ชัยภูมิ – ธนาคารต้นสังกัดเร่งคืนเงินให้ลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย เงินหายจากบัญชีได้คืนจบด้วยดีทั้งหมดแล้ว ส่วนกรณีสาวแบงค์วัย 28 ปี ที่เป็นพนักงานธนาคารได้ไล่ออกจากจากงาน พร้อมส่งตัวแทนธนาคารเข้าแจ้งความเอาผิดกับสาวแบงค์รายนี้เองเพิ่มเติมแล้ว ต่อกรณีที่เกิดขึ้นในข้อหาเป็นผู้ยักยอกเงินนายจ้างของธนาคาร ซึ่งธนาคารเป็นเจ้าเงินผู้เสียหายโดยตรงเองเพิ่มเติมต่อไป!
( 27 ต.ค.64 ) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคดีมีชาวบ้านบ้านในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ มาตั้งแต่ช่วงวันที่ 19 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ว่ามีการแอบโอนถอนเงินลูกค้าหายไปจากบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคาร ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งรายแรกได้รับความเสียหายพบมีเงินในบัญชีเงินฝากของตัวเองหายไปรวมกว่า 1.8 ล้านบาท
หลังจากมีการตรวจพบเมื่อวันที่ 19 ต.ค.64 ที่ผ่านมา จากกรณี น.ส.ฝ้าย นามหนองอ้อ อายุ 57 ปี มอบหมายให้ น.ส.นรินทร์ ดันชัยภูมิ อายุ 36 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 83 หมู่ที่ 2 ตำบลชีบน อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.พัชรพล อาจกมล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวจนต่อมาล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ 25 ต.ค.64 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งให้ตรวจสอบอีกจำนวนมากหลายราย รวมมีมูลค่าเงินหายไปจากบัญชีเงินฝากรวมอีกไม่น้อยกว่า 4 ล้านบาท
ซึ่งในกลุ่มผู้เสียหายได้พยายามติดต่อขอให้ทางธนาคารที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ และหนึ่งในตัวแทนผู้เสียหาย น.ส.นรินทร์ ดันชัยภูมิ เปิดเผยว่า ตนเองนั้นมีน้าสาวทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ ได้โอนเงินมาให้ตนเพื่อช่วยนำไปฝากเงินและทำเอกสารเกี่ยวกับการฝาก พร้อมทำประกันในบัตรกับทางธนาคารแห่งหนึ่งให้ โดยเจ้าตัวได้มอบหมายให้ตนนั้นเป็นธุระเกี่ยวกับการเงินมาโดยตลอด ซึ่งระยะหลังภายใน 8 เดือนที่ผ่านมา ตนนั้นไม่ได้ไปตรวจสอบทำการปรับสมุดบัญชีธนาคารเลย เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรและอยู่ในช่วงเกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่การเดินทางไปธนาคารก็ยากลำบาก กระทั้งเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ตนเองได้ไปทำการปรับสมุดดูยอดเงินในบัญชีให้กับน้าสาวที่อยู่ต่างประเทศ ก็พบว่าเงินในบัญชีหายไปเหลือเพียง 3,700 บาทเศษ (สามพันเจ็ดร้อยบาทเศษ) และมีการถอนเงินหายออกไปจากบัญชีเงินฝากไว้แล้วจำนวนกว่า 1,800,000 บาท ( หนึ่งล้านแปดแสนบาท) ในช่วงเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ตนจึงรีบโทรบอกพี่สาว ก่อนที่น้าสาวจะมอบอำนาจให้ตนนั้นเข้าไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน หลังจากที่ไปสอบถามทางธนาคาร ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนได้ จนกระทั่งเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้เข้าตรวจสอบที่ธนาคารแห่งนี้พบว่ามีหลักฐานว่ามีพนักงานของธนาคารรายหนึ่งเป็นสาววัย 28 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การเงินของธนาคารที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการแอบยักยอกเงินจำนวนนี้ของน้าสาวหายไป ซึ่งตรวจพบมีพฤติกรรมว่ามีการแอบยักยอกโอนเงินออกจากบัญชีของลูกค้าธนาคารหายไป และมีการหมุนเวียนเงินโอนเข้าออกหมุนเวียนกันไปมาบ่อยครั้ง ก่อนที่ลูกค้ารายนี้จะมาตรวจสอบบัญชีพบมีการถูกแอบยักยอกเงินดังกล่าวหายไปกว่า 1.8 ล้านบาท
ก่อนที่เมื่อวันที่ 25 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ทางด้าน ร.ต.ท.พัชรพล อาจกมล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ได้ติดตามไปขอเชิญตัวพนักงานธนาคารสาววัย 28 ปี รายนี้ ที่ทราบว่าประสบอุบัติเหตุกำลังไปรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ในตัวเมืองชัยภูมิ แห่งหนึ่ง ก่อนเชิญตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยภูมิ และรับสารภาพว่าเป็นคนยักยอกถอนเงินของลูกค้าธนาคารที่หายไปกว่า 1.8 ล้านบาท ซึ่งไม่มีเจตนาขโมยเพียงนำเงินไปลงทุนแต่หมุนเงินไม่ทันในช่วงนี้เท่านั้น ซึ่งพร้อมชดใช้เงินของลูกค้าคืนเข้าบัญชีทั้งหมดแล้ว รวมทั้งหลังตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีกจำนวนมากกว่า 3 ราย ซึ่งมีการเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ขอให้ตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งแต่ละรายมีเงินสูญหายไปจากบัญชีเงินฝากแล้วหลักรวมครั้งนี้อีกมากกว่า 4 ล้านบาท
ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาสาวพนักงานธนาคารรายนี้ ก็ได้ขอยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวเองมูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท และพร้อมจะเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนได้อีกครั้งในช่วงเวลา 14.30 น.วันนี้ที่ 27 ต.ค.64 ที่ผ่านมา พร้อมทนายความส่วนตัวเพื่อให้พนักงานสอบสวน สอบสวนเพิ่มเติมก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายในวันนี้ และไม่ขอให้ข้อมูลใด ๆ ต่อสื่อมวลชนที่ไปรอสอบถามว่าต้องการอยากขอความเป็นธรรมกับตัวเธอเองในครั้งนี้ด้วยหรือไม่แต่อย่างใด
ซึ่งในส่วนของทางตัวแทนธนาคารต้นสังกัดสาวแบงค์รายนี้เอง ตั้งแต่ช่วงวันที่ 26 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความเอาผิดกับสาวแบงค์ วัย 28 ปี รายนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งธนาคารเป็นนายจ้างผู้ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ที่มีพนักงานสาวแบงค์รายนี้ที่แอบถอนเงินลูกค้าในครั้งนี้หายไป พร้อมไล่ออกจากการเป็นพนักงานในครั้งนี้ด้วย และมีการโอนเงินคืนเข้าบัญชีให้กับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายคืนเข้าบัญชีครบทุกรายทั้งหมดแล้ว
ซึ่งล่าสุดครั้งนี้ ด้าน ร.ต.ท.พัชรพล อาจกมล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าของคดีหลังได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งในส่วนผู้เสียหายที่ถูกสาวแบงค์รายนี้ยักยอกแอบถอนเงินในบัญชีได้รับเงินคืนจากธนาคารได้คืนทั้งหมดแล้ว ก็คงเหลือในส่วนที่จะต้องดำเนินคดีสาวแบงค์รายนี้ตามกฎหมาย ในข้อหาลักทรัพย์ และยักยอกทรัพย์นายจ้าง ที่ธนาคารผู้เป็นนายจ้าง ซึ่งครั้งนี้ทางธนาคารเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงตามกฏหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: