ชัยภูมิ – มานานกว่าครึ่งเดือน! หลังประชาชนในพื้นที่ตำบลลุ่มลำชี อำเภอบ้านเขว้า ในปีนี้ได้ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายหนักสุดในรอบกว่า 50 ปี มาติดต่อกันถึง 2 รอบ สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงเส้นทางสัญจรภายในหมู่บ้าน ที่ต้องถูกมวลน้ำจากแม่น้ำชีไหลทะลักกัดเซาะพัดพื้นผิวการจราจรขาดเสียหายในหลายจุด ชาวบ้านใช้สัญจรผ่านไม่ได้มานานกว่าครึ่งเดือน หลังระดับน้ำท่วมเริ่มลดลงต่อเนื่องและคาดว่าในอีกไม่กี่วันนี้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ชาวบ้านจึงพากันออกมารวมพลังร่วมใจกัน!
( 30 ต.ค.64 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ จ.ชัยภูมิ สถานการณ์น้ำท่วมหนักในพื้นที่ตำบลลุ่มลำชี อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ถูกน้ำท่วมหนักมาติดต่อกันถึง 2 รอบ จากในรอบแรกเมื่อช่วงวันที่ 24 ก.ย.64 ที่ผ่านมา และล่าสุดรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 16 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดน้ำท่วมสร้างความเสียหายในพื้นที่มานานเกือบครึ่งเดือน โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณจุดเส้นทางสัญจรผ่านเข้าออกหมู่บ้าน ถนนเส้นทาง สายบ้านโนนน้อย-บ้านโนนโพธิ์ ที่ถูกน้ำชีหลากพัดกัดเซาะถนนขาดในหลายจุดชาวบ้านที่นี่นับหลายร้อยหลังคาเรือนถูกตัดขาดผ่านเข้าออกหมู่บ้านไม่ได้มานานกว่าครึ่งเดือนด้วยเช่นกัน
จนล่าสุดในขณะนี้น้ำท่วมในเกือบทุกพื้นที่เริ่มลดระดับลงต่อเนื่องและคาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้อีกไม่กี่วันนี้เอง ก็ได้มีผู้นำชุมชน ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้านไม่ได้มานานนับครึ่งเดือน ซึ่งหนักสุดบริเวณทางเข้าหมู่บ้านปากคันฉู หมู่ที่ 14 ที่พบว่าวันนี้ทางด้านปกครองท้องถิ่น ผู้นำฯ เทศบาล สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ และชาวบ้านในพื้นที่กว่า 100 คน ได้พากันออกมาร่วมแรงร่วมใจรวมพลังคนชุมชนกัน ช่วยนำดินมาบรรจุใส่กระสอบทราย เพื่อช่วยกันนำไปวางเรียงทำพนังกั้นน้ำไว้ก่อน เพื่อช่วยกันซ่อมแซมนำกระสอบทรายไปวางทับถมกันเพื่อทำเป็นสันถนนเพื่อเปิดให้ชาวบ้านพอได้ใช้เส้นทางในจุดดังกล่าวไปก่อน ซึ่งมีความจำเป็นในการที่จะต้องพาผู้เจ็บป่วยออกจาก ชุมชน และพอออกไปประกอบอาชีพได้เป็นการชั่วคราวก่อนในขณะนี้ได้ ระหว่างรองบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซมให้ถนนมีความมั่นคงแข็งแรงตามเดิมต่อไป
สำหรับพื้นที่ตำบลลุ่มลำชี อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เป็นพื้นที่อยู่ติดแม่น้ำชีไหลผ่านเกือบทุกหมู่บ้านในเขตอำเภอ ซึ่งมวลน้ำชีเวลาเอ่อล้นตลิ่งขึ้นมาก็จะหลากเข้าท่วมพื้นที่เป็นวงกว้างได้รับความเสียหายมาต่อเนื่องในปี 2564 นี้ มาแล้วถึง 2 รอบ ซึ่งชาวบ้านถือว่าหนักสุดในรอบกว่า 50 ปี อย่างที่ไม่เคยเจอน้ำท่วมหนักขนาดนี้มาก่อนด้วย และสร้างผลกระทบชาวบ้านเดือนร้อนหนักมาแล้วกว่า 22 หมู่บ้าน และพื้นที่การเกษตรอีกไม่น้อยกว่า 5 หมื่นไร่ รวมไปถึงถนนที่ใช้สัญจรภายในอีกหลายหมู่บ้าน ยังได้รับความเสียหายอีกเป็นจำนวนมากหลายสิบกิโลเมตร ทางชาวบ้านและผู้นำ ชุมชนได้หารือกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อให้เร่งสนับสนุนงบประมาณลงมาช่วยเหลือโดยเร็วที่สุดต่อไป
