เองขณะนี้ในรอยต่อของพื้นที่ที่อยู่ใกล้ริมน้ำชีไหลผ่านที่เขต อ.หนองบัวระเหว,อ.บ้านเขว้า, อ.จัตุรัส,และเนินสง่า รวมทั้งในพื้นที่มีน้ำล้นเขื่อนไหลผ่านไม่ว่าจะเป็นเขื่อนลำคันฉู อ.บำเหน็จณรงค์ และโดยเฉพาะในโซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ที่มีระดับน้ำล้นเขื่อนลำปะทาว เริ่มมีระดับสูงเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ยังจะมีน้ำป่าหลากจากเทือกเขาภูแลนคา ลงมาพื้นที่ล้นสันเขื่อนลำปะทาวยังต่อเนื่อง
และยังต้องเฝ้าระวังในโซนเศรษฐกิจกลางใจเมืองชัยภูมิ ในระยะอีก 1-3 วันนี้ยังเสี่ยงเกิดน้ำท่วมหนักซึ่งจากรอบแรกจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ที่ถือว่าหนักสุดในรอบกว่า 50 ปีที่ผ่านมามาตั้งแต่ช่วงวันที่ 24 ก.ย.64 ที่ผ่านมา และในขณะนี้ถึงแม้ว่าระดับน้ำได้ลดลงสู่ภาวะปกติแล้ว แต่สถานการณ์การเกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุคมปาซุ ยังเสี่ยงทำให้กลับมาเกิดน้ำท่วมฉับพลันซ้ำอีกเป็นรอบที่สองอีกได้ในขณะนี้ด้วย
ซึ่งขณะนี้เองทางเทศบาลเมืองชัยภูมิ ได้เร่งเตรียมแผนการป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมหนักซ้ำอีก ด้วยการเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำหลากที่ผ่านเข้าตัวเมืองชัยภูมิเริ่มมีจำนวนมากเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลอด 24 ชม.มาตั้งแต่ตลอดทั้งคืนวานนี้ที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมซ้ำอีกอย่างเต็มที่อย่างต่อเนื่องในขณะนี้แล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: