ชัยภูมิ – ชาวนาในพื้นที่บ้านหนองแวง ออกเดินตระเวนหาขุดปูนาขายเลี้ยงชีพ สร้างรายได้เสริมทดแทนช่วงข้าวราคาตกต่ำหนักราคาถูกยิ่งกว่ารำ!
( 22 พ.ย.64 ) หลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกขึ้นยุ้งฉางแล้วในช่วงนี้ในหลายพื้นที่ ซึ่งชาวนายังต้องช้ำหนักขายข้าวไม่ได้ราคาถูกกว่าขายรำข้าวไว้เลี้ยงสัตว์ ราคาตกต่ำหนักกิโลกรัมไม่ถึง 5 บาท/กก. ชาวนาบ้านหนองแวง ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ หลังเก็บเกี่ยวข้าวในนาเสร็จแล้วในช่วงนี้ก็จะพากันถือ จอบ เสียม และถังหนึ่งใบ เดินออกจากบ้านลงไปไร่นาใกล้บ้านตัวเองกันตั้งแต่กินข้าวเช้าเสร็จของทุกวัน เพื่อไปหาขุดปูนา ซึ่งถือเป็นมรดกดินของชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือชาวอีสาน มายาวนานแต่โบราณ
เพื่อนำมาเป็นอาหาร และส่วนที่เหลือก็นำไปขายสร้างรายได้เสริมได้อีกทาง หลังการเก็บเกี่ยวข้าวในนาเสร็จปีนี้ และเป็นช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว หรือหน้าหนาว โดยอาศัยประสบการณ์และความชำนาญในการสังเกตว่าจะมีปูนาอาศัยอยู่ตรงจุดไหน โดยอาศัยการดูตามจากรอยเท้าปูเดินไป และจะเห็นกองดินเล็ก ๆ ที่ปูขุดไว้ที่ปากหลุม ซึ่งส่วนใหญ่มักอยู่ใต้ตอซังข้าวหรือตามขอบคันนา ก่อนใช้เสียมค่อยๆ ขุดเซาะโพลงไปเรื่อย ๆ ตามความลึกของรูปูเริ่มตั้งแต่ 30-50 เซนติเมตร โดยไม่ต้องใช้แรงมากเพื่อไม่ให้เสียมถูกตัวปูขาดได้รับบาดเจ็บ หรือตายได้ เพราะจะทำให้ราคาจำหน่ายไม่ดีเท่าปูที่ยังมีชีวิตเป็นๆ ซึ่งปูนาตัวผู้จะมีก้ามใหญ่กว่าตัวเมีย ซึ่งตัวเมียจะมีลักษณะกลมกว้างกว่าเพื่อเอาไว้เก็บไข่แพร่พันธุ์
สำหรับปูนาในช่วงนี้ ที่เป็นหน้าหนาว จะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมาก ถือเป็นอาหารโปรตีนสูงราคาถูกเนื่องจากปูในช่วงนี้กัดกินต้นข้าวในนาทำให้ตัวโตสมบูรณ์จนมีมันปูในกระดองเยอะ ซึ่งมันปูนานี้รสชาติจะหอม หวาน มัน โดยเฉพาะปูนาตัวเมียจะมีรสชาติเป็นที่ต้องการมาก ซึ่งปูนาสามารถนำไปทำอาหารเด็ดๆ ได้หลายอย่าง เช่น นำไปต้มกับน้ำปลาร้าแล้วนำมาแกะกระดองเอาข้าวเหนียวร้อนๆ จิ้ม หรือในภาษาอีสานเรียกว่า “จ้ำ” ลงมันปูเข้าปากรับประทาน หรือจะนำไปดองน้ำปลาไว้ใส่ส้มตำปู ทำเป็นลาบปู แกงอ่อมปู หรือปูปิ้งเกลือจนเหลืองสุก จะกินเล่นหรือกินกับข้าวก็เอร็ดอร่อยไม่แพ้กัน
โดย นายชนะ อาบสุวรรณ อายุ 77 ปี ชาวบ้านบ้านหนองแวง ต บ้านเพชร อ บำเหน็จณรงค์ จ ชัยภูมิ เล่าว่า ช่วงนี้จะเป็นฤดูกาลขุดปูนา โดยในช่วงหลังเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกนาปีแล้ว ช่วงเวลานี้ปูที่อยู่ในตามท้องไร่ท้องนา จะขุดรูอยู่ตามบริเวณทุ่งนา ตามคันนา เป็นจำนวนมาก โดยปูนาจะเข้าไปอยู่ในรูเพื่อหลบ หรือชาวบ้านจะเรียกว่าลงไปจำศีลอยู่ในรู ในช่วงนี้ที่จะเป็นช่วงหน้าแล้ง ซึ่งปูแต่ละตัวจะกินเก็บสะสมอาหารไว้ในตัวเป็นจำนวนมากในช่วงฤดู
และช่วงนี้ชาวนาในพื้นที่ ในช่วงนี้ที่ว่างจากการเก็บเกี่ยวผลิตข้าวแล้ว ก็จะพากันออกมาหาขุดปูนากัน เพื่อนำปูนาไปขาย และนำไปประกอบอาหารกินในครอบครัวกันจำนวนมาก โดยราคาขายในช่วงนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 70-90 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ดีมากในช่วงนี้ โดยในแต่ละวันจะขุดปูนาวันละไม่น้อยกว่า 2 – 4 กิโลกรัม พอนำไปขายมีรายเสริมต่อวันกว่า 200-300 บาทต่อวัน พอได้มีเงินใช้ ทดแทนราคาข้าวเปลือกที่ตกต่ำในช่วงนี้ ขายข้าวเปลือกตั้งแต่ข้าวทั่วไปถึงข้าวหอมมะลิคุณภาพดีได้ไม่ถึงกิโลกรัมละ 5-10 บาท ตนจึงไม่ขายข้าวในช่วงนี้ต้องรอเก็บไว้ ให้ราคาข้าวมีราคาดีขึ้นกว่านี้ก่อนจึงจะนำข้าวไปขาย จึงต้องออกมาหาขุดปูนา เพื่อนำไปขาย หารายเสริมได้ในช่วงนี้ไปก่อน
ด้านนางแวว อาบสุวรรณ อายุ 72 ปี ชาวบ้านหนองแวง เล่าว่า ตนมาขุดปูนาแบบนี้ทุกปี โดยจะนำปูนาที่ได้ไปขายในหมูบ้าน ได้กิโลกรัมละ 70 บาท ถือว่าเป็นราคาดี และไม่พอขายเลยในช่วงทุกวันในช่วงนี้ เพราะช่วงนี้ปูจะมีรสชาติที่อร่อย มีไข่และมีมันเยอะ เหมาะแก่การที่จะประกอบอาหารจึงเป็นที่นิยมแก่ชาวบ้าน โดยเมนูส่วนใหญ่ที่ลูกค้าซื้อปูนาไปนั้น จะนิยมนำไปแกงอ่อม นำไปลาบ และนำไปทำน้ำพริก ทำให้มีรายได้เสริมวันกว่า 200 บาท ถือเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสให้ชาวนาพอมีรายได้บ้างในช่วงนี้ได้ เพราะก่อนหน้านี้ พื้นที่นาแถวนี้ ประสบปัญหาน้ำท่วมหมด ข้าวก็ตาย ส่วนข้าวที่รอดขายก็ไม่มีราคา ทำให้ไม่มีรายได้ จึงต้องออกมาหาขุดปูนา หารายได้เสริมเพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในช่วงนี้ด้วยอีกทางได้เช่นกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: